“เป๊บซี่เต็มที่กับชีวิต” สโลแกนที่ยังติดอยู่ในหูมาหลาย 10 ปีกับความเป็นอมตะเรื่องรสชาติ เรียกได้ว่ากลายเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมให้นึกถึงเวลาที่คิดอยากดื่มดับกระหายคลายร้อน หรือทานคู่กับอาหารแสนอร่อยเพื่อเพิ่มรสชาติมื้อนั้นให้ลงตัวยิ่งขึ้น แต่ไม่น่าเชื่อว่าที่ผ่านมาเป๊ปซี่ไม่ได้ผลิตออกมาให้ลิ้มลองแค่รสชาติเดียว แต่ยังมีอีก 13 รสชาติสุดลิมิเต็ด ที่ทำออกมาพิเศษจำหน่ายทั่วโลก
1. PEPSI FIRE & PEPSI ICE
ดื่มแล้วร้อนดั่งไฟหรือเย็นละลายดั่งน้ำแข็ง ไม่ว่าคุณจะเลือกรสชาติไหน รับรองถึงใจทั้งคู่ เพราะ PEPSI FIRE ให้สัมผัสถึงรสชินนาม่อน ซ่าปนหวานในอารมณ์เครื่องเทศ ส่วน PEPSI ICE เย็นถึงใจด้วยรสมิ้นท์ น่าจะถูกคอคนชอบความเย็นซ่าแบบสุดๆ วางจำหน่ายแค่เกาะกวม เกาะไซแปน ไทย มาเลย์เซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเม็กซิโก เมื่อปี 2004
2. PEPSI BLUE HAWAII
ไม่ต้องบินลัดฟ้าไปถึงเกาะสวาทหาดสวรรค์ เพื่อจิบน้ำสับปะรดริมทะเล แค่ดื่ม PEPSI BLUE HAWAII ก็ให้สัมผัสเสมือนอยู่ริมหาด นอนอาบแดดบนเตียงผ้าใบ แค่เห็นภาพ PEPSI BLUE HAWAII ครั้งแรกก็ทำเอานึกถึงคอกเทลรสเลิศ ที่ให้ความสดชื่นแบบไร้แอลกอฮอล์ และมีรสหวานอมเปรี้ยวจากเลมอนเสริมทัพ
3. PEPSI SAKURA
เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อมีนาคม 2016 PEPSI SAKURA แค่ชื่อก็ชวนให้นึกจินตนาการไปไกลถึงต้นซากุระในญี่ปุ่น ซึ่งครั้งนี้เป๊ปซี่ ดึงเอากลิ่นและสีสันของดอกไม้ประจำชาติมาแต่งแต้มให้หน้าร้อนของญี่ปุ่นหัวใจพองสดใสขึ้น นอกจากสีสันตัวน้ำจะเป็นสีชมพูแล้วยังมีกลิ่นซากุระหอมหวานที่ใส่เข้ามาช่วยเพิ่มอรรถรสในการดื่ม
4. PEPSI WHITE
Pepsi White ถูกเปิดตัวเมื่อปี 2008 มีหน้าตาสีขาวโพลนซึ่งฉีกรูปแบบเดิมของเป๊บซี่สีดำโดยสิ้นเชิง เหตุของการออกแบบก็เพื่อให้เข้ากับฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะของประเทศญี่ปุ่น เป็นเครื่องดื่มที่จะวางจำหน่ายเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น โดย PEPSI WHITE ผลิตออกมาตัวแรกๆ เป็นรสโยเกิร์ต แต่ดูเหมือนว่าจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ในเดือนธันวาคมปี 2012 ทางเป๊ปซี่เลยนำ PEPSI WHITE กลับมาทำใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นรสส้มเขียวหวานแทน ถ้าใครจะซื้อ PEPSI WHITE ต้องลองอ่านดูดีๆ ว่าเป็นรสไหน หรือลองสังเกตุง่ายๆ จากรูปเจ้าตุ๊กตาหิมะที่มีมาให้เลือกถึง 6 แบบ เพราะเป็นการบอกรสชาติว่าขวดนั้นเป็นรสส้มเขียวหวานนั่นเอง
5. PEPSI SALTY WATERMELON
ถ้าบอกว่าเป็นเป๊บซี่รสแตงโมยังพอเข้าใจได้ แต่เป๊บซี่แตงโมเค็มเป็นอย่างไร แอบสงสัยอยู่ไม่น้อย หนึ่งในรสชาติแปลกที่ขายดี เปิดตัวไปตั้งแต่กรกฏาคมปี 2012 รสนี้เกิดจากรสนิยมผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่นหลายๆ คนนั้นชื่นชอบทานแตงโมเป็นชีวิตจิตใจ ฉะนั้นการนำรสผสมเกลืออย่าง SALTY WATERMELON เลยทำให้เป็นการเติมความสดชื่นแบบฤดูร้อนเข้ามา
6. PEPSI PINK
มองดูแล้วประเทศญี่ปุ่นดูจะชอบสีชมพูเอามากๆ เพราะไม่เพียงแต่จะออกเป๊ปซี่สีชมพูมาให้ลองชิม ยังตามมาด้วย PEPSI SAKURA ที่มีสีค่อนข้างชมพู๊ ชมพูและยังมีกลิ่นหอมๆ ตามมาด้วย แต่ถ้าจะพูดถึง PEPSI PINK นั้นไม่ต่างจาก PEPSI WHITE เท่าไรตรงที่มีการนำมาจัดจำหน่ายถึงสองครั้ง แต่ล้วนเป็นรสนมสตอร์เบอรี่เหมือนกัน โดยครั้งแรกนั้น PEPSI วางจำหน่ายเป็นรุ่นทดลองในเดือนพฤศจิกายน 2011 และเนื่องจากแค่ครั้งแรกก็ได้รับความนิยมมาก เลยต้องนำกลับมาอีกครั้งในเดือนธันวาปี 2012 สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเปลี่ยนชื่อจาก PEPSI PINK เป็น PEPSI PINK COLA
7. PEPSI STRONG
ชื่อนี่ก็บอกถึงความแข็งแกร่งได้ PEPSI STRONG แตกต่างไปจากเดิมตรงที่อัดปริมาณก๊าซเข้าไปมากขึ้น มีความซ่ามากขึ้น โดยเดิมขนาดบรรจุ 1 ลิตรจะอัดก๊าซ (คาร์บอนไดออกไซด์) 1.0 GV แต่สูตรใหม่บรรจุก๊าซถึง 5.0 GV ซึ่งเป็นปริมาณก๊าซสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในบรรดาเป๊ปซี่สูตรต่างๆในตลาด และด้วยพลังความซ่าในระดับเข้มข้นนี้เอง เครื่องดื่มสูตรใหม่นี้จึงได้ชื่อว่า เป๊ปซี่ สตรอง บรรจุมาในขวดดีไซน์ใหม่ รูปลักษณ์ดูเท่ เข้ม สมชื่อและด้วยความที่มีปริมาณก๊าซเพิ่มขึ้นมากนี่เอง จึงจำเป็นต้องพัฒนาขวดแบบใหม่ที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิมเรียกว่า ขวดเสริมความแกร่ง หรือ reinforced bottle วางตลาดแค่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
8. PEPSI ICE CUCUMBER
เห็นแค่สี ก็กลัวจะดื่มแล้วกลายร่างเป็นมนุษย์เอลฟ์ เพราะ PEPSI ICE CUCUMBER ถูกผลิตออกมาในโทนสีเขียวเย็นๆ แต่หลายคนก็มีคำถามในใจว่า เจ้าเป๊ปซี่รสแตงกว่านั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ทานแล้วจะอร่อยถูกใจสำหรับคนไม่ชอบผักรึเปล่า? ซึ่งทาง Suntory ทำรสนี้มาตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2007 และยังคงมีวางจำหน่ายอยู่จนทุกวันนี้ อยากรู้จริงๆ ว่ามันรสเยี่ยมขนาดไหน ทำไมถึงยังสามารถวางขายมาจนถึงทุกวันนี้
9. PEPSI DRY
ดื่มเป๊ปซี่ตัวนี้แล้วจะคอแห้งไหม? แค่ชื่อก็ทำเอาพิสมัยหาคำตอบ แต่พอเห็นแพ็คเกจเท่ๆ ก็อยากจะรีบหามาดื่มสักขวด ความพิเศษของเป๊ปซี่ตัวนี้ คือไม่มีความหวานจากน้ำตาลเลยสักนิด แตกต่างจาก MAX ตรงที่ให้ความหวานเทียมแต่จำกัดปริมาณแคลอรี่เท่านั้นเอง
10. PEPSI SHISO
ถ้าชอบความแปลกหรือชอบลองรสชาติอะไรใหม่ๆ แนะนำว่าให้ลอง PEPSI SHISO ผลิตออกมาในปี 2009 ที่ผสมรสใบชิโสะเข้าไป ซึ่งใบชิโสะนี่กลิ่นจะคล้ายๆ กับใบมินท์ ที่ออกรสซ่า ชิโสะถือเป็นพืชสมุนไพรพื้นเมืองชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ใบมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งแคลเซียม เหล็ก โปแตสเซียม ไฟเบอร์ และมีปริมาณวิตามิน A และวิตามิน C สูงมาก แล้วยังมีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบได้ด้วย
11. PEPSI RAW
อีกหนึ่งรสที่แค่เห็นตัวผลิตภัณฑ์ ก็ชวนให้อยากคว้ามาดื่มสักขวด ด้วยรูปแบบมินิมอล สีน้ำมีสีน้ำตาลอ่อนๆ ยากแก่การคาดเดาจริงๆ แล้ว PEPSI RAW ออกมาเพื่อจับกระแสเพื่อสุขภาพ โดยเปลี่ยนมาใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ผสมกันให้ได้รสชาติเหมือนเป๊บซี่ต้นฉบับ สกัดจากแอปเปิ้ล น้ำตาลอ้อยองุ่นและกาแฟ ส่วนน้ำที่ใช้จะเป็น sparkling water แทนการอัดคาร์บอเนต ให้สัมผัสรสอ่อนกว่าเป๊ปซี่ออริจินอลเล็กน้อย แต่ความซ่าน้อยกว่าเยอะ มีวางขายเฉพาะที่อังกฤษเท่านั้น
12. PEPSI AZUKI
จัดไปอีกหนึ่งเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่น เรามักจะเคยทานขนมหวานตามร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทน้ำแข็งใสถั่วแดง และนั่นคือของขึ้นชื่อ จน PEPSI ต้องหยิบเอามาทำรสชาติพิเศษที่ชื่อว่า PEPSI AZUKI ให้รสชาติเสมือนทานถั่วแดงญี่ปุ่น ที่มีรสนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าถั่วแดงต้มเป็นขนมหวานพื้นเมืองของประเทศญี่ปุ่น ผสมผสานกับเป๊ปซี่ี่อยากทำรสแบบพื้นเมืองพอดิบพอดี จึงเกิดรสนี้ขึ้นมา
13. CRYSTAL PEPSI
มาถึงตัวไฮไลท์ของงานนี้ เมื่อปลายธันวาคมปี 2015 เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ของการกลับมาในรอบ 20 กว่าปีของ CRYSTAL PEPSI นับตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งเป็นเป๊ปซี่ที่มีลักษณะใสราวกับน้ำเปล่าหรืออีกนัยหนึ่งก็มีรสชาติคล้ายๆ Sprite นั่นแหละ ซึ่งในยุค 1992 นั้นทำออกมาถึง 2 แบบคือแบบออริจินอลและประเภท ไดเอ็ต แม้ว่ากระแสตอบรับจะดีแค่ไหนแต่การกลับมาใหม่อีกครั้งในปี 2015 ก็เลือกให้สิทธิ์ผู้ครอบครองเฉพาะคนที่มาร่วมแข่งเกมส์เท่านั้นผ่านเว็บไซต์ PEPSI PASS ผู้ชนะจะได้รับ CRYSTAL PEPSI กลับบ้านไปมากถึง 13,000 แพ็ค แต่เป็น่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้ร่วมสนุกแค่ 2 วันเท่านั้น และแน่นอนว่ากระแสเรียกร้องในปี 2016 ทำให้ CRYSTAL PEPSI ต้องกลับมาอีกครั้ง เปิดวางจำหน่าย 7 กรกฎาคมที่แคนนาดา และที่อเมริกาในวันที่ 8 สิงหาคม ถ้าใครพลาดไป รอบนี้แหละจะได้กลับมาลิ้มรสกันอีกครั้งเพราะจะวางจำหน่ายแต่ละประเทศแค่ 8 วีคเท่านั้น