ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา || คนทำงานศิลปะ ใช่ว่าต้อง ติสแตก!!! คุยกับนักออกแบบจิวเวลรี่กับความหมาย “มาเฟีย” ที่เปลี่ยนไป

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia
ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

คนทำงานศิลปะ ใช่ว่าต้อง ติสแตก!!!

คุยกับ ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา กับความหมาย “มาเฟีย” ที่เปลี่ยนไป

 

WHO # Hip Hip to talk with ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา : ดีไซเนอร์มาดเท่ พ่วงตำแหน่ง Co-founder ของแบรนด์ Mafia Jewelry แบรนด์จิวเวลรี่ไทยเท่ๆ ที่เปลี่ยนมุมมองคำว่า “มาเฟีย” ที่เราคุ้นเคย เป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และไม่เหมือนใคร

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ เชาวณะ อิ่มโอชา ชายหนุ่มวัยเฉียดเลขสี่ที่เราขอเรียกเขาสั้นๆ ว่า พี่ปาล์ม ซึ่งใครๆ ก็ทักว่าเขา ดูเด็กกว่าอายุ เบื้องหลังไม่ได้อยู่ที่ความพยาม แต่ความมีวินัยและไลฟ์สไตล์ที่ชอบการออกกำลังกายของเขาต่างหากที่ทำให้เขาดูเด็กกว่าตัวจริงไปหลายปี

พี่ปาล์มเรียนจบจากคณะมัณฑนศิลป์ สาขาออกแบบเครื่องประดับ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในช่วงเวลาที่คนไทยสมัยนั้นยังไม่คุ้นเคยกับการเรียนสาขาวิชานี้สักเท่าไหร่ ด้วยความที่เขาชื่นชอบการวาดรูปเป็นทุนเดิม บวกกับความมุ่งมั่นที่อยากเรียนในสถาบันการศึกษาที่เขาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงตั้งใจเรียนจนสำเร็จการศึกษา

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

เขาเริ่มต้นชีวิตบัณฑิตจบใหม่ด้วยการบินไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ แต่สุดท้ายความชอบในสิ่งที่เขาเรียนมาก็ได้พาเขากลับมาทำแบรนด์จิวเวลรี่ร่วมกับเพื่อน (แต้ม – วิรัตน์ ศรีเกิด) ที่เมืองไทย จนกลายเป็นที่จับตามองของคนไทยและคนต่างชาติ ในฐานะแบรนด์จิวเวลรี่ไทยแท้ที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจนอีกแบรนด์หนึ่งในวงการการออกแบบ โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า Mafia Jewelry

ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลดีดีที่เราอยากชวนเขามานั่งพูดคุยกันในวันนี้ พร้อมเผยถึงตัวตนและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเขานอกเวลาทำงาน ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่า… คนทำงานศิลปะ ใช่ว่าต้องติสแตกเสมอไป

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

ก่อนอื่นต้องขอย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ทำไมพี่ปาล์มถึงตัดสินใจเลือกเรียนสาขานี้ครับ

ตอนนั้นสาขาออกแบบจิวเวลรี่มันเพิ่งเปิดใหม่ (พ.ศ.2541) ความรู้เกี่ยวกับสาขานี้สำหรับผมมีน้อยมาก-ก-ก (เน้นเสียง) ผมเป็นรุ่นที่สอง ซึ่งข้อมูลก็มีน้อยมากเช่นกัน แต่ก็เลือกไว้เพราะมันน่าสนใจดี จริงๆ ผมเลือกเข้าศิลปากรทุกอันดับเลยครับ

แสดงว่าชอบทางด้านศิลปะตั้งแต่แรก

สิ่งที่ผมทำเป็นอย่างเดียวคือ วาดรูป ผมชอบวาดรูปแต่เกลียดไม้บรรทัด เลยไม่เลือกเรียนทางด้าน Decorative หรือ สถาปัตย์ฯ

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

หัวใจในการออกแบบจิวเวลรี่่คืออะไรครับ

โอ้โห! อย่างที่ผมเรียนรู้มานะครับ หลักๆ จากที่อาจารย์สอนมา ก็คือ จิวเวลรี่ เป็นประติมากรรมที่อยู่บนร่างกายคน ปกติแล้วประติมากรรมจะอยู่ตาม วงแหวน วงเวียน หรือหน้าอาคารต่างๆ เพราะฉะนั้น หัวใจการออกแบบจิวเวลรี่สำหรับผมแล้ว คือ ต้องมีความงามแบบ 360 องศา

ตอนเรียนจบ พี่ปาล์มออกมาทำแบรนด์จิวเวลรี่เป็นของตัวเองเลยหรือเปล่าครับ

พาร์ทเนอร์ของผม (แต้ม – วิรัตน์ ศรีเกิด) ทำงานประจำให้กับแบรนด์จิวเวลรี่ แล้วก็ทำแบรนด์ของตัวเองขายตาม flea market ต่างๆ ส่วนผมบินไปใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษสองปีครับ

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

ตอนนั้นพี่ปาล์มไปเรียนต่อใช่มั้ยครับ

ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะไปเรียนต่อครับ แต่ด้วยความที่เราเป็นนักเรียนศิลปะ พื้นฐานภาษาอังกฤษก็ไม่ดี เลยต้องไปเรียนปรับพื้นฐานก่อน พอผ่านไปสองปีมันรู้สึก ชักนานไปแล้ว อีกอย่างก็อยากทำงานอย่างที่เราเรียนจบมาด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำซักที ต้องเรียนภาษาอยู่ตั้งสองปี ก็เลยตัดสินใจว่า ไม่เรียนต่อละกัน บินกลับมาทำงานอย่างที่เราเรียนจบดีกว่า ยังดีที่ได้ภาษาติดกลับมา พอกลับมาก็เจอพาร์ทเนอร์ เพื่อนก็บอก เฮ้ย! ถ้าว่างก็มาทำด้วยกันสิ ตอนนั้นก็แบบ รออะไรล่ะ ทำก็ทำครับ

ทำไมถึงตั้งชื่อแบรนด์ว่า MAFIA มีที่มาที่ไปอย่างไรครับ

MAFIA พอทุกคนได้ยินคำนี้ มันจะดูน่ากลัว ถูกมั้ยครับ ดูเป็นคนเกเรนิดนึง แต่จริงๆ แล้ว เมื่อก่อน มาเฟีย คือกลุ่มคนที่ดูแลซึ่งกันและกัน ก่อนความหมายจะเพี้ยนมาเป็นอย่างที่เราเข้าใจในปัจจุบัน อธิบายแบบนี้ว่า ในสังคมนั้นบางที เราไม่สามารถพึ่งพาเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ตลอด จึงเกิดกลุ่มคนในพื้นที่ดูแลกันเอง จึงเป็นที่มาของคำว่า MAFIA ที่มีความหมายว่า เราสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ของเราได้ ไม่ต้องตามกฎเกณฑ์ของพื้นที่นั้นๆ

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

เพราะเหตุนี้หรือเปล่าครับ จึงกลายเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์หลักในการออกแบบคอลเลคชั่นต่างๆ ของแบรนด์ MAFIA

ใช่ครับ แต่ละคอลเลคชั่นที่ออกแบบมานั้น เราแทบจะไม่ได้อิงความเป็นแฟชั่นปัจจุบันเลย เรากำหนดขึ้นมาเอง ตามหลักธุรกิจ หรือการตลาด งานเราจึงขายยากมากใช่มั้ย อ่ะ ช่าย … ฮ่าฮ่าฮ่า (ถามเอง ตอบเอง หัวเราะเอง จบ…)

งานออกแบบจิวเวลรี่นั้นมีอยู่หลายรูปแบบ เพราะอะไรพี่ปาล์มถึงเลือกนำเอาโลหะชนิดต่างๆ มาออกแบบร่วมกับพลอยดิบครับ

ด้วยตัวผมเองมีความรู้สึกและความเข้าใจว่า งานที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งมาก ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเราทำงานหยาบๆ นะครับ เราใส่ใจรายละเอียด แต่ลุคที่เราเห็นนั้น มันไม่ได้ผ่านการปรุงแต่งมากนัก เราเน้นโชว์เนื้อแท้ของโลหะหรือผิววัสดุที่นำมาทำ สำหรับผม มันรู้สึกเฟรนด์ลี่ ดูอบอุ่น และมันดูจริงใจดีครับ

แล้วคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ได้แรงบันดาลใจจากอะไรครับ

ได้แรงบันดาลใจจากอาวุธที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด เช่น เขี้ยว เล็บ และเขาสัตว์ครับ อย่างคนเราจะมีอาวุธคือ ปัญญา ถูกมั้ยครับ ผมใช้อาวุธของสัตว์เหล่านี้แทนการเอาตัวรอดบนโลกใบนี้ที่เราต้องต่อสู้กันต่อไป

พี่ปาล์มช่วยเล่าถึง การมาร่วมงานกับ DITP (กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ) ให้ฟังหน่อยครับ

ผมอยู่ในธุรกิจนี้มา 12 ปีครับ ในช่วงเกือบสิบปีแรก ก็ทำเอง อยู่ด้วยตัวเอง พอวันหนึ่งเรารู้สึกว่า มันตันละ เราไม่มีความรู้อะไรใหม่ๆ เลย แล้วก็มีน้องๆ ที่จบใหม่มาร่วมกับ DITP แล้วเราก็เห็นว่า ที่นี่เค้าให้ความรู้และให้โอกาส มีช่องทางใหม่ๆ อีกเยอะมาก เราก็เลยตัดสินใจว่า เอ้ย! ลองดูละกัน

พอเข้ามาแล้ว ทาง DITP ได้แนะนำอะไรเราบ้าง

โอ้โห! เหมือนเปิดกะลาผมเลยครับ เขาสอนเยอะมากครับ (เน้นเสียงชัด) ทำให้ผมกับเพื่อนต้องกลับมาดูตัวเองใหม่ สิ่งที่เราทำมาหลายปีมาเนี่ย มันไม่ผิดทางหรอก แต่สเต็ปมันไม่ได้เลย ผมไม่ได้ทำตามสเต็ป หนึ่ง สอง สาม แต่ผมทำกระโดดไปกระโดดมา ผมทำ หนึ่ง กระโดดไปสี่ แล้วกลับมาสอง อะไรแบบนี้

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

พี่ปาล์มกำลังจะบอกเราว่า พี่ไม่มีพื้นฐานทางด้านธุรกิจเลย มีแต่พื้นฐานทางด้านศิลปะอย่างเดียว เป็นแบบนั้นหรือเปล่า

ใช่… ใช่ครับ พอเราเข้ามาอยู่ตรงนี้ก็เข้าใจธุรกิจมากขึ้นครับ

หลังจากที่ได้เข้าร่วมกับ DITP แล้ว ฟีดแบ็กเป็นอย่างไรบ้างครับ

โอ้โห! ดีมากครับ 98% เป็นชาวต่างชาติครับ แรกๆ เค้ามาติดต่อ มาคุยก่อน พอเค้าเห็นเราครั้งที่สอง ครั้งสาม เค้ายังเห็นเรา เขาก็เริ่มมั่นใจละว่า เราทำจริงนะ ไม่ได้มาเล่นๆ มีตัวตนจริงๆ นะ เค้าก็เริ่มกล้าซื้อของเราไปขาย

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

รู้สึกอย่างไรบ้าง จากเดิมที่ขายตามงาน flea market ขายเฉพาะแค่ในเมืองไทย จนวันหนึ่งที่มีโอกาสที่นำผลงานมาโชว์ให้คนต่างประเทศเห็น

ตรงนี้ผมดีใจมากนะ อยากให้โลกได้รู้บ้างว่า เราก็มีตัวตนอยู่ตรงนี้ หลายๆ งานที่เราได้เป็นตัวแทนของประเทศไทย นำผลงานไปโชว์ เหมือนไปประกาศว่า ดีไซเนอร์ไทยก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ แล้วดีไซเนอร์ทุกคนที่ไปด้วยกันเนี่ย ถือว่าเก่งทุกคนเลยครับ

ถ้าพูดถึง วงการการออกแบบจิวเวลรี่ของไทย ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เปิดกว้างมากน้อยขนาดไหนครับ

หลากหลายขึ้นเยอะเลยครับ ถ้าเทียบกับสมัยเรียน ด้วยความที่เราเป็นนักเรียน เราจะ concentrate กับดีไซน์ที่เราสนใจ ก็เลยไม่ได้สนใจว่า โลกใบนี้มันมีงานดีไซเนอร์เยอะแค่ไหน สมัยเรียนถ้ามางาน บางกอก เจมส์ ส่วนใหญ่บู้ธที่มาออกงานคือ บริษัทใหญ่ๆ ใครที่คิดถึงจิวเวลรี่ ต้องมาเมืองไทย หลังๆ ก็เฟดไป ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันนะ อาจเป็นเพราะสังคม การเมือง ที่มันเปลี่ยนไป แต่มันไม่ควรเป็นแบบนั้นอ่ะ เพราะ เพชร พลอย ทอง อยู่กับเรานับพันปี เมื่อก่อนมันคึกคักสนุกกว่านี้มาก

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

คุยเรื่องงานออกแบบมาพอสมควรแล้ว คราวนี้กลับมาพูดคุยสบายๆ ถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของพี่ปาล์มกันบ้างดีกว่า

ถ้ามองตัวเอง พี่คิดว่า ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา เป็นคนสไตล์ไหน มีมุมไหนที่คนยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวพี่อีกบ้างครับ

เห็นผมชอบงานด้านศิลปะแบบนี้ แต่ผมเป็นคนที่มีวินัย ไม่ติสนะครับ (หัวเราะร่วน) นอกจากนี้ ผมเป็นคนชอบท่องเที่ยวครับ จะท่องเที่ยวตามฤดูกาล เข้าป่าบ้าง ไปทะเลบ้าง ไปอยู่ตามเกาะอะไรแบบนี้

แบกเป้เที่ยวแบบแบ็กแพ็ค อะไรแบบนี้หรือเปล่าครับ

ใช่ครับ แต่ถ้าอยู่เมืองไทยก็สบายหน่อย ผมกับเพื่อนๆ จะขับรถไปกัน บางทีก็ขับมอเตอร์ไซต์ไป แต่บางทริปก็เอาบิ๊กไบค์ขึ้นรถตู้ไปอีกทีนึงนะ ถ้าอย่างไกลๆ ขับจากกรุงเทพฯ ไป แบบนั้นก็ไม่ไหวครับ ส่วนใหญ่ก็ขับไปเล่นเซิร์ฟกัน

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

พี่ปาล์มชอบไปเล่นเซิร์ฟที่ไหนครับ

ในเมืองไทยจะมีสามจุดใหญ่ๆ ที่เขานิยมเล่นเซิร์ฟกัน คือ ระยอง ก็สุดทางเลย เลยบ้านเพไปหน่อย ภูเก็ตก็ป่าตอง กะตะ-กะรน ส่วน ระนอง ก็เกาะพยามครับ ที่นั่นคลื่นดีมาก เล่นเซิร์ฟได้ดีสุด ถ้ามีเวลามากหน่อยก็ไปบาหลี ถือว่าดีที่สุดครับ

นอกจากชอบเที่ยว ขี่บิ๊กไบค์ และเล่นเซิร์ฟแล้ว พี่ปาล์มชอบทำอะไรอีกบ้าง

ทุกเช้าผมจะตื่นประมาณเจ็ดโมง ทานข้าว แล้วก็เข้าฟิตเนสครับ เล่นห้าวันต่อสัปดาห์ เห็นลุคแบบนี้ ผมไม่สูบบุหรี่นะครับ ดื่มเฉพาะวันเสาร์ แต่ก็นิดหน่อย นอกจากนี้ก็ชอบอ่านหนังสือครับ

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

ชอบอ่านหนังสือแนวไหนครับ

ผมก็อ่านทั่วไปนะครับ ช่วงนี้ผมชอบอ่านหนังสือของคุณวินทร์ เลียววาริณ ซึ่งเค้าเป็นนักคิด พออ่านหนังสือของเค้าแล้ว ผมเอามาคิดต่อได้

วันว่างพี่ปาล์มจะทำอะไรอีกครับ

เชื่อมั้ยว่า ผมทำงานเจ็ดวันต่อสัปดาห์ จันทร์ถึงศุกร์ผมอยู่ออฟฟิศ เสาร์อาทิตย์ผมเข้าร้านที่สวนจตุจักร แต่ผมจะจัดการเวลาของตัวเอง สองชั่วโมงต่อวันเพื่อเข้าฟิตเนส และด้วยออฟฟิศเป็นของเราเอง เพื่อนฝูงก็จะเข้ามาหาที่ออฟฟิศ ที่ทำงานเลยกลายเป็นแหล่งมีตติ้งไป เลิกงานก็แฮงก์เอ้าท์ต่อได้เลย แต่จะมีข้อแม้ว่า เราจะดื่มกันแค่วันเดียว คือ วันเสาร์ ด้วยความที่ทำงานเป็นของตัวเองแล้ว ถ้าไม่มีการจัดการชีวิตดีดีนะ รับรองเละแน่นอน อย่างตื่นสาย นอนดึก ทำงานไม่ได้

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

ส่วนใหญ่เราจะมองว่า คนทำงานศิลปะจะติสๆ ทำงานไม่เป็นเวลา แล้วแต่อารมณ์

คือผมมีบริษัทเป็นของตัวเอง ถ้าผมเละ บริษัทจะเละ ลูกน้องผมก็จะเละไปด้วย ผมเลยทำเป็นตัวอย่างให้ลูกน้อง

ทำงานหนักเจ็ดวันต่อสัปดาห์ มีเวลาพักผ่อนไปดุหนังฟังเพลงกับเค้าบ้างหรือเปล่าครับ

มีครับ ผมจะไปดูหนังทุกวันพฤหัสฯ จริงๆ ผมชอบไปดูหนังวันพุธ เพราะมันลดราคา แต่เพื่อนๆ ผม จะมาหาทุกวันพุธ เลยต้องเลื่อนมาดูหนังวันพฤหัสฯ แทน ส่วนวันอังคารก็เร็วไป (หัวเราะ)

หนังแนวไหนที่พี่ปาล์มจะเลือกไปดูในโรงหนังครับ

ผมจะชอบดูหนังแนว ทริลเลอร์-ดราม่า ครับ อย่างหนังชอว์แชงค์ (The Shawshank Redemption 1994 ชอว์แชงค์ มิตรภาพ ความหวัง ความรุนแรง) หรือ แดร็คคูล่า ของ บราม สโตกเกอร์ ไม่ใช่แดร็คคูล่าที่น่ากลัว เหมือนเป็นอัตชีวประวัติของคนคนหนึ่งมากกว่า เป็นหนังที่ดูจบออกจากโรงหนังแล้วได้คิดต่อ อะไรประมาณนี้ครับ

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

ช่วงแรกเราคุยกันถึงจิวเวลรี่ว่ามันคือ ประติมากรรมบนเรืองร่าง แล้วเราเห็นว่า พี่ปาล์มก็มีรอยสักอยู่บนตัวด้วย ทำไมถึงชอบสักครับ

ผมชอบสักมากครับ ผมสักครั้งแรกตอนอยู่ ม.5 ครับ

สมัยนั้น คนจะมองว่า คนที่ชอบสัก เป็นอีกแบบหนึ่ง

ตอนนั้นคนจะมองว่าผมสัก เพราะผมเป็นวัยรุ่น ตามแฟชั่น เดี๋ยวก็เบื่อ แต่ผมไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมสัก เพราะผมชอบจริงๆ ไม่ได้สักทั้งตัวหรือทั้งแขนทีเดียวจบ ผมจะสักเดือนละชิ้น สองชิ้น

แล้วปัจจุบัน มุมมองศิลปะการสักเป็นอย่างไรครับ

เดี๋ยวนี้คนเปิดรับขึ้นเยอะเลยครับ ไปที่ไหนก็เห็นแต่คนสัก

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia

เท่าที่สังเกต เราจะเห็นพี่สักแค่สองสี คือ แดง กับ ดำ ทำไมถึงเลือกสักแค่สองสีนี้ครับ

ผมมองว่า คู่สีนี้ ดำกับแดง มันแรงดีเนอะ คือจะสักหลายๆ สี มันก็ดูเยอะเกินไป จะให้สักสีดำสีเดียว ก็ดู conservative เกินไป (หัวเราะร่วน) หยอดๆ สีไปหน่อยดีกว่า

อยากให้พี่ปาล์มทิ้งท้ายสักหน่อยสำหรับ คนที่ชื่นชอบจิวเวลรี่ หรือมีความคิดอยากเป็นนักออกแบบ

อย่างแรก ต้องหาแนวที่ตัวเองชอบก่อน สอง อย่าเปลี่ยนแนวทาง จงยืนหยัด เดินตามทางที่ตัวเองชอบ เพราะฉะนั้นข้อแรกอาจจะยากหน่อยกว่าที่จะหาแนวที่ตัวเองชอบเจอ บางคนใช้วิธีเหวี่ยงแหไปเรื่อยๆ อย่างผมก็ใช้เวลานานกว่าจะมาเจอตัวเองได้ ถ้าตกตะกอนแล้วเจอตัวเองได้เร็ว ก้าวที่สอง ก้าวที่สาม ก็ง่ายละ ที่สำคัญ อย่าเปลี่ยนแนวทาง

สิบกว่าปีที่ได้เรียนและทำงานด้านการออกแบบจิวเวลรี่มา ได้สอนอะไรบ้างครับ

มันคือสิ่งที่บอกไปเมื่อกี้นั่นแหละครับ ชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครสอนให้เรา หาตัวตนให้เจอ และ อย่าเปลี่ยนแนว จนประสบการณ์สิบกว่าที่ผ่านมานั้นสอนเราเองครับ

ปาล์ม – เชาวณะ อิ่มโอชา Palm Mafia


Interview : ธนกฤต ชัยสุวรรณถาวร

Photo (model & collection) : ธนายุทธ สร้อยสุวรรณ

Photo (lifestyle) : @palmmafia

Location : ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

keyboard_arrow_up