สะดวกสบายมากกว่าเดิม “ห้างเซ็นทรัล” อัปเกรด “EV Charger” เพิ่มจุดชาร์จรองรับไลฟ์สไตล์ลูกค้า ให้บริการฟรี ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม และ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี
ภายหลังริเริ่มให้บริการ “EV Charger” สถานีอัดประจุไฟฟ้าเป็นห้างแรกในประเทศ เมื่อ 2 ปีก่อน ล่าสุด “ห้างเซ็นทรัล” ได้จับมือบริษัท “ชาร์จ” ผู้นำด้านบริหารจัดการสถานีบริการชาร์จพลังงานไฟฟ้า สานต่อภารกิจการส่งเสริมคุณภาพชีวิต พัฒนาสังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ “Central…Love the Earth” โดย อัปเกรด “EV Charger” นวัตกรรมจากประเทศเยอรมนี ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทุกระบบ ทุกยี่ห้อ ส่งพลังได้แรงและเต็มเร็ว รับรองความปลอดภัย พร้อมเพิ่มจำนวนเป็น 20 จุดบริการ/ช่องจอด นับเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีสถานีอัดประจุไฟฟ้ามากที่สุดในประเทศไทย รองรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น พร้อมให้บริการฟรีแล้ววันนี้ ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม และศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
ห้างเซ็นทรัลนับเป็นห้างแรกในประเทศไทย ที่ริเริ่มติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ที่สถานีบริการชาร์จพลังงานไฟฟ้าที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม และศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เมื่อปี 2559 เพราะเล็งเห็นว่าทั่วโลกและในประเทศไทยเอง เริ่มมีการตื่นตัว และมีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น และยังนับเป็นการสานต่อภารกิจ Central…Love The Earth เพื่อสร้างจิตสำนึกรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเปิดตัวและดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2551
ซึ่งการดำเนินการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้า เปลี่ยนจากชุดเดิมเมื่อ 2 ปีก่อน เป็นชุดใหม่ทั้งหมด มีเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น และได้มาตรฐานสถานีประจุไฟฟ้ารถยนต์ไฟฟ้า (IEC 61851) จากองค์กรมาตรฐานระหว่างประเทศ ซึ่งรับรองได้ถึงความปลอดภัย สามารถรองรับรถยนต์ไฟฟ้าได้ทั้งประเภทปลั๊ก-อินไฮบริด (Plug-in Hybrid/ PHEV) และระบบอีเล็กทริก วีฮิเคิล(Electric Vehicle) หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 100% (Battery Electric Vehicle/BEV) สามารถรองรับ และให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าได้ทุกยี่ห้อ เพิ่มจำนวนจุดบริการทั้งหมด 20 จุด โดยแบ่งเป็นที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม 12 จุดบริการ/ช่องจอด และที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี จำนวน 8 จุดบริการ/ช่องจอด โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ณ จุดให้บริการ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีการใช้บริการที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี จากเดิมมี 2 จุดบริการ มีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ 3 คัน/วัน ภายหลังติดตั้งเครื่องเพิ่มเป็น 8 จุดบริการ ได้มีการใช้บริการเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12 คัน/วัน คิดเป็น 75%”
ตอนนี้ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จได้ ส่วนมากยังมีราคาค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ ปลั๊ก-อินไฮบริด จากค่ายรถยนต์ชั้นนำอย่าง BMW, Mercedes Benz, Porsche, Volvo หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอร์รี่ 100% ของ BMW, Nissan หรือ Tesla ล้วนแต่ยังมีราคาค่อนข้างสูง แต่ผมมองว่าไม่เกินกำลังกลุ่มลูกค้าห้างเซ็นทรัล ที่เริ่มหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยเราพบว่าสัดส่วนของผู้ใช้รถประเภทนี้ของห้างเซ็นทรัล คิดเป็น 1.3% ซึ่งมีสัดส่วนที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้า ในประเทศ ที่คิดเป็น 0.005%”
ห้างเซ็นทรัลเลือกใช้เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย กำลัง 22 กิโลวัตต์ ถึงแม้ตอนนี้รถยนต์ ประเภทปลั๊ก-อินไฮบริด จะใช้ไฟฟ้าที่เรทไม่เกิน 4 กิโลวัตต์ แต่ในอนาคตรถจะกินกระแสไฟที่มากถึง 22 กิโลวัตต์ (สำหรับรถใช้แบตเตอร์รี่ 100%/Pure EV) และจากการสังเกตพฤติกรรมลูกค้า พบว่าส่วนมากจะใช้เวลาเดินช้อปปิ้งหรือทำภารกิจต่างๆ อยู่ที่ห้างเฉลี่ย 2 ชั่วโมง ฉะนั้น ถ้าใช้เวลาประมาณนี้ และด้วยการส่งพลังงาน (Power delivery) ที่ 22 กิโลวัตต์ ไปยังแบตเตอร์รี่ของรถที่มาจอดชาร์จ หากขับมาจากบ้าน และยังมีพลังงานเหลืออย่างน้อย 50% กับเวลา 2 ชั่วโมงที่เดินในห้าง บวกกำลังประสิทธิภาพในการส่งพลังงานที่แรงทำให้ชาร์จได้ในเวลาที่เร็ว ที่สำคัญ ณ เวลานี้ ทางห้างจะยังไม่คิดค่าบริการใดๆ เพราะต้องการสนับสนุนให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะเป็นยานพาหนะที่มีการปล่อยไอเสียน้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป และต้องการแสดงให้เห็นถึงข้อดีของการใช้พลังงานจากไฟฟ้า ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการใช้น้ำมันมาก
“3 ข้อดี ของรถยนต์ไฟฟ้า”
1.ช่วยลดมลพิษบนท้องถนน : เพราะรถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ปล่อยไอเสีย และเมื่อมีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลดน้อยลง จะช่วยลดควันพิษบนท้องถนน มีผลต่อการลดก๊าซเรือนกระจก หรือลดประกฎการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect)
2.ประหยัดค่าพลังงาน : ค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายสำหรับรถยนต์ที่ชาร์จพลังไฟฟ้า เพียง 2-4 บาท/ กม. ซึ่งแน่นอนว่า ประหยัดกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
3.ประหยัดค่าซ่อมแซม : ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องอะไหล่ ค่าบำรุงรักษา ค่าเสื่อมของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีจำนวนชิ้นส่วนในการขับเคลื่อนน้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป ถึง 60% นั่นหมายความว่า ค่าซ่อมแซมจะถูกลงอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับจุดให้บริการ EV Charger มีดังนี้
1.ห้างเซ็นทรัลชิดลม : ที่ลานจอดอาคารชิดลมทาวเวอร์ ชั้น 2 จำนวน 7 จุดบริการ/ช่องจอด และที่ลานจอดของห้างเซ็นทรัลชิดลม บริเวณชั้น B จำนวน 5 จุดบริการ/ช่องจอด
2.ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี: ที่บริเวณชั้น B1 มีจำนวน 8 จุดบริการ/ช่องจอด
ขั้นตอนการรับบริการ/ใช้งาน
1.ลูกค้าแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำลานจอด
2.ลูกค้าลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ลานจอด
3.เจ้าหน้าที่เสียบสายชาร์จที่เครื่องและที่รถของลูกค้า
4.เจ้าหน้าที่จะใช้การ์ดแตะที่เครื่องเพื่อ Activate ให้จ่ายไฟ
5.เครื่องแสดงไฟสัญญาณสีเขียว แสดงถึงสถานะกำลังชาร์จ
6.หากเครื่องเป็นสีแดงแสดงว่าผิดพลาด ให้เริ่มขั้นตอนที่ 2 ใหม่
สำหรับลูกค้าห้างเซ็นทรัล สามารถรับบริการได้แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยสามารถชาร์จได้กับรถยนต์ไฟฟ้า ประเภทปลั๊ก-อินไฮบริด (Plug-in Hybrid) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100% (Battery Electric Vehicle) ทุกยี่ห้อ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพียงมองหาสัญลักษณ์ “EV Charger” ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม และศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี