WHO # FAV Icon : ทำความรู้จักหนุ่มฮอต ภีม ธนบดี ใจเย็น ให้มากขึ้น จากไลฟ์สไตล์มันๆ นอกกองถ่าย รวมไปถึงผลงานที่ท้าทายที่สุดในชีวิต เมื่อเขาต้องโกอินเตอร์มาร่วมแสดงในซีรีส์ฮอตภาคต่ออย่าง HALFWORLDS Season 2 ในฐานะพระเอกไทยคนแรกที่ได้ร่วมงานกับ HBO
ถ้าพูดถึง ภีม ธนบดี ใจเย็น @pmpeem เราคงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากบทบาท เตอร์ ในซีรีส์วัยรุ่นสุดฮอตอย่าง Hormones 3 The Final Season และอีกหลายผลงานการแสดงต่อมาของเขาคนนี้ รวมไปถึงการเป็นศิลปินในสังกัด MBO อีกด้วย ปัจจุบัน ภีม เตรียมตัวเข้าสู่วัยรุ่นเลขสองแล้ว (วันเกิด 11 มีนาคม 2540) และตอนนี้เขากำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักตัวตนของ ภีม ธนบดี ให้มากขึ้น กับไลฟ์สไตล์สนุกๆ กับการออกกำลังกาย พาลัดเลาะเที่ยวบ้านเกิดในเมืองภูเก็ต และไม่พลาดที่เราพูดคุยกันก่อนถึง บทบาทสำคัญที่ท้าทายความสามารถทางการแสดงของเขาอย่างมาก เมื่อเขาถูกรับเลือกให้มารับบทเป็น ไฟท์เตอร์ ปีศาจหนุ่ม 400 ปี ในซีรีส์ภาคต่ออย่าง HALFWORLDS Season 2 ที่เขาเองก็ตื่นเต้นและกดดัน เมื่อเขากลายเป็นพระเอกไทยคนแรกที่โกอินเตอร์มาร่วมงานกับ HBO
ภีมมาร่วมงานกับ HBO Asia ได้ยังไงครับ
ตอนนั้นทางค่ายต้นสังกัดของผม (MBO) บอกว่า มีบทน่าสนใจนะ อยากลองให้ไปแคสดู ตอนนั้นก็ยังไม่ทราบว่า เป็นของค่ายไหน เรื่องอะไร วันที่ไปแคสก็เจอ พี่เอก – เอกชัย เอื้อครองธรรม ตอนนั้นก็ยังไม่ทราบว่าพี่เอกมาเป็นผู้กำกับซีรีส์เรื่องนี้ พี่เอกพาไปเจอกับโปรดิวเซอร์ เค้าก็ยื่นนามบัตรให้บอกว่ามาจาก HBO นะ กำลังมองหานักแสดงไทยมาเล่นซีรีส์ ซีซั่นที่สองอยู่ เค้าก็เปิด HALFWORLDS ภาคแรกให้ดู ในใจตอนนั้นก็ตื่นเต้นมาก เพราะว่า จริงๆ เราเป็นคนชอบดูซีรีส์ต่างประเทศอยู่แล้ว ลึกๆ แล้วก็อยากมีโอกาสมาเล่นซีรีส์แบบนี้บ้าง พอได้รับโอกาสแบบไม่ได้ตั้งตัว (หัวเราะ) ก็ตื่นเต้น ก็ดีใจนะครับ ตอนแรกๆ ยอมรับว่า แอบเกร็ง แต่พอเห็นทุกคนดูชิล ดูรีแล็กซ์มาก ทำให้ทุกอย่างมันดูเรียบง่ายขึ้น เขาก็ให้ผมแคส แล้วก็ได้รับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้ครับ
ตอนแคส รู้สึกกดดันมั้ยครับ
กดดันๆๆ (พูดย้ำรัวๆ) กดดันมาก ครับผม (หัวเราะ) ตอนนั้นรู้สึกแค่ว่า ถ้าผมทำเต็มที่แล้ว แต่ถ้ามันไม่ได้ ผมก็ไม่เสียดายแล้วล่ะ เพราะผมพยามสุดความสามารถแล้วจริงๆ อยากเล่นบทนี้จริงๆ ครับ พอได้ ก็ดีใจมากๆๆๆ (พูดย้ำไม่เก็บอาการ)
รู้หรือเปล่าว่า เพราะอะไร HBO ถึงเลือกภีมมารับบทนี้
จริงๆ ตอนนั้นเค้าแคสหาอยู่สองบท คือ มิก กับ ไฟท์เตอร์ ครับ แต่ตัวผมไม่ได้แคสบทอื่นเลย แคสแต่บทไฟท์เตอร์อย่างเดียวครับ ซึ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ทำไม เหมือนกันครับ คือตัวบทไฟท์เตอร์มันยากอยู่แล้ว ด้วยความที่ไฟท์เตอร์อายุสี่ร้อยปี จะมีความสุขุม มีความเลือดเย็น มีความนิ่งอยู่ ค่อนข้างต่างจากตัวผมมาก เพราะผมเป็นคนที่ alert , friendly แล้วก็เป็นพูดเยอะ (หัวเราะ) พอเราลองได้มาแคส มาอยู่ในคาแรกเตอร์นี้ เค้าคงชอบการแสดง ชอบการ represent ตัวละครของเรา ก็อาจจะถูกใจเค้ามั้งครับ หลังจากที่แคสไปตอนแรก เค้าก็เรียกกลับมาอีกสองครั้ง แต่ยังไม่ได้บอกว่า เราได้บทนี้หรือเปล่านะครับ เราก็ เอ๊! สงสัยอยู่ว่า สรุปเราได้แล้วหรือเปล่าน๊า (หัวเราะ) สุดท้ายเค้าก็บอกว่า “คุณได้บทนี้นะ เราเลือกคุณ” ก็ได้แต่บอกกลับไปว่า “ขอบคุณมากๆ” คือมันดีใจมากครับ ปริ่ม (หัวเราะร่า)
หลังจากแคสผ่านแล้ว ได้เข้าเวิร์คช็อปร่วมกับนักแสดงคนอื่นๆ หรือเปล่าครับ
เข้าครับ หลังจากแคสผ่านแล้ว ก็ได้ไปเจอนักแสดงคนอื่นๆ คนที่ผมรู้ตอนนั้นพร้อมๆ กันก็คือ เอมม่า ที่มารับบท พิม เพราะอยู่ค่ายเดียวกัน วันนั้นเค้าก็นัดนักแสดงที่แคสผ่านแล้วมาเจอกันทั้ง พี่จีจ้า(ญาณิน วิสมิตะนันทน์) พี่เดวิด(เดวิด อัศวนนท์) พี่ชาลี(ชาร์ลี เลิศโปกานนท์) พี่นิโคล(นิโคล เทริโอ) เอมม่า(เอมิกา แกรนท์) แล้วก็เทีย(เทีย ทวีพาณิชย์พันธุ์) แต่ผมจำไม่ได้ว่า วันนั้นได้เจอ ไมร่า ด้วยรึเปล่า ไม่แน่ใจครับ
ผมก็แบบ เฮ้ย! มันดูเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ผมก็ตื่นเต้น จะเริ่มโปรเจคนี้แล้วนะ พี่เอกก็นัดมาพูดคุยเรื่องบท ให้มาดูบท มาทำความเข้าใจเรื่องบท แล้วลองต่อบทกันดู เพื่อทำความเข้าใจตัวละครด้วยครับ
รู้สึกอย่างไรที่ได้มาร่วมงานกับพี่ๆ นักแสดงรุ่นใหญ่ครับ
โหยยย! รู้สึกเป็นเกียรติมากครับ จริงๆ แล้ว พวกพี่ๆ เค้าผ่านงานแสดงมาเยอะมากครับ เอาจริงๆ ผมได้ยินชื่อ พี่นิโคลตั้งแต่ … เอิ่ม … ตั้งแต่จำความได้ครับ (หัวเราะแก้เขิน บวกกับความเกรงใจพี่นิโคล) (พีอาร์แกล้งแซวว่า “จะไปฟ้องพี่นิโคล” ภีมรีบตอบกลับทันควัน) ไม่ๆๆๆ จริงๆ แล้ว พี่นิโคล ยังวัยรุ่น พี่นิโคลน่ารัก-ก-ก (ภีมพูดเอาใจ แล้วหัวเราะร่า) คือพี่นิโคล เป็นชื่อที่ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็ก แล้วที่บ้านก็ชอบพี่นิโคลด้วย ก็ตื่นเต้นมากครับ (งานนี้ภีมเอาตัวรอดไปได้อย่างหวุดหวิด)
ส่วนพี่ชาลี เราก็ไม่ได้รู้จักเขามาก่อน พอได้มาเจอกัน ซึ่งผมก็ชื่นชอบพี่เค้าอยู่แล้ว เราก็ไปรีเสิร์ชหาข้อมูลดู ก็เห็นว่าพี่เขาเคยร่วมงานกับโปรดักชั่นต่างประเทศมามากมายเลยครับ เป็นทั้ง แอคชั่น โคออดิเนเตอร์ด้วย แล้วก็เป็นสตั๊นด้วย เก่งด้วย ส่วนพี่เดวิดเนี่ย ผมชื่นชมมานานมาก-ก-ก-ก (ลากเสียงยาว) สมัยที่พี่เค้าเล่นหนังเรื่อง เค้าท์ดาวน์ พี่เค้าสุดยอดมาก พอเจอพี่เค้าครั้งแรกผมก็ชอบพี่เค้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งไปทำงานด้วยกันที่ อินโดนีเซีย ผมยิ่งประทับใจพี่เค้ามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก ตอนนี้เค้าเป็นเหมือน พระอาจารย์ ผมคนหนึ่งไปแล้วครับ (หัวเราะร่า) คือ พอผมถามอะไรพี่เค้าไปแล้ว คำตอบที่ได้มา จะเป็นคำตอบที่ตรงที่สุด แต่ถ้าเป็นอะไรที่เค้าไม่อยากพูดออกมา เค้าก็จะบอกตรงๆ ว่า ไม่อยากพูด แต่การได้ฟังความคิดต่างๆ จากพี่เดวิดเนี่ย ผมรู้สึกว่า พี่เค้าพูดออกมาจากใจ พี่เค้าเป็นคนๆ หนึ่งที่ “เรียล” ที่สุด ตั้งแต่ผมเคยเจอมาในชีวิตเลย
ผมรู้สึกตื่นเต้นมากจริงๆ ครับที่ได้มาร่วมงานกับพวกพี่ๆ เค้า ยิ่งอยู่ด้วยกันนานๆ ยิ่งเหมือนเป็นครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง ทุกคนสนิทกันหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น อริฟิน(อริฟิน ปูตรา) หรือ เรซ่า(เรซ่า ราฮาเดียน) นักแสดงจากอินโดฯ ด้วยก็ตาม จะสนิทกับพวกเรามาก ออกไปกินข้าว ออกไปเที่ยวด้วยกัน เหมือนเพื่อนกันเลย
HALFWORLDS ซีซั่นนี้ไปถ่ายที่ไหนมาบ้างครับ
ผมถ่ายที่ไทยเดือนนึง แล้วก็ไปถ่ายที่อินโดฯ เดือนนึงครับ ที่อินโดฯ จะเป็นเกาะ ชื่อเกาะบาตัม (Batam) เป็นเหมือนเมืองท่าในเขตประเทศอินโดฯ แต่ต้องบินลงสิงคโปร์แล้วต่อเรือไป ห่างกับสิงคโปร์ประมาณสี่สิบนาทีครับ ซึ่งซีซั่นแรก็ถ่ายทำที่นี่ครับ ก่อนย้ายไปถ่ายที่เกาะบาตัม ก็ถามอริฟินว่า ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง อาหารการกินเป็นยังไง เค้าก็บอกตรงๆ ว่า อาหารบ้านเค้า กับ อาหารบ้านเรา ไม่เหมือนกันเลย ไม่รู้ว่าเรากินได้หรือเปล่า พอรู้ว่าจะต้องไปปุ๊บ ผมก็เตรียมน้ำพริกเยอะๆ เป็นอย่างแรกเลย (หัวเราะ) ผมเอาไปหลายอย่างมากเลย ทั้งน้ำพริกปลาร้า น้ำพริกนู้น น้ำพริกนี้ ขนเอาไปหมด ผมเป็นคนใต้ ผมกินน้ำพริกได้หมดครับ (หัวเราะ) ผมเอาไปคลุกกับข้าว แล้วที่นั่นก็พอมีกับบางอย่างที่ทานได้ อีกอย่างที่ประทับใจมาก คือ แม่ครัวที่นั่น พอรู้ว่าคนไทยจะกินอาหารอินโดฯ ไม่ค่อยได้ ก็ทำอาหารไทยให้ ดูแลเราดีมาก
ส่วนสตูดิโอที่นั่นก็สวยมาก ที่พักก็ดีมาก เป็นวิลล่า เป็นหลังๆ ผมอยู่กับพี่เดวิดแล้วก็พี่ชาลีครับ บ้านทุกคนก็อยู่ใกล้กัน ก็เฮฮา สนุกสนาน บางทีจะมานั่งรวมตัวกันดูยูทูปแล้วแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลง เอ็มวี หรือหนังต่างๆ หรือนั่งคุยกันเรื่องบทอะไรประมาณนี้ครับ
ส่วนในเมืองไทย จะถ่ายแถวถนนพระอาทิตย์ ซะส่วนใหญ่ จะเป็นแนว Cultural Site of Bangkok ครับ อย่างแถวป้อมพระสุเมรุ แถววัด แต่ก็มีไปถ่ายแนว Urban site อย่างแถวถนนสุขุมวิทบ้างครับ ส่วนตัวผมแล้ว ผมชอบสี ชอบมู้ดแอนด์โทนของซีรีส์เรื่องนี้มาก เวลาผมดูหนัง ผมจะชอบดีเทลเล็กๆ น้อยๆ อย่าง สี ฉาก หรือแสง แบบนี้มาก ซีรีส์เรื่องนี้ผมถูกใจทุกอย่างเลย ได้ดูแล้ว “ปริ่ม”
ในกองถ่ายมีการแกล้งหรืออำกันเองบ้างมั้ยครับ
ก็มีบ้างครับ พวกเราเป็นพวกขี้เล่นกันอยู่แล้วด้วย เราจะมีเรื่องราวตลกโปกฮาบ่อยๆ แล้วก็มีเรื่องสนุกๆ ทำกันในกองถ่าย คือ เราจะเอารถกอล์ฟของกองถ่ายไปขับซิ่งเป็นประจำ อารมณ์ประมาณว่า เรซ่า ปวดท้อง อยากเข้าห้องน้ำ ผมก็จะอาสาขับรถกอล์ฟไปรับเรซ่าที่หน้าซีนไปเข้าห้องน้ำที่วิลล่า แล้วก็ขับกลับไปส่ง แล้วก็ขับกลับมารอเข้าฉากที่วิลล่าต่อ สนุกมากครับ
เท่าที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ จะมีฉากแอคชั่นค่อนข้างเยอะ ภีมต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างครับ
จริงๆ แล้ว ตัวผมเป็นคนที่แอคทีฟอยู่แล้วครับ เป็นคนชอบเล่นกีฬา เมื่อก่อนผมก็เล่นยิมนาสติกด้วย ก่อนจะมาเป็นนักร้อง เค้าส่งผมไปเรียนยิมนาสติกสามเดือน ผมกระโดดตีลังกาเองได้ ในเรื่องผมก็กระโดดตีลังกาเองด้วย
ก่อนหน้ามาเล่นซีรีส์เรื่องนี้ เค้าก็ให้ไปเวิร์คช็อปก่อนหนึ่งวัน เพื่อจะดูว่า เราทำอะไรได้บ้าง คือเค้าก็ถ่าย reference ไว้แล้ว ในแต่ละฉาก อยากได้ท่าประมาณไหน เค้าก็ลองมาให้เราเข้าท่าดู เค้าก็บอก เฮ้ย! เราได้นี่ คือถ้านักแสดงเล่นได้เนี่ย เค้าก็ให้เล่นเองเลย
สำหรับผมเอง มันก็เป็นโอกาสที่ได้แสดงฝีมือด้วย ผมก็ตัดสินใจว่า ซีนไหนที่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อเราเกินไป ก็จะแสดงเองครับ นอกจากนี้ผมก็ซ้อมมวย ออกกำลังกายกับเพื่อนเป็นประจำอยู่แล้ว พอได้มาใช้ เอ้ย! ก็ดีเหมือนกันนี่ อย่างมีที่ผาดโผนหน่อย ก็อย่างกระโดดลงมาจากตึกสูงยี่สิบเมตร ผมก็ขอกระโดดเองเลย
กระโดดตึกสูงยี่สิบเมตรเลยเหรอครับ
เอ้ย! มีสลิงครับ (หัวเราะ) ถ้ากระโดดเองตาย ตายเลยครับ ยี่สิบเมตร (หัวเราะร่า) สำหรับเรื่องนี้เค้าใส่ใจในดีเทลเยอะมากแม้แต่การต่อสู้ พี่ท็อป Action Director (วีรพล ภูมาตย์ฝน) เค้าเคยร่วมงานกับ พี่จา พนม (ทัชชกร ยีรัมย์) ในเรื่ององค์บากมาแล้ว ซึ่งผมฉากแอคชั่นของหนังเรื่องนี้มากๆ สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ เค้าวางมาดีว่า ตัวละครแต่ละตัว จะมีท่าต่อสู้ไม่เหมือนกันเลย อย่างผมจะเป็นศิลปะแม่ไม้มวยไทย อย่างมวยเสือ อย่างตัวละคร “ทิพย์” (รับบทโดย จีจ้า) ก็จะเป็นมวยไทยเหมือนกัน แต่จะออกแนวยิมนาสติก มีลีลาหน่อย พี่ชาลีก็จะเป็น เทควันโด พิมก็จะเป็น อากิโด ส่วน อริฟิน ก็จะเป็นสไตล์ ปันจักสีลัต ของอินโดนีเซีย ส่วน เรซ่า จะมีคาแรกเตอร์ที่กวนๆ หน่อย เค้าก็ดีไซน์การต่อสู้ของเรซ่าออกแนวกวนๆ ครับ คือออกแบบตัวละครทุกตัวมาหมดแล้วว่า สู้ยังไง แบบไหน
หลังจากที่ออนแอร์ซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ได้รับฟีดแบ็กกลับมาอย่างไรบ้างครับ
ดีครับ เริ่มมีคนไทยมาดูเยอะแล้ว เหมือนแรกๆ คนไทยจะยังไม่รู้จักว่า เรื่องนี้เป็นซีรีส์เกี่ยวกับอะไร มาจากไหน พอได้เข้ามาเห็นก็ เฮ้ย! เกี่ยวกับปีศาจ เกี่ยวกับประเทศไทยนี่หว่า มีนักแสดงคนไทยด้วย แล้วก็มีแบบ ดีใจ มีซับภาษาไทยด้วย เค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ก็เริ่มมีคนไทยสนใจมากขึ้นครับ ก็ดีใจนะครับ ตื่นเต้นด้วย ก็หวังว่าจะมีคนเข้ามาดูเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็แหม! เราเพิ่งปล่อยไปตอนแรกๆ เอง ยังเหลืออีกหลายอาทิตย์แน่ะ ดูกันยาวๆ ไป
รู้สึกอย่างไรที่เป็นนักแสดงไทยคนแรกที่เล่นให้กับ HBO แล้วภีมเองก็เป็นตัวละครหลักในเรื่องด้วย
กดดันครับ (หัวเราะ) แรกๆ ผมไม่คิดเลยนะ พอเล่นเสร็จ เพื่อนก็ทักว่า “เฮ้ย! ภีม อย่างนี้มึงก็เป็นพระเอก HBO คนไทยคนแรกเลยดิวะ” ผมก็แบบ เฮ้ย! เออวะ อยู่ๆ ความกดดันก็ลงมาที่ตัวเลย (หัวเราะ) จริงๆ ก็ดีใจนะ มันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เลย มันเป็นความใฝ่ฝันของผมอย่างที่เล่าไปตอนแรก เกิดมา ได้เล่นเรื่องนี้ก็คุ้มแล้วครับ มันเป็นก้าวแรกที่ได้ร่วมงานกับทีมโปรดักชั่น อินเตอร์ฯ ผมบอกได้เลยว่า ผมสนุกกับการถ่ายทำ Halfworlds มาก เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดของผมเลย
แฟนคลับของภีมมีฟีดแบ็กอะไรกลับมาบ้างมั้ยครับ
ก็มีตกใจบ้าง ห้ะ! ไม่คิดว่าจะเล่นได้แบบนี้ คือแฟนคลับผมก็พอรู้บ้างอยู่แล้วว่า ผมเป็นคนแอคทีฟ เล่นกีฬา ทำนู่นทำนี่เยอะ แต่พอเห็นผมเล่นบทที่ดูเป็นคนนิ่งๆ แบบนี้ ก็ตกใจ แต่ละเรื่องที่ผมรับบทมาจะไม่เหมือนกันเลย คนละแนวเลย อย่างก่อนหน้านี้ก็เคยเล่นเรื่อง “ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด” ก็จะเล่นเป็นเด็กบ้านนอกเมื่อ 50-60 ปีที่แล้ว เป็นละครพีเรียด พูดก็ไม่เหมือนสมัยนี้ อย่างฮอร์โมนส์ก็เป็นเด็กมัธยมฯ ใสๆ พอเป็น Halfworlds ก็เป็นปีศาจสี่ร้อยปี
ผมรู้สึกสนุกที่ได้เล่นหลายๆ แบบนะครับ ผมมีความสุขที่ได้เล่นเป็นคนอื่น ที่ไม่ใช่ตัวเราเองแปปนึง มันเป็นโอกาสที่สายอาชีพอื่น หาไม่ได้นะ คือถ้าอยู่ๆ เดินไป แล้วอยากเป็นคนอื่น เราเปลี่ยนไป เค้าก็หาว่าเราเป็นคนบ้าใช่ปะครับ (หัวเราะ) แต่พอเราอยู่หน้ากล้อง มันมีบท ผมได้เป็นตัวละครตัวนี้ ผมก็รู้สึกสนุกไปกับมัน ทุกครั้งที่อยู่หน้ากล้อง ได้บทเป็น ไฟท์เตอร์ ผมก็จะสวิตช์ตัวเองเป็น ไฟท์เตอร์ มันเหมือนเป็นอีกตัวตนหนึ่งในตัวผมเลยครับ
พูดถึงเรื่องการออกกำลังกาย ภีมเล่นกีฬาอะไรอยู่บ้าง
ผมเป็นนักกีฬาบาสฯครับ ตอนอยู่โรงเรียนก็จะเล่นวอลเล่ย์บอลด้วยครับ ผมเป็นคนแอคทีฟอยู่แล้ว บางวันไปซ้อมยิมนาสติกบ้าง ซ้อมมวยบ้าง เมื่อก่อนผมเล่น โฟลว์บอร์ด เล่นเซิร์ฟ เล่นกับพี่ชิน (ชินวุฒ อินทรคูสิน) ครับ จริงๆ ผมเป็นคนชอบหากิจกรรมใหม่ๆ ทำ ดีกว่าอยู่เฉยๆ ครับ เพื่อนๆ จะชอบชวนไปวิ่ง ไปยิงเลเซอร์ แล้วก็เคยลงแข่ง ตอนนั้นก็ได้แชมป์มาด้วย ผมเป็นทีมแชมป์ทีมแรกของประเทศนะครับ (หัวเราะภูมิใจ)
นอกจากเล่นกีฬาแล้ว เวลาว่างภีมจะไปทำอะไรอีกบ้างครับ
ผมก็อยู่กับเพื่อน ทำเพลงกันบ้างครับ เขียนเพลง ทำ cover เพลงกันบ้าง ทำขำๆ ครับ แล้วก็ทำอะไรอีกหลายอย่างเลยครับ ผมเป็นคนไม่ชอบอยู่เฉยๆ
ดูเหมือน ภีม ธนบดี ออกจะไฮเปอร์เล็กๆ อยู่เฉยๆ ไม่ได้
ก็ใช่ครับ (หัวเราะ) แต่ผมก็มีมุมเงียบอยู่เหมือนกันนะครับ ผมจะชอบหาหนังสือมานั่งอ่าน หลายคนจะชอบถามว่า อย่างผมนี่ ชอบอ่านหนังสือการ์ตูนหรือเปล่า แต่เปล่าเลย ผมชอบอ่านนิยายครับ
ชอบอ่านนิยายแนวไหนครับ
แปลกมาก ผมจะชอบอ่านนิยายอยู่แนวเดียว คือเป็นนิยายเกี่ยวกับเกมครับ เพราะผมชอบเล่นเกมด้วย เวลาว่างบางครั้งก็จะนั่งเล่นเกม ฟังเพลงตามประสาเด็กผู้ชาย คลายเครียดดีครับ
นิยายเกมเล่มล่าสุดที่ภีมอ่านคือเล่มไหนครับ
ยุทธภพออนไลน์ครับ เป็นของคนไทยเขียน เป็นเกมออนไลน์ใช้วิทยายุทธ แต่อยู่ในประเทศไทยครับ มันแปลกมากเลยครับ เป็นเกมที่ดึงจิตตัวเองให้เช้าไปอยู่ในเกมได้ นอนหลับแล้วเข้าไปเล่น เราก็ เฮ้ย! มันเจ๋งมาก ผมเคยมีความคิดว่า วันหนึ่งอยากให้มีเกมอย่างนี้ออกมา แล้วเราเข้าไปเล่นได้จริงๆ ผมรู้สึกว่า ใช้เวลาอ่านนิยายเกม ก็ฆ่าเวลาได้ดี แล้วก็อ่านเพลินด้วยครับ
สถานที่โปรดที่ภีมชอบไปเที่ยว
ผมชอบกลับบ้านที่ภูเก็ตครับ ผมเกิดและโตที่นั้นครับ ผมเรียนที่ภูเก็ตจนถึง ป.4 แล้วก็ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ครับ
ถามคนท้องถิ่นกันบ้างดีกว่า ภูเก็ตมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ถ้าไม่นับแหลมพรหมเทพ
สำหรับผม แหลมพรหมเทพ ไม่ค่อยมีอะไรนะ ถ้าพูดกันง่ายๆ ผมเป็นคน local ก็ว่าได้ เมื่อก่อนที่บ้านผมทำโรงแรมครับ ในความคิดของผม ที่เที่ยวที่สนุก คือ ชายหาดครับ ที่นี่มีหาดสวยเยอะมาก-ก-ก (ลากเสียงยาว) ออกเกาะ ไปดำน้ำ สน๊อกกลิ้ง ไปดูปะการัง หมู่เกาะสิมิลัน สวยมาก ติดอันดับโลกเลย จริงๆ ภูเก็ตมีที่ท่องเที่ยวเยอะมากเลยครับ ทั้งกลางวัน กลางคืน มีครบเลย 24 ชั่วโมง
สมมติว่า ภีม ธนบดี ต้องรับบทเป็น หัวหน้าไกด์ จะต้องพาชาว FAVFORWARD ไปเที่ยวภูเก็ต 5 สถานที่ ภีมจะพาไป เที่ยวที่ไหนบ้างครับ
ที่แรกเลย หมู่เกาะสิมิลัน ต้องไปแน่นอนครับ ถ้าหาดที่อยู่ใกล้ๆ ผมอยากจะพาไปหาดกะตะ-กะรนก็สวยดีครับ แล้วก็ภูเก็ตแฟนตาซีครับ ที่นี่เป็นโปรดักชั่นที่ใหญ่มากๆ เป็นเหมือนโรงละครใหญ่ๆ ที่ทุกคนมาภูเก็ตแล้วต้องไปให้ได้ แล้วอีกที่ที่พลาดไม่ได้เลยคือ ไซม่อน คาบาเร่ต์ ครับ เป็นโชว์ที่อยู่มานานมาก แล้วก็ยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ผมรู้สึกว่า มาภูเก็ตสักครั้งหนึ่งจะต้องไปที่นี่ครับ ส่วนไนท์ไลฟ์ที่นักเที่ยวต้องไป ห้ามพลาดเลย คือ ซอยบางลาครับ ไม่ว่าคุณจะ search หาที่เที่ยวที่ไหน ในเว็บอะไร ไนท์ไลฟ์ในภูเก็ตจะต้องมีซอยบางลาครับ ฟีลมันจะคล้ายๆ วอล์คกิ้ง สตรีท พัทยา ครับ แต่ต่างกันตรง ที่นี่มีคลับเยอะมาก แล้วมีดีเจ ติดอันดับ 96 ของโลกอยู่ที่นี่ชื่อ Illuzion ครับ เผลอๆ เป็นคลับที่ดีที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ คุณต้องไปดู ไปสัมผัสสักครั้งหนึ่งครับ
ว่าแต่ ภีมกลับบ้านที่ภูเก็ตบ่อยมั้ยครับ
กลับบ้างครับ กลับไปเจอที่บ้านครับ ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยชอบเที่ยว ชอบนอนพักผ่อนอยู่กับบ้านมากกว่าครับ โชคดี บ้านผมอยู่บนเขา มองลงมาก็เห็นทะเล แค่ตื่นนอนตอนเช้า นั่งกินข้าว มองทะเล ก็ฟินแล้วครับ นอกจากนี้ก็อาจจะว่ายน้ำ นอนอ่านนิยาย นั่งฟังเพลง ผมจะชอบฟีลอะไรแบบนี้มากกว่าครับ คือผมจะมีสองโหมด ไม่เฮฮาอยู่กับเพื่อน ก็จะใช้เวลาอยู่กับตัวเอง
พูดถึงเพลง ภีมชอบฟังเพลงแนวไหนครับ
ผมชอบเพลงแนว R&B แล้วก็ Soul ครับ ผมโตมากับศิลปินอเมริกัน Ne-Yo, Christ Brown และ Usher ประมาณนี้ครับ ตั้งแต่จำความได้ผมก็ฟัง Hip Hop, R&B แล้วครับ เพลงที่ผมอยากทำก็เป็นสไตล์นี้ครับ
เราจะได้ฟังผลงานเพลงของภีมเมื่อไหร่ครับ
เร็วๆ นี้ครับ กำลังคุยๆ กันอยู่ ไม่กลางปี ก็ปลายปีนี้ครับ ช่วงนี้อยู่ในช่วงโปรโมทซีรีส์ โปรโมทหนังอยู่ พอเสร็จก็จะมาลุยงานเพลงครับ
พูดถึงสไตล์การแต่งตัวของภีมบ้างครับ
เป็นคนชอบแต่งตัวสบายๆ แนวสตรีท แล้วแต่วัน บางวันก็ใส่ jogger pants หรือไม่ก็ใส่กางเกงยีนส์ครับ ส่วนเสื้อก็แนวสตรีทแบรนด์ อเมริกา เกาหลี ญี่ปุ่น ส่วนแพทเทิร์น ก็แล้วแต่ฟีลครับ ใส่หมวกบ้าง ประมาณนี้ครับ
Accessories 6 ชิ้นที่ภีมพกติดตัวตลอด
แว่นตา กำไลข้อมือ นาฬิกา กระเป๋าเป้ แล้วก็รองเท้าสนีกเกอร์แนวสตรีทครับ ส่วนสร้อยเส้นนี้ ถึงไม่ได้ใส่ ก็จะเก็บไว้กับตัวครับ เป็นของที่รักมาก พี่สาวของผมซื้อให้ คือ ก่อนหน้านี้พี่สาวก็เคยให้สร้อยแล้ว แต่ผมทำหาย เสียดายมาก พอพี่สาวซื้อเส้นใหม่มาให้ ก็จะเก็บไว้ติดตัวตลอดเลยครับ กลัวหายอีก
ฝากถึงคนที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่ หรือกำลังมองหาอะไรใหม่ๆ ให้กับชีวิต
ผมแนะนำว่า ใครมีความฝันอะไร ทำเลยครับ มันไม่มีอะไรเกินกว่าเอื้อม อย่างผมเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่า ตัวเองจะมาเป็นนักแสดงของ HBO มันคาดไม่ถึงจริงๆ เมื่อก่อนผมก็เหมือนเด็กทั่วไป เตะบอลอยู่แถวโรงเรียน แค่เป็นเด็กคนหนึ่งที่มีความฝัน แล้วลงมือทำมัน แค่คุณได้ลอง แค่คุณตั้งใจทำมันให้ได้ ถ้าคุณอยากเป็นนักบอล คุณก็ไปฝึกเตะบอล พยามไปเข้าสโมสร ทำความฝันของคุณให้เป็นจริง
“ถ้าลงมือทำแล้ว มันไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถของเราได้”
Interview : ธนกฤต ชัยสุวรรณถาวร
Photo : วาระ สุทธิวรรณ
Location : หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร และ Sky walk สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ