เจาะลึกเทรนด์สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างสมดุลให้ชาว Gen Z

เจาะลึก เทรนด์สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างสมดุลให้ชาว Gen Z

การสร้างสถาปัตยกรรมซึ่งมุ่งส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างสมดุลของผู้ใช้อาคารนับเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงและเติบโตอย่างต่อเนื่องในแวดวงสถาปัตยกรรมของไทย รวมถึงการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งออกแบบตามมาตรฐานอาคารระดับโลกอย่าง LEED* GOLD และ WELL* GOLD

ในปัจจุบัน ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ภายในตึกหรืออาคารที่พักอาศัยโดยเฉลี่ยแล้ว มากกว่าร้อยละ 90 ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานหรือสุขภาพโดยรวมเมื่อใช้ชีวิตอยู่ในอาคารมากไป โดยมีผลการศึกษาว่าชาวกรุงเทพฯ มีชั่วโมงการทำงานโดยเฉลี่ยต่อคน ยาวนานถึง 42.13 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ติดอันดับที่ 5 ของโลก สถิติเหล่านี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมจุดกระแสใหม่ในวงการสถาปัตยกรรมของไทย โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใส่ใจธรรมชาติและผู้คนที่เป็นตัวชูโรงแห่งวิวัฒนาการสำคัญของวงการ

ยิ่งปัจจุบันกลุ่มคนทำงานอยู่ในเจน Y และ Z มากยิ่งขึ้น ผลสำรวจต่างๆ ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการมีพื้นที่ทำงานล้ำสมัย และพื้นที่ทำงานร่วมกันที่ผสมผสานธรรมชาติและการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในสังคมเมืองอย่างลงตัว นั่นคือเทรนด์ใหม่ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

เหตุใดการออกแบบอาคารจึงควรให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างสมดุลของผู้อยู่อาศัย

ผลการศึกษาจาก CBRE บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เผยว่าอาคารสำนักงานหลายแห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังทุ่มเม็ดเงินมหาศาลให้กับระบบสาธารณูปโภคในอาคาร รวมไปถึงโปรแกรมหรือเวิร์คช็อปต่างๆ ที่มุ่งสร้างเสริมสุขภาพของพนักงาน โดยเน้นสององค์ประกอบหลักอันเป็นหัวใจของสภาพแวดล้อมอาคารอย่างคุณภาพอากาศและอุณหภูมิภายในอาคาร ซึ่งตอกย้ำ็ว่าเหตุใดเราจึงควรให้ความสำคัญกับสองสิ่งนี้

นอกจากนี้ ผลการศึกษาของนายเจสัน แมคเลนแนน (Jason McLennan) ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ International Living Future ยังระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้ว พนักงานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จะทำงานได้มีประสิทธิผลมากขึ้นถึงร้อยละ 20 ซึ่งสภาพแวดล้อมการทำงานที่ล้ำสมัยนั้นไม่เพียงแค่ส่งผลดีต่อการทำงาน แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อพนักงาน
1 คนในทางอ้อม เพราะจำนวนวันลาป่วยที่ลดลงนั่นเอง

มาตรฐาน LEED และ WELL เป็นการผนวกรวมเทคโนโลยีขั้นสูงเข้าด้วยกันและใช้ประโยชน์ทางทรัพยากรที่มีอยู่ รวมถึงทรัพยากรทดแทนได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ยังเป็นมาตรฐานสำคัญที่ช่วยให้การใช้พลังงานน้อยลง รวมถึงช่วยยืดอายุการใช้งานของอาคาร

สำหรับอาคารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารจาก WELL นั้นต้องผ่านการประเมินใน 7 หัวข้อหลัก ได้แก่ Air (อากาศบริสุทธิ์) Water (น้ำสำหรับอุปโภค บริโภคสะอาด ปลอดภัย) Nourishment (มีอาหารสดใหม่ บำรุงสุขภาพร่างกาย) Light (มีการควบคุมแสงสว่างที่เหมาะสม) Fitness (มีพื้นที่หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ) Comfort (สภาพแวดล้อมที่สงบ) และ Mind (ให้ความผ่อนคลาย ดีต่อสุขภาพจิต)

ขณะนี้กรุงเทพฯ มีพื้นที่ประมาณ 750,000 ตร.ม. ที่กำลังทำการก่อสร้างพื้นที่สำนักงาน ส่วนในภูมิภาคเอเชียนั้น มีตึกและอาคารสำนักงานใหม่ๆ ผุดขึ้น มากถึงร้อยละ 50 ต่อปี ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเมืองแห่งอนาคตจะยึด “สุขภาพ” เป็นหัวใจสำคัญของ “ความมั่งคั่ง” ที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

ขอบคุณข้อมูลจาก The Parq

keyboard_arrow_up