ค็อกเทล 4 เมนูใหม่จาก PHRAYA รังสรรค์ผ่านศาสตร์และศิลป์รัมชั้นเลิศของไทย
วัฒนธรรมและเทรนด์การดื่มในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากอดีตจนกลายมาเป็นการยกระดับความเอ็กซ์คลูซีฟที่สะท้อนรสนิยมของทั้งผู้ดื่มและมิกโซโลจิสต์โดยไม่มีขอบเขตเรื่องพรมแดนอีกต่อไป ปัจจุบันมีการคัดสรรและเลือกใช้วัตถุดิบที่หลากหลายรวมถึงแตกต่างไปจากเดิม โดยไม่ทำให้เสียอรรถรสของความเป็นรัมรสชาติยอดเยี่ยม สืบเนื่องมาถึงการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆ
โดยมีมิกโซโลจิสต์เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราว และเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา PHRAYA ได้จัดงาน Meet the Craft Episode 1: Battle of the Four Elements เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเทรนด์การดื่มค็อกเทลในเมืองไทยและสิงคโปร์ โดยมีคุณ LEON TAN Head Bar @Native ซึ่งเป็นค็อกเทลบาร์ชื่อดังจากสิงคโปร์ติดอันดับ 4 ของ Asia’s 50 Best Bar ประจำปี 2562 ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การดื่มของคนรุ่นใหม่พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนอกจากการคิดค้นสูตรใหม่ต่างๆ
สิ่งที่น่าสนใจคือ คุณ LEON ได้ริเริ่มปรับรูปแบบการเสิร์ฟเครื่องดื่มของร้านไปสู่กระบวนการคิดแบบยั่งยืนมากยิ่งขึ้น กล่าวคือ ลดการใช้วัสดุที่ทำลายสิ่งแวดล้อม อาทิ กระดาษรองแก้ว หรือหลอดต่างๆ แต่หันมาใช้ใบไม้สำหรับทำเป็นที่รองแก้ว สามารถนำไปใช้ทำปุ๋ยได้อีกครั้งหลังจากใช้งานเสร็จ NATIVE พยายามลดปริมาณขยะเหลือใช้ จนเหลือเพียง 50 กรัม ต่อเดือนเท่านั้น นอกจากนี้ ในช่วงค่ำ คุณ Leon Tan ได้มารังสรรค์เมนูค็อกเทลสุดพิเศษจากโจทย์แรงบันดาลใจแห่งธาตุทั้ง 4 ของ PHRAYA ได้แก่ “ดิน น้ำ ไฟ ลม” ให้ทุกคนได้สัมผัสถึง Craft of Refinement และดื่มด่ำไปพร้อมบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ Vesper
จุดเริ่มต้นของค็อกเทลทั้ง 4 รสชาตินั้นมาจาก PHRAYA สีทองอำพันที่ใส่ใจในทุกกระบวนการผลิต จนขึ้นชื่อได้ว่าเป็น Craft of Refinement ได้รับแรงบันดาลใจจากธาตุทั้ง 4 ในการผลิตได้แก่ ธาตุดิน: ด้วยวัตถุดิบจากอ้อยที่มีแหล่งกำเนิดในจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีดินค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง ธาตุน้ำ: สื่อถึงการใช้น้ำที่บริสุทธิ์ในกระบวนการผลิตจากแม่น้ำท่าจีน ธาตุไฟ: การบ่มจากถังไม้โอ๊คที่ผ่านการลนไฟอ่อนๆ เพื่อกระตุ้นเนื้อไม้ มอบกลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ธาตุลม: มาจากที่ตั้งของโรงเก็บบ่มใกล้ทะเลสาบที่มีลมพัดเย็นพัดผ่านตลอดปี โดยใช้เวลาบ่มนานถึงระหว่าง 7-12 ปี ด้วยความละเมียดละไม และเมื่อลองสัมผัสแบบเพียวรสชาติแรกที่ดื่มเข้าไปมีความ หอมหวาน กลิ่นโคโคนัท และตามด้วยกลิ่นคาราเมลในตอนปลายหลังจากรัมไหลผ่านลงคอ แฝงด้วยรสสัมผัสสไปซี่ ลุ่มลึก และ ซับซ้อน ที่สำคัญกลิ่นและรสชาติแม้จิบเพียงเล็กน้อยแต่ก็ยังคงเย้ายวนทรงเสน่ห์ให้ได้กลิ่นอยู่รอบๆ ตัว
ซึ่งทางคุณ LEON ได้นำ PHRAYA ไปผสมผสานกับวัตถุดิบต่างๆ รังสรรค์ออกมาเป็นค็อกเทล 4 เมนูใหม่คือ
- EARTH (ดิน) นำเสนอแรงบันดาลใจของผืนดินที่ทำให้พืชพรรณงอกงามด้วยดอกอัญชัน น้ำส้มสายชูจากอ้อย ขนุน และ Calamansi Tonic
- WATER (น้ำ) ได้รับแรงบันดาลใจจากเมนูข้าวแช่ของไทย สื่อถึงความสดชื่นของกลิ่นมะลิจาก Jasmine Flower Koji น้ำสับปะรด และกลิ่นหอมของใบเตยจาก Pandan Water Kafir ตกแต่งด้วยแผ่นข้าวตังกรอบด้านบน
- FIRE (ไฟ) สื่อถึงไฟด้วยรสชาติเผ็ดร้อนที่มาพร้อมกลิ่นหอม ด้วยส่วนผสมของน้ำสกัดจากแกงเขียวหวานโดยเทคนิคการกลั่นเฉพาะของทาง Native ที่เรียกว่า Green Curry Distillate พริกขี้หนู น้ำมะพร้าว และมะพร้าวรมควัน
- AIR (ลม) ได้รับแรงบันดาลใจจากสายลมเย็นที่ใช้น้ำส้มโอ ผสานเข้ากับ Triona Mead และ Ginger Kombucha ที่ผสานด้วยรสชาติของขิง
ทั้ง 4 รสชาติแม้จะผสานกับหลายวัตถุดิบแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความโดดเด่นของ PHRAYA รัมระดับพรีเมี่ยมชั้นนำของโลกลดลงไป แต่กลับสะท้อนกลิ่นอายความเป็นตัวตนออกมาได้ชัดเจน
และหลังจากนี้คุณปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ Group Bar Manager @Vesper จะมีการ Swap Bar ไปทำ Guest Shift ที่ Native ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 12 มิถุนายน 2562 เพื่อแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดอัตลักษณ์ไทยผ่านรัม PHRAYA ให้ต่างชาติได้ซึมซับวัฒนธรรมและความต่างภายใต้ คอนเซ็ปต์เดียวกันให้ได้รับรู้รสชาติเช่นเดียวกัน ซึ่งในมุมมองของคุณปาล์มจะเลือกใช้ มะม่วงเป็นตัวแทนของ “ปฐพี” ธาตุดิน ใช้สับปะรดและมะพร้าว เป็นตัวแทนของ “อาโป” ธาตุน้ำ พริกเกลือคือส่วนผสมหลักใน “เตโช” ธาตุไฟ และสุดท้ายกลิ่นของสมุนไพรความหอมของใบมะกรูดเป็นตัวแทนของ “วาโย” ธาตุลม
ทั้งหมดนี้คือสิ่งสะท้อนให้เห็นว่าการผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรมสามารถบอกเล่าเรื่องราวผ่านการดื่มด่ำรัมในรูปแบบค็อกเทล จาก PHRAYA ทำให้คุณสามารถสร้างอรรถรสความสุขจากการดื่มได้มากกว่าที่เคย