working

อายุไม่ได้เป็นตัววัดหรือกำหนดความเข้าใจและการปรับตัวในที่ทำงานเพียงอย่างเดียว แต่การเจริญเติบโตในแต่ละยุค ยังทำให้วิสัยทัศน์และวิธีการทำงานเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน แต่จะมีวิธีรับมือจัดการอย่างไรให้คนเกิดมาต่างยุคต่างเทคโนโลยี อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ตามไปดูกัน…

ขอแค่มีเงินเดือนหรือทำแต่ละวันให้ผ่านๆไป อาจยังไม่พอถ้าคุณอายุย่างเข้า 30 แล้วแต่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบทำอะไร และจะมีความสุขกับมันได้อย่างไร วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน

ทำงานหนักจนร่างกายอ่อนล้า หรือต้องรีบปั่นงานจนหามรุ่งหามค่ำ ถึงจะใช้เวลาทั้งคืนเพื่อทำให้งานเสร็จลุล่วง คำถามคือ มันสามารถทำให้คุณประสบความสำเร็จได้หรือไม่ จริงๆ แล้วแค่คุณปิดคอมพ์แล้วไปนอนซะ เชื่อเถอะความสำเร็จรออยู่….

วันจันทร์มาถึงแล้ว…ใครบ้างที่รู้สึกหมดพลังและเหนื่อยล้ากับการเริ่มต้นอาทิตย์ใหม่ มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายคงยกมือขึ้นกันพร้อมเพรียง แต่อย่าลืมว่าทำงานดีหรือแย่ก็ไม่อาจเล็ดลอดสายตาเจ้านายไปได้ ส่งผลต่อการปรับเงินเดือน เพิ่มโบนัสหรือโปรโมทตำแหน่งประจำปีเลยนะ ฉะนั้นรีบกดปุ่ม Refresh ตัวเองซะและไปดูวิธีกระตุ้นนิสัยการทำงานให้ประสบความสำเร็จกันเถอะ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ แน่นอนว่าไม่มีใครทำงานออกมาได้ดี ถ้าร่างกายเหนื่อยล้า เฉกเช่นเดียวกับการหาวิธีให้ตื่นอัตโนมัติแบบไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุก หากฝึกนิสัยนั้นได้ ก็จะรู้สึกสดชื่นในทุกๆ เช้า จดลิสต์ที่ต้องทำในทุกๆ วัน และอย่าลืมเช็คลิสต์ว่าอะไรได้ทำสำเร็จไปแล้วบ้างในแต่ละวัน ตั้งจุดมุ่งหมายเพื่อให้ทำทุกอย่างได้ครบตามเวลา ลองจดเวลาทำแต่ละวันคร่าวๆ ว่าเริ่มทำและเสร็จงานโดยใช้เวลากี่ชั่วโมง เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการทำงานในวันต่อๆ ไปให้แอคทีฟมากขึ้น ถามคำถามกับตัวเอง เมื่อไรก็ตามที่คุณรู้สึกหมดการเรียนรู้ในตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง อาจถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มค้นหาตำแหน่งอื่นๆ เพื่อก้าวสเต็ปต่อไป แต่คุณต้องตอบคำถามทุกเรื่องในหน้าที่ของตัวเองได้เสียก่อน ว่ารู้ครบทุกดีเทลแล้วจริงๆ เปลี่ยนตัวเองเป็น “มิสเตอร์ไอเดีย” เดินออกจากกรอบเดิมๆ ซะ แล้วค้นหาสิ่งใหม่ๆ หรือนำเสนอไอเดียดีๆ ให้กับบริษัท สงบจิตสงบใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่าเผยความรู้สึกกังวลหรือวิตกจริตเรื่องอะไรก็ตามให้คนอื่นเห็น ยิ้มสู้ไว้ เพราะท่าทีตระหนกตกใจเหล่านั้นแสดงให้เห็นว่าคุณอาจขาดภาวะความเป็นผู้นำ โต๊ะสะอาดเป็นบ่อเกิดความครีเอทีฟ บอกลาโต๊ะรกยุ่งเหยิง แล้วจัดสิ่งของให้เข้าที่เข้าทาง โต๊ะเคลียร์สะอาด สมองก็ปลอดโปร่ง สำหรับคิดงานโปรเจ็คใหม่ๆ ได้สำเร็จ แค่มองโลกในแง่ดี ไม่เพียงจะดีแค่กับตัวคุณ แต่ยังดีกับเพื่อนร่วมงานรอบๆ ตัว มันคือความจริงว่าคนที่มองโลกในแง่ดีมักจะได้รับกำไรชีวิตมากกว่าคนมองโลกในแง่ร้ายเสมอ