เฉลิมฉลองความสำเร็จครบรอบ 6 ปีกับ ‘คาซ่า ลาแปง’ (Casa Lapin) คาเฟ่ชั้นนำที่ครองใจเหล่าคนเมือง พร้อมเปิดตัวสาขาใหม่ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
อบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟอันหอมกรุ่นกับ ‘คาซ่า ลาแปง’ (Casa Lapin) คาเฟ่ครบวงจรยอดนิยมของเหล่าคนเมืองที่ประสบความสำเร็จ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 อย่างงดงาม ที่โดดเด่นด้วยความพิถีพิถันในการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มและอาหารให้รสชาติดีอย่างมีคุณภาพ ภายใต้การบริหารงานของนักธุรกิจหนุ่มคลื่นลูกใหม่ เอกชัย สุขุมวิทยาร่วมด้วยสุรพันธ์ ทันตา และ เติมพงศ์ อยู่วิทยา พร้อมเปิดตัวสาขาใหม่ใจกลางกรุงที่ยังคงคอนเซ็ปต์การตกแต่งอันเป็นเอกลักษณ์ และพิเศษด้วยเครื่องดื่มเมนูล่าสุดที่คิดค้นขึ้นมาสำหรับสาขานี้โดยเฉพาะ ที่ร้าน ‘คาซ่า ลาแปง’ (Casa Lapin) สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในค่ำคืนที่ผ่านมา
‘คาซ่า ลาแปง’ (Casa Lapin) คาเฟ่ที่มีความหมายว่าบ้านกระต่ายอันอบอวลไปด้วยกลิ่นของกาแฟแสนหอมกรุ่น ที่เกิดจากความพิถีพิถันในการคัดสรรคุณภาพของเมล็ดกาแฟ รวมไปถึงกรรมวิธีการคั่วและการชงเครื่องดื่มที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง โดยทีมบาริสต้าผู้เชี่ยวชาญ จึงทำให้คาเฟ่แห่งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามสามารถต่อยอดสาขาทั้งหมด 6 สาขาภายในระยะเวลา 6 ปี และสำหรับสาขาล่าสุดซึ่งนับเป็นสาขาที่ 7 ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์แห่งนี้ โดยทางร้านได้สร้างสรรค์คาเฟ่แห่งใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่เรียกว่า ‘รันเวย์ โฮม’(Runway Home) หรือทางเดินเข้าบ้านกระต่าย ที่ยังคงการตกแต่งคาเฟ่ในสไตล์มาสคิวลีนที่ดูเรียบโก้ไว้ และผสานกลิ่นอายเมโทรตามแบบฉบับของบ้านกระต่ายหลังเดิม แต่จะเพิ่มเติมการตกแต่งให้ดูมีความหรูหรามากขึ้น และความครบถ้วนในทุกฟังก์ชั่นของการบริการ ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ไม่ว่าจะเป็นโซนบาร์กาแฟที่สามารถนั่งดื่มที่ร้านได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงอาหารคาวและขนมหวานที่มีให้เลือกสรรในหลากหลายเมนู ไปจนถึงโซนจำหน่ายของที่ระลึกจากทางแบรนด์ เรียกได้ว่าตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
เอกชัย สุขุมวิทยา กล่าวถึงจุดเด่นของ ‘คาซ่า ลาแปง’ (Casa Lapin) สาขานี้ว่า ‘ด้วยความที่เซ็นทรัลเวิลด์เป็นสาขาใจกลางเมือง เราจึงอยากพัฒนาร้านให้มีฟังก์ชั่นการบริการที่ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตกแต่งและการจัดสรรพื้นที่ให้กว้างขวาง นั่งสบายขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มคนเมืองและนักท่องเที่ยวที่อยากจะมานั่งจิบกาแฟในบรรยากาศสบายๆ หรือคุยงานกัน และเรายังไม่หยุดที่จะคิดค้นเมนูอาหารและเครื่องดื่มสูตรใหม่อยู่เสมอให้ถูกปากลูกค้าทุกกลุ่มรวมไปถึงเมนูขึ้นชื่อของทางร้านนั่นก็คือกาแฟ ที่เรายังคงให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยการคัดสรรอย่างพิถีพิถันโดยเน้นเมล็ดกาแฟภายในประเทศไทยอย่าง สุพรีม เฮาส์ เบลนด์ ของเราก็เป็นเมล็ดกาแฟไทย เพราะทางร้านต้องการสนับสนุนเกษตรกรไทยที่ปลูกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีมาให้คอกาแฟได้ลิ้มรสกัน เรียกได้ว่าสาขานี้เปรียบเสมือนแฟลกชิพสโตร์ที่ครบถ้วนในทุกฟังก์ชั่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นแหล่งชิลล์เอาท์อีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ทำให้คนเมืองต้องผิดหวัง’
รวมไปถึงเทคนิคการชงกาแฟที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการดริปแบบ สโลว์ บาร์ (Slow Bar) หรือการชงแบบ เอโร่เพรส (Aeropress) และอีกหนึ่งความพิเศษที่ทางร้านตั้งใจเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้เหล่าคอฟฟี่เลิฟเวอร์ นั่นก็คือการเลือกใช้เครื่องทำกาแฟแบบสตีมพังก์ (Steampunk) นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ปรุงกาแฟผ่านระบบดิจิทัล โดยสามารถกลั่นช็อตกาแฟออกมาแล้วได้รสชาติดีที่สุดทั้งยังให้กลิ่นอันหอมกรุ่นชวนลิ้มลอง โดยผู้ดื่มสามารถเลือกเมล็ดกาแฟแบบซิงเกิ้ล ออริจิ้น (Single Origin) ที่คัดสรรมาจากแหล่งที่ดีที่สุดของเมืองไทย อาทิ เมล็ดจากบ้านแม่จันใต้ จังหวัดเชียงราย และบ้านแม่ตอนหลวงจากเชียงใหม่ พร้อมเพิ่มความหลากหลายให้การดื่มด่ำในรสชาติกาแฟด้วยเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจาก เอธิโอเปีย เคนยา คอสตาริกา หรือโคลอมเบีย โดยจะผลัดเปลี่ยนประเภทของเมล็ดกาแฟไปตามฤดูกาล เพื่อให้คนรักกาแฟได้ลิ้มลองความหลากหลายของรสชาติกาแฟอันหอมหวานและกลมกล่อม
และสำหรับเครื่องดื่มเมนูใหม่ที่ทางร้านตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบในรสชาติของผลไม้มีทั้งหมด 2 เมนูด้วยกัน เริ่มจาก ออเร้นจ์ การ์นิช (Orange Garnish) เครื่องดื่มสูตรพิเศษที่ใช้กาแฟ สุพรีม เฮาส์ เบลนด์ (Supreme House Blend) ที่นำมาสกัดเย็นด้วยแก๊สไนโตรเจน และผสมให้เข้ากันกับส้มแมนดารินเชื่อม เพื่อเพิ่มรสชาติหวานละมุนและกลิ่นหอมของส้ม และเมนูไนโตร พีช ที (Nitro Peach Tea) ชาพีชที่สกัดด้วยแก๊สไนโตร ซึ่งทำให้เกิดความนุ่มในเวลาดื่ม อีกทั้งยังให้รสหวานและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของจากใบชา ให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างกระปรี้ประเปร่า
รวมถึงเมนูซิกเนเจอร์พลาดไม่ได้ของทางร้านที่ไม่ว่าใครมาเยือนต่างก็ต้องยกให้เป็นเมนูเด่น ไม่ว่าจะเป็น เฟรนช์ โทสต์ เบรกฟาสต์ (French Toast Breakfast) อาหารเช้าสไตล์ฝรั่งที่ใช้ขนมปังบริยอชเนื้อแน่นชุบไข่และนม พร้อมนำไปย่างเสิร์ฟพร้อมกับไส้กรอกย่าง, เบคอนกรอบ, ผักโขม, เห็ดผัด, มัน และแครอทอบ เมนูถัดมา แซลมอน ครีม ชีส (Salmon Cream Cheese)ขนมปังหน้าแซลมอนและครีมชีส ที่ทางเชฟได้นำขนมปังไปหมักด้วยยีสต์ ให้ได้เนื้อสัมผัสเฉพาะตัวก่อนนำมาทาครีมชีสสูตรพิเศษของทางร้าน พร้อมเสิร์ฟคู่กับผักต่างๆ และแซลมอนรมควัน ต่อมาที่ พอร์ค สไปซี่ มิโซะ (Pork Spicy Miso) ข้าวหน้าหมูมิโซะที่ทางร้านเลือกใช้หมูสันคออย่างดีที่ไม่มันจนเกินไป นำไปผัดกับซอสมิโซะสไตล์ญี่ปุ่นเข้มข้น พร้อมปรุงรสชาติให้เผ็ดมากขึ้นเพื่อให้ถูกปากของคนไทย ทานคู่กับซุปมิโซะเต้าหู้และสาหร่ายสูตรกลมกล่อม รวมไปถึงเมนูอาหารหวาน เฟรนช์ โทสต์ เบอร์รี่ (French Toast Berries) ที่ใช้ขนมปังบริยอชชุบไข่ ก่อนนำลงไปนาบบนกระทะกับเนย สอดไส้ด้วยซอสเบอร์รี่ตรงกลาง เสิร์ฟพร้อมเบอร์รี่นานาชนิดและไอศกรีมวานิลลา ปิดท้ายที่เมนู ช็อคโกแลต ชิพ ฮอท เค้ก (Chocolate Chip Hot Cake) เมนูขนมหวานที่ขายดีที่สุดของทางร้าน ที่เกิดจากการนำโด (Dough) ที่มีเนื้อสัมผัสคล้ายเนื้อเค้กและคุกกี้ผสมกัน มาใส่ลงในพิมพ์ไวท์ช็อคโกแลตและดาร์คช็อคโกแลตคุณภาพเยี่ยม ทานคู่กับไอศกรีมรสวานิลลา และซี ซอลท์ คาราเมล (Sea Salt Caramel) สูตรเฉพาะของทาง ‘คาซ่า ลาแปง’ (Casa Lapin)
ร่วมสัมผัสกับคาเฟ่สไตล์มาสคิวลีนใจกลางเมือง พร้อมลิ้มรสกับเครื่องดื่มและอาหารรสชาติเยี่ยมได้แล้ววันนี้ที่ร้าน ‘คาซ่า ลาแปง’ (Casa Lapin) สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น3