ไม่รู้ว่าแอบล้วงความลับกันไว้รึเปล่า เพราะแค่ Microsoft Surface Book i7 เปิดตัวแค่วันเดียว Macbook Pro ก็ปล่อยหมัดทะลวงไส้ ออกรุ่นล่าสุดต่อทันทีภายในไม่ถึง 24 ชั่วโมง แถมมาแบบฟังก์ชั่นจัดเต็มไม่แพ้กันให้ลูกค้าได้เปรียบเทียบเลือกซื้อตามความชอบไปเลย
แต่ทว่าเปิดตัวทีหลังแล้วไง…ใครแคร์ เพราะ Microsoft ก็รีบจัดแคมเปญโปรโมชั่นทันทีให้เจ้าของเครื่อง MacBook นำเครื่องมาแลกเปลี่ยนเป็น Surface Pro หรือ Surface Book รุ่นเก่าก็แลกได้
พร้อมมอบส่วนลดให้สูงสุด 650 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว บาท 22,833 บาท ครอบคลุมทั้ง MacBook, MacBook Air และ MacBook Pro ตั้งแต่ปี 2006 รวม 117 รุ่น แต่อุปกรณ์ต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้
เจ้าของ MacBook ที่ต้องการส่งเครื่องมาแลกซื้อ Surface Pro หรือ Surface Book สามารถประเมินราคา MacBook ของตัวเองได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft จากนั้นจัดส่ง MacBook เครื่องเก่าให้กับ Microsoft และรอรับ Email จาก Microsoft ซึ่งจะส่งรหัสส่วนลดมาให้ ลูกค้าเพียงนำรหัสส่วนลดไปกรอกตอนสั่งซื้อ Surface Pro หรือ Surface Book
อ่านแล้วอย่าพึ่งวิ่งไปที่ร้าน Microsoft เพราะโปรนี้สำหรับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และใช้ได้จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2016 นี้
มาเข้าเรื่องสเปคกันสักที บอกเลยว่าเลือกไม่ถูก เห็น Microsoft Surface Book i7 ก่อนก็ว่าว้าวแล้ว ตื่นมาวันรุ่งขึ้นเจอสเปคและฟังก์ชั่นใหม่ๆ ของ Macbook Pro 2016 นี่แบบลังเล ราคาก็ดันทำออกมาใกล้เคียงกันอีก ฉะนั้นเรามาวัดที่สเปคและฟีเจอร์การใช้งานกันดีกว่า
Microsoft Surface Book i7
สิ่งแรกที่ทำให้เราต้องลังเล เพราะระบบปฏิบัติการรองรับกราฟิกแบบเทพๆ นี้ล่ะ ที่แต่เดิมครีเอทีฟและกราฟิคดีไซน์เนอร์ส่วนใหญ่เลือก Macbook แต่ลองมาดูแบบ Shot ต่อ Shot อย่าพึ่งดูแต่รูปลักษณ์ภายนอกนั้นอาจเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมก็คือ สเปคภายในที่ถูกปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของประสิทธิภาพการประมวลผลและกราฟิก อีกทั้งแบตเตอรี่ยังใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมงด้วยกัน เทียบกับรุ่นแรกแล้วดีขึ้นกว่า 30% ทีเดียว
แน่นอนว่า Surface Book i7 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i5 หรือ i7 Gen 6 Skylake ให้เลือกช่วยในการประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น และยังร้อนน้อยลงไม่ต้องเอาพัดลมมาเป่าให้เครื่องเย็นอีกแล้ว ส่วนกราฟิกการ์ดนั้นมีตั้งแต่รุ่นที่เป็นออนบอร์ด Intel HD Graphics 520 ไปจนถึง NVIDIA GeForce GTX 965M 2GB
ขนาดหน้าจอ 13.5 นิ้ว ไม่ใช่ 13 นะ ซื้อซอฟท์เคสแบบเดียวกับ MacBook Pro ใส่ไม่ได้ ความละเอียด 3000 x 2000 พิกเซล ที่สามารถถอดหน้าจอได้ ให้ผู้ใช้ใช้งานได้ง่ายขึ้นไม่ต้องพึ่งเม้าส์ปากกา เพราะเขาออกแบบให้มาใช้คู่กับปากกาสไตลัสในตัวรองรับแรงกดได้ 1,024 ระดับ อายุแบตเตอรี่ได้หนึ่งปี ประสิทธิภาพความแรงก็ระดับมืออาชีพ มีกราฟิกการ์ดแยกเป็น NVIDIA รุ่นล่าสุด ใช้แบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง สนนราคา ไฮไลท์อยู่ตรงที่ Microsoft เคลมว่าแรงกว่า MacBook Pro ถึง 2 เท่าด้วยกัน (เอ้อเอาสิ)
มาต่อกันที่ความบางเบาเฉียบที่อยากจะเอาชนะ MacBook Pro ให้ได้ นอกจากดีไซน์สวยคมเฉียบยังใช้เป็นแม็กนีเซียมอัลลอยด์ที่ให้ทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักเบาไปพร้อมๆ กัน ซึ่งหนักเพียง 1.51 กิโลกรัม แต่ถ้าถอดเป็นหน้าจอออกมาก็จะเหลือเพียง 726 กรัมเท่านั้นเรียกได้เบาใกล้เคียงกับ Microsoft Surface Pro 4 ทีเดียว
ส่วนแรมก็จัดเต็มได้ที่ 16GB และ SSD ก็ไปได้สุดที่ 1TB ที่สำคัญยังมีกราฟิกการ์ดแยกของ NVIDIA ที่ติดตั้งไว้ส่วนของแป้นคีย์บอร์ด ซึ่งเป็น NVIDIA Geforce GPU พร้อมแรม GDDR5
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่ออื่นๆ ก็ครบครันอย่าง USB 3.0, Mini DisplayPort, micro SD Care สำหรับเชื่อมต่อไร้สายก็จะเป็น Wi-Fi แบบ 802.11ac MIMO, Bluetooth 4.0 LE
เสมือนรถไฮบริคสุดแรง แต่ย่อส่วนมาเป็นโน้ตบุ้คดีๆ นั่นเอง
ราคาจำหน่าย Microsoft Surface Book ที่อเมริกา
Core i5, 128 GB, แรม 8 GB อยู่ที่ $1,499 (ประมาณ 54,000 บาท)
Core i5, 256 GB, แรม 8 GB อยู่ที่ $1,699 (ประมาณ 61,100 บาท)
Core i5, 256 GB, แรม 8 GB, มีกราฟิกการ์ด NVIDIA อยู่ที่ $1,899 (ประมาณ 68,300 บาท)
Core i7, 256 GB, แรม 8 GB, มีกราฟิกการ์ด NVIDIA อยู่ที่ $2,099 (ประมาณ 75,500 บาท)
Core i7, 512 GB, แรม 16 GB, มีกราฟิกการ์ด NVIDIA อยู่ที่ $2,699 (ประมาณ 97,100 บาท)
อุปกรณ์เสริม Microsoft Surface Book ที่อเมริกา
Surface Pen มีสีดำเข้ม, น้ำเงิน, แดง, สีเงิน และสีทอง ราคา $59.99 (ประมาณ 2,100 บาท)
Surface Dock ราคา $199.99 (ประมาณ 7,000 บาท)
MacBook Pro 2016
ถึงคราฮุคขวาของ MacBook Pro บ้าง ถ้าเขาจัดมาเรื่องความบางที่แต่เดิมนั้น MacBook ยังกำจัดออกไม่ได้ เลยต้องทำ MacBook Air ออกมาแทนแต่กลับลดสเปคหายไปเยอะเหมือนกัน มาคืนนี้ MacBook เค้ามาไอเดียใหม่เปลี่ยนตัวเครื่องให้บางสุดๆ ทั้งเร็วและทรงพลังขึ้นกว่าที่เคย แต่บางและเบาลงอย่างน่าทึ่ง ถ้าเป็นรุ่น 13 นิ้ว จัดไปที่น้ำหนัก 1.37 กิโลกรัม ชนะน้ำหนักของ Surface ถึง 0.14 กิโลกรัม แต่ยังไง Surface ก็ได้จอที่กว้างกว่าถึง 0.5 นะเออ ส่วนรุ่น 15 นิ้วมาที่น้ำหนัก 1.83 กิโลกรัม ก็ถือว่ายังทำได้ดี
Touch Bar และ Touch ID ที่ MacBook Pro มีครั้งแรก
ความล้ำสมัยที่เปลี่ยนแถวปุ่มฟังก์ชั่นแบบเดิมให้กลายเป็นจอภาพ Multi-Touch คุณภาพระดับ Retina® ที่สวยงามในชื่อ Touch Bar แถบกระจกซึ่งได้รับการผสานรวมให้เป็นส่วนหนึ่งของคีย์บอร์ด โดยนำปุ่มควบคุมการใช้งานต่างๆ มาจัดวางในตำแหน่งระดับสายตา เพียงปลายนิ้วสัมผัส และจะปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมขณะใช้งานเครื่องหรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ อาทิ Mail, Finder, Calendar, Numbers, Final Cut Pro® X และอีกมากมาย รวมถึงแอปของบริษัทอื่นด้วย ตัวอย่างเช่น Touch Bar จะแสดงแท็บและเว็บไซต์โปรดใน Safari, แสดงอิโมจิให้เลือกได้ง่ายขึ้นในแอป Messages, ช่วยให้ปรับแต่งรูปหรือเลื่อนดูวิดีโอขณะอยู่ในแอป Photos ได้อย่าง
นอกจากนี้ยังเปิดการใช้งานของ Touch ID เข้ามาใช้ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับปุ่มเปิด-ปิด ช่วยเพิ่มความความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งาน เมื่อคุณลงทะเบียนลายนิ้วมือใน Touch ID บน MacBook Pro แล้ว คุณก็จะสามารถปลดล็อค Mac หรือสลับบัญชีผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วโดยการสัมผัสเบาๆเพียงครั้งเดียว ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะ Touch ID สามารถอ่านลายนิ้วมือของคุณได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
จอภาพโน้ตบุ๊คที่สว่างที่สุดและแสดงสีสันได้มากที่สุดของ Apple
MacBook Pro มาพร้อมจอภาพใหม่ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโน้ตบุ๊ค Mac เลยทีเดียว เพราะมีแผงแบ็คไลท์ LED ที่สว่างขึ้นและมีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูงขึ้น ทำให้สามารถแสดงสีดำได้ดำสนิทยิ่งขึ้น และแสดงสีขาวได้สว่างสดใสยิ่งกว่าเดิม จอภาพ Retina บน MacBook Pro ใหม่มีความบางเพียง 0.88 มม. เท่ากับจอภาพ MacBook และมีความสว่าง 500 นิตส์ หรือสว่างกว่ารุ่นก่อนถึง 67% พร้อมคอนทราสต์ที่สูงกว่ารุ่นก่อน 67% ส่วนรูรับแสงที่ใหญ่ขึ้นในแต่ละพิกเซลและอัตราการรีเฟรชแบบแปรผันก็ช่วยให้ จอภาพประหยัดพลังงานได้มากกว่ารุ่นก่อน
นอกจากนี้ยังเป็นโน้ตบุ๊ค Mac รุ่นแรกที่รองรับขอบเขตสีแบบกว้างอีกด้วย จึงสามารถแสดงสีเขียวและสีแดงได้สวยสดงดงามยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าภาพที่เห็นจะสวยงามสมจริงยิ่งกว่าเดิมและถ่ายทอดทุกรายละเอียดได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับงานกราฟิกดีไซน์ ปรับสี และตัดต่อ
ระบบปฏิบัติการทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
MacBook Pro ใหม่ ยกระดับโน้ตบุ๊คให้เหนือชั้นไปอีกขั้น ด้วยขุมพลังความแรงเมื่อนำโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังและกราฟิกสุดล้ำมารวมกับ SSD ที่เร็วสุดแรง หน่วยความจำความเร็วสูง และสถาปัตยกรรมการระบายความร้อนอันล้ำสมัย ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือประสิทธิภาพการทำงานระดับมืออาชีพอันเหนือชั้นในตัวเครื่องที่บางยิ่งกว่าเดิม โปรเซสเซอร์รุ่นที่ 6 จาก Intel ทั้ง Core i5 แบบ Dual-core พร้อม eDRAM, Core i7 แบบ Dual-core พร้อม eDRAM และ Core i7 แบบ Quad-core มีประสิทธิภาพการประมวลผลระดับมืออาชีพ และในขณะเดียวกันยังประหยัดพลังงานด้วย นอกจากนี้ MacBook Pro รุ่น 15 นิ้ว ใหม่ยังมาพร้อมกราฟิกแบบแยก Radeon Pro อันทรงพลังที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่นก่อนถึง 2.3 เท่า ในขณะที่ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว มี Intel Iris Graphics ที่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า ยิ่งไปกว่านั้น ทุกรุ่นยังมาพร้อม SSD ที่มีความเร็วในการอ่านข้อมูลแบบเรียงลำดับสูงกว่า 3Gbps และ Thunderbolt 3 ที่รวมการถ่ายโอนข้อมูล การชาร์จไฟ และแบนด์วิดท์วิดีโอที่สูงขึ้นอีก 2 เท่าไว้ในพอร์ตเดียว ช่วยให้ผู้ใช้สามารถต่อจอภาพ 5K และชาร์จ MacBook Pro ได้ด้วยสายเส้นเดียว
MacBook Pro 2016 มาพร้อมคุณสมบัติ
- ลำโพงได้รับการออกแบบขึ้นใหม่หมดเพื่อเพิ่มช่วงไดนามิกให้กว้างขึ้น 2 เท่า และมีพลังเสียงสูงขึ้นถึง 58% พร้อมเสียงเบสที่ดังกระหึ่มเต็มพลังยิ่งกว่าเดิมถึง 2.5 เท่า อีกทั้งยังเชื่อมต่อโดยตรงกับอุปกรณ์จ่ายไฟของเครื่อง ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังขับสูงสุดอีกถึง 3 เท่า ทั้งหมดนี้ทำให้ MacBook Pro เป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับการมิกซ์เพลงในทุกที่ทุกเวลา หรือจะตัดต่อวิดีโอทันทีที่ถ่ายเสร็จและสนุกกับภาพยนตร์ขณะเดินทางก็ได้เช่นกัน
- แทร็คแพด Force Touch ที่ใหญ่ขึ้นมาก โดยสำหรับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 46% และ MacBook Pro รุ่น 15 นิ้ว มีขนาดใหญ่ขึ้น 2 เท่า
- คีย์บอร์ดใช้กลไกแบบปีกผีเสื้อรุ่นที่ 2 จึงตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นและพิมพ์ได้สบายกว่าเดิม
- macOS™ Sierra ระบบปฏิบัติการสำหรับเดสก์ทอปที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น การใช้งานร่วมกับ Siri®,Universal Clipboard และแอพ Photos ที่จะพาคุณย้อนกลับไปดูความทรงจำสุดประทับใจ จัดระเบียบคลังของคุณ และปรับแต่งรูปถ่ายให้สวยงามโดนใจราวกับมืออาชีพ
เปรียบเทียบราคา MacBook Pro รุ่นต่างๆ
- MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว มีราคาเริ่มต้นที่ 56,900 บาท ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core i5 แบบ Dual-core ความเร็ว 2.0 GHz พร้อม Turbo Boost สูงสุด 3.1 GHz, หน่วยความจำขนาด 8GB และตัวจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชความจุ 256GB พร้อมจัดส่งแล้ววันนี้
- MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อม Touch Bar สุดล้ำและ Touch ID มีราคาเริ่มต้นที่ 67,900 บาท ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core i5 แบบ Dual-core ความเร็ว 2.9 GHz พร้อม Turbo Boost สูงสุด 3.3 GHz, หน่วยความจำขนาด 8GB และตัวจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชความจุ 256GB พร้อมจัดส่งในอีก 2-3 สัปดาห์
- MacBook Pro รุ่น 15 นิ้ว มีราคาเริ่มต้นที่ 89,900 บาท โดยมาพร้อม Touch Bar และ Touch ID สุดล้ำ และประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core i7 แบบ Quad-core ความเร็ว 2.6 GHz พร้อม Turbo Boost สูงสุด 3.5 GHz, หน่วยความจำขนาด 16GB และตัวจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชความจุ 256GB พร้อมจัดส่งในอีก 2-3 สัปดาห์
บอกตามตรงว่าเห็นสเปคทั้ง 2 ค่ายระหว่าง MacBook Pro และ Microsoft Surface Book i7 แล้วก็ยังเลือกไม่ถูก เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าระบบสเปคแบบไหนจะเหมาะกับการใช้งานของคุณมากกว่า
