10 เรื่องน่ารู้ก่อนดู The Shape of Water หนังตัวเต็งออสการ์ประจำปีนี้

10 เรื่องน่ารู้ก่อนดู The Shape of Water หนังตัวเต็งออสการ์ประจำปีนี้

ถือเป็นอีกหนึ่งในภาพยนตร์มาแรงของปีนี้สำหรับ The Shape of Water ผลงานการกำกับของ “Guillermo del Toro” (กิลเลอร์โม่ เดอ โทโร่) ผู้สร้างสรรค์ผลงานเหนือจินตนาการมาแล้วอย่าง Pan’s Labyrinth, Pacific Rim และ Hellboy

ซึ่งจากการคว้ารางวัลผู้กำกับและเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำ (Golden Globe Awards 2018) เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดภายหลังจากการฉายThe Shape of Water ที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สูงถึง 13 รางวัลก็มีทีท่าที่จะได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวก และส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นตัวเต็งที่น่าจับตามองในเวทีออสการ์ปีนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

และเพื่อเป็นการต้อนรับกระแสการเข้าฉายของ The Shape of Water ในบ้านเรา (ที่ถึงแม้จะมีจำนวนโรงที่น้อยและหาดูยากเหลือเกิน) วันนี้เราจึงได้นำ 10 เรื่องที่เป็นเกร็ดน่ารู้ก่อนดูมาฝากชาว Favforward กันครับ

The Shape of Water

1.The Shape of Waterเป็นผลงานการกำกับของ กิลเลอร์โม่ เดอ โทโร่ ผู้กำกับ นักเขียนบท และโปรดิวเซอร์ชาวเม็กซิโก เจ้าของภาพยนตร์แนวโกธิคสยองขวัญเรื่อง Pan’s Labyrinth หรือชื่อไทย อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต ถึงแม้หน้าหนังจะดูเหมือนภาพยนตร์ผจญภัย แต่เนื้อหาภายในกลับเต็มไปด้วยการเสียดสีและเนื้อหาที่ค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่

Beauty and the Beast

2.จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากในวัยเด็กของ กิลเลอร์โม่ ที่ได้รับชม Creature from the Black Lagoon ภาพยนตร์สยองขวัญที่มีอสูรกายใต้ทะเลสาปเป็นตัวเอก โดยเขาหวังไว้สักวันว่าสัตว์ประหลาดหรืออสูรกายจะลงเอยกับนางเอกได้โดยที่ไม่ต้องแปลงกายเป็นมนุษย์เหมือนใน Beauty and the Beast

The Shape of Water

3.เทพนิยายสำหรับผู้ใหญ่ คือแนวคิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวเอกภายในเรื่องอาจไม่ได้งดงามหรือเป็นในอย่างที่คนดูคาดหวังอยากให้เป็น แต่The Shape of Water จะเป็นการก้าวข้ามผ่านแนวความคิดที่ทำให้ผู้คนแตกแยกในปัจจุบัน โดยการนำเสนอความงดงามที่ไร้พรมแดน

The Shape of Water

4.ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับท้องทะเล โทนสีในเรื่องนี้จึงเน้นสีเขียว สีเขียวอมฟ้า สีฟ้า และสีฟ้าเข้มเป็นหลัก โดยใช้โทนสีเหลืองและสีแดงแทรกในบางฉากเพื่อสร้างความสมดุล

กิลเลอร์โม่ เดอ โทโร่

5.ฉากใต้น้ำที่เราเห็นในตัวอย่างภาพยนตร์นั้น เกิดจากเทคนิคการถ่ายทำประเภท Dry for Wet ที่เป็นการถ่ายทำบนพื้นที่แห้งแต่ใช้แสงสีและ Visual Effects ในการแต่งเติมจนดูเหมือนฉากใต้น้ำ ซึ่งที่เห็นพลิ้วๆ เหมือนลอยอยู่ในน้ำนั้นเป็นการทรงตัวบนลวดสลิงของนักแสดงแทบทั้งสิ้น!!

The Shape of Water

6.เรื่องราวของThe Shape of Water เกิดขึ้นในช่วงปี 1962 (ยุค 60) ซึ่งอยู่ในภาวะสงครามของสองกองทัพอย่างสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกา

กิลเลอร์โม่ เดอ โทโร่

7.The Shape of Waterคือภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 13 สาขา ไม่เว้นแม้แต่สาขาใหญ่ๆ อย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม

กิลเลอร์โม่ เดอ โทโร่

8.เพราะด้วยการกวาดรางวัลในเวทีใหญ่ๆ ที่ผ่านมาอย่าง Golden Lion, Golden Globe Award for Best Director, Golden Globe Award for Best Original Score, National Society of Film Critics Award for Best Actress, ADG Excellence in Production Design Awards – Period Film จึงทำให้ The Shape of Water กลายเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในเวทีออสการ์ที่จะประกาศผลในเดือนมีนาคม

กิลเลอร์โม่ เดอ โทโร่

9.จะด้วยความโชคดีหรือบังเอิญแต่อย่างใด ซึ่งในขณะที่The Shape of Water กำลังจะเข้าฉาย แวดวงฮอลลีวูดก็มีประเด็นเรื่อง ‘Me Too’ และ ‘Time’s Up’ ที่แสดงออกถึงความเท่าเทียมทางเพศและป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศในวงการบันเทิงพอดิบพอดี ซึ่งประเด็นทั้งหลายเหล่านี้ล้วนมีอยู่ใน The Shape of Water แทบทั้งสิ้น

กิลเลอร์โม่ เดอ โทโร่

10.ภายใต้เวลาสองชั่วโมงของภาพยนตร์เรื่องนี้The Shape of Water เต็มไปด้วยซิมโบลิกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเหยียดเชื้อชาติ การเหยียดผิว รักร่วมเพศ ภาวะสงคราม การกดขี่ทางเพศในที่ทำงาน และแบ่งแยกออกเป็น “พวกเขา” “พวกเรา”


ข้อมูลประกอบ: www.majorcineplex.com

เรื่องโดย: Nomad609

ภาพประกอบ: www.godhatesgeeks.com

keyboard_arrow_up