Tokyo City Flea Market ตลาดนัดของมือสอง Rare Items ในญี่ปุ่นกับราคาเริ่มต้น 100 เยน

Tokyo City Flea Market ตลาดนัดของมือสอง Rare Items ในญี่ปุ่นกับราคาเริ่มต้น 100 เยน

ถ้าคุณมาญี่ปุ่นทั้งที เป้าหมายของหลายคนน่าจะเป็นการช้อปปิ้งและเที่ยวชมธรรมชาติตามสถานที่ต่างๆ ที่เพื่อนและรีวิวการันตีให้คะแนนเต็ม 10 แต่ถ้าคุณมีโอกาสมาโตเกียว และกำลังหาที่เดินเจ๋งๆ ช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เราอยากให้ลองมาที่ Tokyo City Flea Market ตลาดนัดมือสองที่หลายคนพูดว่าเป็นคลองถมเมืองไทยดูสักครั้ง รับรองว่ามันไม่ใช่แค่ของที่มีชิ้นเดียวในโลกที่คุณจะได้ไป แต่มันคือ Rare Items ที่บางชิ้นก็เก็บมาตั้งแต่ปี 60s เลยก็ว่าได้

ขึ้นชื่อว่าตลาดนัดของญี่ปุ่นนั้นไม่เหมือนบ้านเราเท่าไรนัก บางที่เปิดแค่ช่วงหน้าหนาว บางที่เปิดเดือนละครั้ง หรือแม้กระทั่งวันที่เปิดแต่ละเดือนก็ยังไม่เหมือนกัน ซึ่งคุณต้องดูฤกษ์ดูชัยให้ดี ก่อนจะนั่งรถไฟหลายสถานีเพื่อตามหา โดยสามารถเช็คได้จากตารางตลาดนัดของแต่ละสถานที่ที่จะมีวันเวลาบอกไว้อย่างชัดเจน

แต่ที่แห่งหนึ่งที่น่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังในการมาเดินเล่นช่วงสุดสัปดาห์ได้เกือบตลอดทั้งปี (สามารถเช็คตารางเปิด – ปิดได้ที่ https://trx.jp/static/en/tcf/index.html) นั่นคือ Tokyo City Flea Market สถานี Oi Keibajo Mae ที่นี่จะเปิดวันเสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 15.00 น. แต่เราขอแนะนำว่าให้มาในช่วงเช้าๆ ก็จะดี เพราะตอนที่เราเดินแบบชิลล์ๆ เป็นเวลาแค่เที่ยงกว่าๆ ร้านรวงก็ทยอยพากันเก็บร้านไปเยอะแล้ว ซึ่งเราก็แอบงงเล็กน้อย หรืออาจจะเป็นเพราะช่วงอากาศหนาว ที่ตลาดค่อนข้างเงียบไม่ค่อยมีคนออกมาเดินสู้ลมหนาวสักเท่าไร

การเดินทาง: ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ใต้ลานจอดรถของสนามแข่งม้า Oi Keibajo ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโตเกียว โดยถ้าคุณถือบัตร SUICA หรือ PASSMO ซึ่งครอบคลุมการเดินทางได้ทั้งรถไฟฟ้า ใต้ดิน โมโนเรลหรือรถบัส ชีวิตก็จะง่ายหน่อย ด้วยการนั่ง JR สาย Yamanote Line ไป Tokyo/Shinagawa ลงที่สถานี Hamamatsucho Station แล้วเดินต่ออีก 3 นาทีไปประตูทางออก Central Exit เพื่อต่อ Tokyo – Monorail อีกประมาณ 2 สถานีก็ถึง Oi Keibajo Mae จากนั้นเดินต่อมาอีกแค่ประมาณ 400 เมตรก็ถึง Tokyo City Flea Market (บอกอีกนิดว่าเราเริ่มขึ้นจากสถานี Ueno)

เมื่อมาถึงที่นี่มองไปกว้างๆ จะเห็นจำนวนแผงร้านค้ากว่า 300 แผงที่ส่วนมากจะเป็นร้านแบบเปิดท้ายรถ เพียงพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาจอดตามล็อค ก็พร้อมเปิดท้ายขายได้ทันที จึงค่อนข้างเป็นระเบียบ ทำให้ได้เดินดูของได้อย่างสบาย สินค้าที่ขายมีมากมายหลากหลายอย่างโดยเริ่มต้นจาก 100 เยนหรือ 30 บาท แต่อย่าคิดว่า 30 บาทจะได้ของกะโหลกกะลา เพราะเราเจอหมวกเท่ๆ กระเป๋า ผ้าพันคอที่เรียกว่าหาซื้อที่ไทยไม่ได้บ้างก็มี แต่ส่วนใหญ่ของที่นี่จะเน้นเสื้อผ้ามือสองของทั้งผู้หญิงผู้ชายสภาพค่อนข้างดีมาก ถุงเท้า รองเท้า  อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นาฬิกา ของเล่น ของสะสม ภาพเขียน เฟอร์นิเจอร์เก่า สินค้าแนว Handmade และสินค้าเบ็ดเตล็ด หรือถ้าช่วงหน้าหนาว เสื้อโค้ทในราคา 500 บาท ก็สามารถหาได้ที่นี่ นอกจากนี้ถ้าเดินจนเมื่อย ก็มีร้านอาหาร ของกินเล่นพร้อมโต๊ะให้นั่งทานสบายๆ ไม่ต้องยืนให้เมื่อยคอยรองรับ

เราว่าถ้าใครที่ชอบของ Rare Items ได้ลองมาเดินที่นี่สักครั้ง คุณจะได้เจอขุมทรัพย์ที่คุณต้องการกลับไปแน่นอน…เพราะเราก็ได้เช่นกัน ก่อนจบวันนี้บอกไว้ก่อนว่าอาทิตย์หน้าจะพาไปเดินต่อที่อีกหนึ่งตลาดวินเทจหรือที่เรียกกันว่า ตลาดเด็กแนว ชิโมคิตาซาว่า (Shimokitazawa) แม้ราคาจะไม่ถูกเท่า Flea Market แต่ที่นี่ก็มีของเจ๋งๆ ไม่น้อยหน้าเช่นกัน…

keyboard_arrow_up