เปิดทุกห้อง ส่องทุกมุม ด้านลึกที่คุณยังไม่รู้ของ อะตอม ชนกันต์
รอยยิ้มแสนหวาน ใบหน้าที่ดูเป็นกันเอง ของผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อ “อะตอม ชนกันต์” แม้อายุจะยังถือว่าน้อยในการผ่านเรื่องราวบนโลกนี้ แต่ประสบการณ์การใช้ชีวิตของเขานั้นถือได้ว่าโตเกินกว่าที่ใครจะคาดเดาได้ รายละเอียดที่ลึกและซับซ้อนอยู่ใต้รอยยิ้มนั้น ทำให้เราต้องเข้ามาคุยกับเขาในวันนี้ก่อนที่จะมีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเองครั้งแรก
“อะตอม ชนกันต์” หนุ่มที่จบการศึกษาทางด้านกฎหมาย แต่วันนี้เขากลับเลือกที่จะไปต่อในสิ่งที่รักและชอบมากกว่า คือการเป็น “นักร้อง – นักแต่งเพลง” ที่ใครๆ ก็รู้จักและร้องตามได้
-
จุดเริ่มต้นของการรักเสียงดนตรี และก้าวมาสู่บทบาทนักร้อง – นักแต่งเพลง
“จุดเริ่มต้นตั้งแต่เด็กมากๆ อย่างแรกเริ่มจากการร้องเพลงก่อน ซึ่งมันง่ายที่สุดที่เด็กๆ จะร้องเพลงเลียนแบบสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ซึ่งช่วงแรกๆ เราก็เริ่มจากร้องเพลงลูกทุ่งที่คุณแม่ชอบฟัง อาทิ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ยุ้ย ญาติเยอะ นั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้ตัวว่าเราชอบร้องเพลง จากนั้นเราก็ร้องไปเรื่อยทั้ง ลูกทุ่ง สากล ป๊อบ ทุกอย่างที่เราชอบฟัง ตั้งแต่อนุบาล 2 เพลงแรกที่ร้องโชว์คือ สั่งนาง ของมนสิทธิ์ เราเป็นเด็กที่ชอบร้องเพลงและฟังเพลงมาเสมอ จนถึงวัยที่มาเริ่มเล่นดนตรีจริงๆ คือ 11-12 ขวบ เราก็จะเริ่มมาฟังวงรุ่นพี่ bodyslam, big ass เลยเป็นแรงบันดาลใจอยากให้เราร้องเพลงพวกนี้ได้ และก็ไปเห็นเพื่อนเล่นกีตาร์ ก็เลยอยากจะเรียนบ้าง เล่นเป็นบ้าง ก็ไปขอพ่อแม่เรียน เรารู้สึกว่าอะไรที่ทำแล้วสนุก มันจะเก่งเร็ว ตอนนั้นมีอยู่ปีนึงที่เราเปลี่ยนจากคนเล่นกีตาร์ไม่เป็น มาเล่นเป็น พอเล่นกีตาร์เป็นแล้วก็เริ่มแต่งเพลง เริ่มจาก เอาเพลงคนอื่นมาแปลง ฟิลล้อคนรอบตัว แต่สำหรับเรามันเป็นพื้นฐานสำคัญมากๆ ที่ทำให้เราโตมาถึงทุกวันนี้ มันเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ถ้าไม่มีมันก็จะไม่เกิดวันนี้ขึ้น พอโตมาเราก็เจอเรื่องเองละ เรื่องที่มันเป็นแก่นสารมากขึ้น ซึ่งวัยรุ่นก็หนีไม่พ้นเรื่องความรัก และก็เป็นคนเขียนเพลงรักมาตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะช่วงอายุ 15- 16 เริ่มมีเพื่อนผู้หญิง เริ่มมีแฟนมันก็มีเรื่องจะเล่า ก็กลายกลายเป็นคนเขียนเพลงเกี่ยวกับความรักมาตั้งแต่ตอนนั้น” อะตอมกล่าว
-
จะเขียนเพลงรัก…ต้องอกหักด้วยมั้ย?
“มันก็มีทั้งจีบเค้า ชอบเค้า มีทั้งเพลงที่มีความสุข มีเพลงที่แต่งตอนเฮิร์ธแล้วก็มี ซึ่งเรารู้สึกว่า “การเขียนเพลงก็เหมือนผ้าใบเปล่าที่เราเขียนหรือวาดไปตามความรู้สึกของเรา เป็นทางที่เราระบายอารมณ์ลงไป เหมือนการถ่ายทอดอีกเรื่อง อีกมุมมองให้กระแทกใจคนที่ได้ฟัง”
-
เอกลักษณ์ของเรา กระบวนความคิดในการแต่งเพลงให้ออกมาโดนใจในทุกเพลง
ผมว่า สำหรับเราเป็นคนพูดอะไรตรงไปตรงมาเพลงเราไม่ได้สลับซับซ้อน ให้คนต้องคิดหลายชั้น แต่ว่าความตรงไปตรงมาของเรา เราก็เล่ามันอย่างสละสลวย เล่ามันอย่างสวยงามในแบบที่เราชอบ จะด้วยคำหรือความเป็นเหตุเป็นผลกัน หรือว่าด้วยคำที่เราเลือกมาใช้ เราว่านักเขียนเพลงแต่ละคนมีเซทคำหรือเซทเมโลดี้ที่ชอบแตกต่างกันออกไป ของเราก็จะเป็นทางที่ทุกคนได้ฟังกันอยู่ในทุกวันนี้
-
เพลงที่รักมันมากที่สุด
เพลงที่ผมรักมันมากที่สุด คือเพลงที่แต่งง่ายที่สุด เขียนเร็วที่สุด เพลงที่ผมชอบที่สุดคือเพลง “Please” มันจริงมาก เรียลมาก ตามเรื่องในเนื้อเพลงเลย มันเกิดขึ้นกับตัว และเราเขียนมันภายในเวลาชั่วโมงเดียว และเราก็ไม่ได้แก้มันอีกเลย จะ 10 ปีแล้วครับ อาจจะรักเพลงนี้เพราะมันจริง เพลงไม่ได้ผ่านฟิลเตอร์ใดๆ เลย
-
สิ่งที่ได้เหนือความคาดหมายจากการเป็นนักร้อง – นักแต่งเพลง
มีคนฟัง สำคัญมาก คือการทำเพลง ถ้าใครบอกว่าทำเพลงแล้วไม่แคร์คนฟัง ผมว่าก็ทำฟังเองก็ได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ เพราะสิ่งที่ผมต้องการคือมีคนเข้าใจ อย่างเราเองทั้งตัวดนตรีและตัวเนื้อหา ที่เราสื่อออกไป เราต้องการหาคนที่คิดเหมือนเราเข้ามาอยู่แก๊งค์เรา คนแบบเดียวกันที่เข้าใจกัน เหมือนหาเพื่อน คนแบบเดียวกันที่เค้าสื่อสารแล้วตอบกลับมา เค้าเข้าใจเรา
-
นิสัยอีกมุมหนึ่งของ อะตอมที่หลายคนยังไม่รู้
เป็นคนหงุดหงิดง่าย หายเร็ว โกรธง่ายหายเร็ว ซึ่งก็ไม่ดี ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่เราไม่ชอบรอ แต่ก่อนเราไม่ชอบรออะไรเลย อย่างตอนที่เราส่ง Demo เข้ามาใหม่ๆ แล้วเค้าให้เรารออยู่ตั้ง 3-4 ปี ซึ่งก็ทรมานมาก แล้วเราเป็นเด็กใจร้อน โชคดีว่าพี่บอล อพาร์ทเม้นต์คุณป้า กับพี่บุรินทร์ พาไปทัวร์ก่อน ไปลองทำงานเบื้องหลัง ไปทัวร์คอนเสิร์ต เขียนเพลง ทำให้อย่างน้อยเราก็มีอะไรทำช่วงระหว่างรอ และสุดท้ายก็ได้เริ่มการเป็นศิลปิน
-
นิยาม คำจำกัดความ “ผู้ชายในแบบอะตอม”
“กวนๆ ลึก ตลก” คือหลายคนมองผมอีกแบบจากการสื่อสารผ่านเพลง แต่จริงๆ แล้วผมเป็นเป็นคนกวน X คนหนึ่งเลยนะ แล้วอีกอย่างมีหลายคนบอกว่าเราดู ลึก คือมีอะไรลึกๆ ซ่อนอยู่ข้างในอีกเยอะ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ แล้วเราเลือกที่จะเผยด้านนั้นออกมาให้คนใกล้ตัวได้เห็น อาจเป็นอีกแง่มุมที่แปลกออกไป ส่วนความตลก เราว่าเราเข้ากับคนง่าย คุยได้ทุกเรื่อง ทำให้ใครๆ ก็เห็นว่าเราเป็นคนตลก อารมณ์ดี
-
How to การแต่งตัวให้ออกมามีคาแรกเตอร์เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด
แต่ก่อนตอนเด็กๆ ก็จะแต่งตามยุคสมัย อย่างยุคที่ใส่กางเกงตัวใหญ่ๆ เราก็ใส่ หรือจะเป็นแบบสตรีทก็เคย แต่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้ากับเรา จนกระทั่งวันหนึ่งมาใส่แบบ Button down shirt เสื้อเชิ้ตแบบกระดุม ก็รู้สึกใส่ง่าย ใส่ได้หลายโอกาส จะวันทำงานวันไปเที่ยวชิลๆ ได้หมด รวมถึงรองเท้า Boat Shoes ที่ชอบเพราะเราเป็นคนรูปร่างไม่ได้สูงโปร่ง พอใส่รองเท้าที่โชว์ข้อเท้าไม่ใส่ถุงเท้า ก็รู้สึกเป็นตัวเอง รูปร่างดูโอเค เลยกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของเราทุกวันนี้ที่หลายคนเห็นแล้วจำได้
มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนทักว่า ไม่เคยเห็นเราใส่รองเท้าแตะเลย เราก็เพิ่งมารู้ตัวตอนนั้นว่า เออเราเป็นคนไม่ชอบใส่รองเท้าแตะเลย จะออกไปไหนก็จะใส่รองเท้าแบบสวมๆ ตลอดเพราะรู้สึกว่าใส่ง่ายก็คล้ายๆ กับรองเท้าแตะอยู่
-
พูดถึงงานคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกหน่อย Atom House of Hearts
เป็นคอนเสิร์ตที่จะเปิดเผยทุกแง่มุมของเราเลย เหมือนเป็นการพาคนฟัง ท่องไปกับบทเพลงเรื่อยๆ ค่อยๆ ลึกลงไป เป็นตัวตนของเราจริงๆ จะเปิดทุกมุมมองครบรอบด้านของเรา ผ่านบทเพลงที่บอกเรื่องราวชีวิต คอนเสิร์ตที่พร้อมมอบใจ เปิดทุกมุมมองที่เป็นอะตอม ในทุกอะตอม ให้กับแฟนเพลงทุกคน
ร้องผ่านทุกบทเพลงในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ที่มีเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตบอกตัวตนของเขา
ชวนให้แฟนๆได้ ร้องตามได้ เต้นตามได้ ซึ้งตามได้ และประทับใจตามได้ ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
พร้อมทุกบทเพลงฮิต ทุกแนวดนตรี ทุกโชว์ความสามารถ จัดเต็มทุกรูปแบบ ให้คุณประทับใจตลอดโชว์
ที่อะตอมเตรียมมาด้วยใจ พร้อมเซอร์ไพรส์แฟนเพลง กับ ATOM HOUSE OF HEARTS CONCERT
- ขายบัตรราคา 4,000 บาท (VIP), 3,000 บาท, 2,500 บาท, 2,000 บาท, 1,500 บาท 31 ม.ค.นี้เป็นต้นไป
- สำหรับ VIP ถ่ายรูป พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษจากใจอะตอม
- ผ่านทาง Thaiticketmajor ทุกสาขา และเว็ปไซด์ http://www.thaiticketmajor.com
- วันแสดง : วันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2563
- สถานที่ : Impact Exhibition Hall 5, Muang Thong Thani
- ประตูเปิด : เวลา 18:00 น. เริ่มแสดง : เวลา 19:00 น.