Google Map มักจะมีประโยชน์เสมอโดยเฉพาะช่วงเวลาเย็น ถ้าเห็นสีแดงขึ้นยาวเป็นแถบตามแนวถนน การันตีความหงุดหงิดจากรถติดยาวไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงได้เลย แม้จะดูเป็นเรื่องปกติที่เราต้องประสบในทุกวัน 2 เวลาหลังอาหาร แต่ก็ไม่อาจจะทำให้เราหลีกหนีความจริงของถนนกรุงเทพฯ ไปได้ ฉะนั้นทางแก้ที่ดีที่สุด ที่ทำแล้วได้ประโยชน์ทั้งอิ่มท้อง และผ่อนคลายความเครียดหลังเลิกงานได้ดี คือการแวะ กิน กิน กิน วนไปอย่าให้เสียจากตามแนวรถไฟฟ้า จุดมุ่งหมายหลักที่จะไม่ทำให้การเดินทางของคุณเป็นอุปสรรคอย่างแน่นอน
แต่การพาทัวร์ร้านวันนี้ของ FAVFORWARD มาในฉบับมุ้งมิ้งสักนิด กระชากวัยหน่อยๆ กับ 6 ร้านรวมคาเฟ่มีสไตล์ในรูปแบบธีมคาแรคเตอร์ ทั้งมูมิน ชาร์ลี บราวน์ หรือม้าโพนี่ ทั้งหมดนี้จะมาสร้างสีสันให้อาหารมื้อค่ำของคุณมีความสุขขึ้น
Station1: BTS สยามสแควร์
Moomin Café
เริ่มต้นจากศูนย์กลางเมืองกรุงเทพฯ “สยามสแควร์ แหล่งฮิปๆ ที่มีแต่คนฮอตๆ ตลอดสองข้างทาง ด้วยความที่สยามเป็นแหล่งรวมความทันสมัย ทั้งแฟชั่น บิวตี้หรือเทคโนโลยีงานดีไซน์ จึงไม่แปลกนักที่จะมีร้านอาหารแสนอร่อยมากมายกว่า 100 ร้านให้เราเลือกสรร จุดมุ่งหมายแรกเราขอข้ามไปที่ชั้น 4 สยามเซ็นเตอร์เพื่อออกตามล่าหามูมินตัวใหญ่
เมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้น 4 ต้อนรับเราเป็นอย่างดีจากสองผู้เฒ่าใจดีของบ้าน Moomin Café คือมูมินมัมมา (Moominmamma) และมูมินปัปปา (Moominpappa) ราวกับว่ารอคอยเชื้อเชิญให้เข้าไปเล่นในบ้าน ภายในตกแต่งในสไตล์อบอุ่น จำลองให้เหมือนหมู่บ้านตามแถบสแกนดิเนเวียน รูปแบบคันทรีนิดๆ เมื่อมองไปรอบๆ โต๊ะและเก้าอี้ทำจากเฟอร์นิเจอร์ไม้ ตกแต่งมูมินและตุ๊กตาในเรื่องไว้ตามเก้าอี้นั่งจุดต่างๆ ใครที่มาคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวเหงา เพราะเรามีมูมินตัวใหญ่สีขาวคอยนั่งอยู่เป็นเพื่อน หรือจะเอนกายซบพักเหนื่อยสักนิด มูมินก็มีไหล่อุ่นๆ ไว้รอเสมอ
ก่อนจะเริ่มสั่งขนมหวาน บอกสักนิดว่ามูมินไม่ใช่ฮิปโปแต่เป็นโทรลสีขาว คอยพิทักษ์ป่าในโลกแห่งจินตนาการ และมูมินยังเป็นคาแรคเตอร์น่ารักๆ ในโลกการ์ตูนมานานกว่า 100 ปี แล้ว Moomin มีพ่อ แม่ ลูก และผองเพื่อนอีกหลายตัว นอกจากนี้ด้านข้างร้านยังสามารถแวะมาชมมูมิน คอร์เนอร์ กระท่อมของที่ระลึกลิขสิทธิ์แท้จากประเทศฟินแลนด์ และนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น หน้าตาน่ารัก น่ากอด เห็นแล้วอยากได้ไปซะทุกชิ้น หลังจากทานขนมอิ่มแล้วได้อีก
Recommend Menu:
แค่หน้าตาก็กินขาด เสริ์ฟบนกระทะขนาดกำลังพอดี “แพนเค้กสูตรมูมินมัมมา” มาพร้อมท้อปปิ้งสุดอลังการทั้งผลไม้ ไอศกรีมและวิปครีม แพนเค้ก มีให้เลือกระหว่างรสอออริจินัลและรสชาเขียว ราดด้วยซอสและไซรับคู่กับอัลมอลด์ ช่วยเพิ่มรสชาติให้แพนเค้กอร่อยชวนฝัน ด้านล่างของกระทะยังมีแครกเกอร์บด ช่วยเพิ่มอรรถรสในการกิน
PLACE: ชั้น 4 สยามเซ็นเตอร์ ตรงมุมฝั่งใกล้พารากอน เปิด 10.00-21.30 ครัวปิด 21.00
Eat All Day Café by COTTO CURIOUS
เดินข้ามฝั่งมาอีกหน่อยที่ตึก Siam Square One น้องแกะสีเหลืองนั่งรอเริงร่าอยู่ที่ Eat All Day Café by COTTO CURIOU ธีมคาเฟ่คาแรคเตอร์ของไทยที่แรก สร้างสรรค์เมนูใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ความตระกละของ คุณชูชีพ (Shew Sheep) แกะจอมกิน ภายในตกแต่งด้วยเก้าอี้หลากสี จัดมุมไว้แบ่งเป็นหลายโซน ให้นั่งอ่านหนังสือหรือทำงานเงียบๆ จะนัดพบปะสังสรรค์กันตรงนี้ก็เป็นแลนมาร์คที่ดี
ตรงกลางของร้านยังคงคอนเซ็ปต์เดิมของ COTTO CURIOUS มีโชว์สินค้าของ COTTO ที่เป็นไฮไลต์เด่นๆ อาทิกระเบื้องคอลเล็กชั่นคิตตี้ หรือ แพตช์เวิร์ค ส่วนของบริเวณที่นั่งแต่ละจุด เจ้าแกะจอมกินยังตามไปก่อกวนขอนั่งดูคุณทานหรือนั่งเป็นเพื่อนแก้เบื่อก็ได้นะถ้ามาคนเดียว ทานขนมเสร็จก่อนเดินออกจากร้าน แวะชมสักนิดบริเวณทางออก เพราะเขามีสินค้าที่ระลึกของคุณแกะทั้งสมุด เข็มกลัด สติ๊กเกอร์ ให้ซื้อกลับไปสะสมหรือใช้เป็นของน่ารักติดตัว
Recommend Menu
เมนูของว่างของที่นี่ยังมีความอิงความเป็นคุณแกะ เราเลือกชิม Mile Crepe Mango Flood เครปเค้กราดด้วยซอสมะม่วง ให้สัมผัสรสเปรี้ยวตัดหวานได้ดี ทานคู่กับน้ำ Passion Fruit X Orange Kick น้ำเสาวรสผสมส้ม ความเปรี้ยวกำลังพอดี เมื่อสั่งมาทานคู่กับขนมได้รสกลมกล่อม ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน
PLACE: COTTO CURIOUS ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ชั้น 3 เปิดทุกวัน 11.00 – 21.00น. แต่จะเปิดถึงแค่เดือนสิงหาคมนี้เท่านั้นนะ ต้องรีบแวะมาชมความน่ารักแล้วล่ะ
Station2: BTS ชิดลม
Sirotan Café
ขึ้นรถไฟฟ้าเดินทางกันต่อมุ่งหน้าไปยังสถานีชิดลม สู่ทางออก 4 บริเวณชั้น 3 ของห้าง The Mercury Ville สะดวกสบายหลังจากเดินออกจากรถไฟ ก็สามารถเดินต่อจากทางเชื่อมรถไฟฟ้าตรงเข้าไปทางซ้ายมือของห้างได้เลย ตรงสุดทางจะมี “Sirotan Café”เจ้าแมวน้ำน้อยนอนคอยทักทางอยู่ทางเข้า ทำให้เราไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่นก็ได้สัมผัสความน่ารักแบบใกล้ชิด บอกเลยว่าใครที่ชอบความมุ้งมิ้ง ร้านนี้จะทำให้หัวใจสาวๆ พองโตไม่น้อย
มองไปทางซ้ายของร้านมีตุ๊กตาแมวน้ำชิโรตันเป็นแรงดึงดูดให้เราเดินเข้าไปหา รวมถึงของที่ระลึกทั้งสมุด ปากกา แก้ว หมอนและผ้าห่ม วางจำหน่ายสำหรับสาวกชิโรตันได้ซื้อกลับไปนอนกอดที่บ้าน สไตล์การตกแต่งด้วยไม้ในกลิ่นอายญี่ปุ่น ทำให้ภายในร้านดูอบอุ่นเป็นกันเอง บริเวณเคาน์เตอร์ของร้านก็ยังมีชิโรตันจิ๋วให้หยิบยืมไปถ่ายรูปคู่กับขนมแสนอร่อย สร้างรูปสวยๆในเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมได้อีกนะ
Recommend Menu:
เพราะความหอมของขนมในชิโรตัน คาเฟ่เตะจมูกเราอย่างแรง ฉะนั้นไม่รอช้า รีบสั่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน Buttermilk Hotcake เป็นแพนเค้กสูตรบัตเตอร์ปั๊มลายชิโรตัน ทานกับน้ำผึ้งหรือเนย ตกแต่งด้วยวิปครีม เติมความอร่อยในการทานมากขึ้นเมื่อทานคู่กับชาร้อน
ต่อกันที่เมนูที่สองเอาใจคอสตอร์เบอรี่เลิฟเวอร์ในชื่อเมนู “Strawberry Hotcake” ชั้นเค้กราดครีมสตอร์เบอรี่เยิ้มๆ หวานละมุนเสิร์ฟพร้อมสตอร์เบอรี่ฝานและไอศรีมสตอร์เบอร์รี่เชอเบท เห็นแล้วใจละลาย
ปิดท้ายด้วย Chocolate Banana Toast โทสต์ขนมปังร้อนๆ ราดด้วยช็อกโกแลตตกแต่งด้วยวิปครีมมาพร้อมไอศกรีมรสนุ่มเวลาทานตัดโทสต์เป็นชิ้นพอดีคำ พร้อมกล้วย และไอศกรีม แกล้มด้วยโกโก้ครั้นช์กรอบกรุบกรับ เมนูนี้อาจจะใช้เวลาอบนานสักนิดประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ได้โทสต์รสละมุน แต่ถ้าใครหิวมากแนะนำว่าให้ทานเมนูอื่นคู่ไปก่อนระหว่างรอ แม้จะใช้เวลาอบนานไปนิดแต่รับรองว่ารสชาติอร่อยถูกปาก
PLACE: ห้าง The Mercury Ville สถานีชิดลมทางออก 4 บริเวณชั้น 3 เปิด 10.00-21.00
Station3: BTS ทองหล่อ
The Bookshop Café
ถ้าใครชอบอ่านแฮรี่ พอตเตอร์หรือเป็นหนอนหนังสือตัวยง แนะนำว่าให้มาร้านนี้ แม้จะตั้งอยู่ใน Ashton Condo ซอยสุขุมวิท 38 แต่ก็เดินทางสะดวกด้วยการลงรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ เดินตรงเข้าไปในซอยอีกประมาณ 500 เมตร ร้านจะอยู่ภายในคอนโดฯ ทางขวามือ บรรยากาศตกแต่งให้ชวนพิศวง เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์เล็กๆ ร้านค่อนข้างเล็กไปหน่อยเหมาะสำหรับนั่งคุยกันสองถึงสามคน รู้สึกเป็นส่วนตัว
จัดที่นั่งเป็นโซฟาร์นุ่มๆและเก้าอี้บาร์สูง มองขึ้นไปด้านบนรายล้อมด้วยหนังสือหลายเล่มแขวนอยู่กลางอากาศ สีในร้านให้ความรู้สึกวินเทจนิดๆ นอกจากนี้ พนักงานของร้านยังใส่เครื่องแบบเป็นบรรณารักษ์ เรียกได้ว่า ร้านนี้แค่การตกแต่งก็ได้ใจไปเต็มๆ
Recommend Menu:
The Bookshop Sandwich ชื่อเมนูที่เป็นชื่อเดียวกับร้านพาให้เราอยากลิ้มลอง แม้ความคิดแรกอาจจะเป็นแซนด์วิชธรรมดาๆ แต่พอพนักงานยกมาเสิร์ฟ ต้องตกตะลึงในขนาดไซต์ที่ทานกันได้ถึง 3 คน ด้านในสอดไส้แซนด์วิชด้วยไก่ย่างกริลล์ เนื้อหมูย่าง มะเขือเทศและผักกาดหอม ที่ใส่เนื้อมาแน่นกัดพอดีคำ จะเรียกว่าเป็นจานเรียกน้ำย่อยก็ไม่เชิงแต่ถ้าทานเป็นบรันช์ก็ทำให้อิ่มได้ไม่น้อย
ส่วนเมนูเครื่องดื่ม ทางร้านแนะนำให้ทาน Virgin Mix Berry Mojito แค่ชื่อก็ทำให้เราอยากสั่งมาลองชิมสักนิด เสิร์ฟด้วยแก้วทรงสูงที่ใส่สมุนไพรหลายชนิดเข้ามาให้รสสัมผัสเปรี้ยวนิดๆ แต่ดื่มแล้วรู้สึกสบายคลายเครียด เหมาะกับการนั่งคุยยาวๆ
PLACE: Ashton Condo ซอยสุขุมวิท 38 ลงรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อทางออก 4 เดินตรงเข้าไปในซอยอีกประมาณ 500 เมตร ร้านเปิด 9.30 – 22.30 น.
Station 4 BTS ช่องนนทรี
Unicorn Café
เดินทางมาถึงร้านนี้น้ำตาลในเลือดแทบจะขึ้นสูง ตอนแรกเรามาตามจุดแลนมาร์คของร้าน แต่ว่าหาร้านไม่เจอ เพราะร้านย้ายถัดไปใกล้ๆ อีกประมาณ 1 เมตร เปิดประตูเข้าไปประหนึ่งหลงเข้ามาในวันเดอร์แลนด์แดนมหัศจรรย์ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ม้ายูนิคอร์นนั่งยิ้มรอรับเต็มไปหมด งานนี้ใครชอบยูนิคอร์นแบบเข้าเลือดต้องมาให้ได้ เพราะตั้งแต่ผนังจรดฝ้าเพดานของร้านประดับประดาด้วยวอลเปเปอร์ยูนิคอร์นสีหวานในทุกๆ พื้นที่
โซฟาสพาสเทลตัวใหญ่นั่งสบายราวกับเป็นเก้าอี้ของเจ้าหญิง มีเหล่าม้ายูนิคอร์น คอยอารักขาทั้งซ้ายขวา น่ารักไปหมด นอกจากนี้ยังมีพร้อพทั้งบ้านปราสาทและเหล่ายูนิคอร์นตัวเล็กตัวน้อยให้คุณหยิบไปถ่ายรูปสนุกๆ กับเพื่อน
Recommend Menu:
นั่งเพลินอยู่นาน ถึงเวลาสั่งเมนูขนมมาถ่ายรูปสักที เดินเข้าไปดูตรงตู้ขนมเค้ก เห็นปุ้บต้องขอสั่งเมนูแรก Rainbow Crepe Cake หรือเครปเค้กสายรุ้งมาชิมสักหน่อย ก่อนทานราดด้วยซอสสตอร์เบอรี่ หน้าตาหวานๆ แบบนี้แต่พอตักเข้าปากคำแรก โอ้โห! อร่อยสมคำร่ำลือ ด้วยสีสันสดใสของเค้ก พอจัดถ่ายคู่กับเจ้ายูนิคอร์นยิ่งดูน่ารักชวนให้ใครเห็นก็อิจฉา
ก่อนจะทานเค้กหมดเหลือบหันไปสะดุดตากับแก้วรูปดาวใบใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ในเมนู ชวนให้นึกย้อนอดีตถึงการพับดาวกระดาษใส่ขวดโหลผนวกกับสีพาสเทลของน้ำ จึงรีบเอ่ยถามน้องในร้านรัวๆ ว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไร? ได้คำตอบว่ามันคือ Milky way frappe ตรงตามชื่อเลยคือนมปั่นแต่เล่นเลเยอร์ 3 ชั้น 3 สี แค่แก้วเดียวก็ทานร่วมกันได้ทั้งกลุ่ม แถมรสยังนุ่มละมุนหอมหวาน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูของคาว อาทิ สปาเก็ตตี้เบคอนคาโบนาร่าเส้นสายรุ้ง เป็นอีกเมนูที่ทางร้านแนะนำ แม้วันนี้จะไม่ได้ทานแต่แน่นอนว่าเราจะกลับมาซ้ำที่แห่งนี้อีกครั้ง
PLACE: สาทรซอย 8 ลงรถไฟฟ้าสถานีช่องนนทรีทางออก 2 เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์(ปิดวันจันทร์) เวลา 12.00 – 20.00น.
Station 5 BTS สนามกีฬาแห่งชาติ
ตัวการ์ตูนในตำนาน สนู้ปปิ้และชาร์ลีบราวน์พาเรามาหยุดอยู่ที่ร้านแห่งนี้ “Charlie brown Café” ตัวร้านไม่ใหญ่มากนักตั้งอยู่บนชั้น 7 ในห้างมาบุญครองโซนโรงหนัง ตรงข้ามกับร้านยาโยอิ ตกแต่งในโทนอบอุ่นผนังลายอิฐสลับกับลายการ์ตูน ใช้โทนสีสบายตาจะเลือกทานกาแฟกับขนมหรือทานอาหารมื้อใหญ่ ที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายเมนู
แต่ถ้ายังรู้สึกไม่อิ่มเอมได้เต็มที่หากมีเวลาว่างช่วงเสาร์-อาทิตย์ ไปนั่งยาวๆ กันต่อที่ Charlie brown Café เมกกา บางนาได้เช่นกัน เพราะนอกจากได้ชิมขนมอร่อยๆ ยังช้อปต่อกับสินค้าแต่งบ้านหรือแฟชั่นและบิวตี้หลากสไตล์ ครบจบได้ในที่เดียว
Recommend Menu:
เมนูอาหารที่นี่แม้จะไม่ได้หวือหวาเหมือนหลายร้านที่ผ่านมา แต่ทว่าก็มีกิมมิกน่ารักๆ ตามสไตล์สนู้ปปี้ เราสั่งชุดข้าวหมูอบ 1 เซ็ตในราคา 195 บาทซึ่งเป็นโปรโมชั่นของทางร้านพอดี ประกอบไปด้วยข้าวปั๊มพ์ให้เป็นรูปสนู้ปปี้ น้ำแป๊บซี่และคัพเค้ก 1 ชิ้น แม้จะเป็นเซ็ตสำหรับทานคนเดียวแต่ก็อิ่มกำลังดี รวมถึงมีชาร์ลีบราวน์และสนู้ปปี้นั่งทานเป็นเพื่อนแก้เหงาๆได้เหมือนกัน
PLACE: ลงรถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ เดินตรงไปทางออกห้างมาบุญครอง บริเวณชั้น 7 โซนโรงหนังตรงข้ามกับร้านยาโยอิ เปิด 10.00 – 22.00 น.
จบทริป 6 ร้านธีมคาเฟ่กับการพลีชีพทานขนมและอาหารแบบจัดเต็มของทีมงาน บอกเลยว่าถ้าไปตรวจค่าน้ำตาลในเลือดตอนนี้มีหวังเกินขีดมาตรฐานอย่างแน่นอน ครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวไปชิมที่ไหนกันอีกรอติดตามได้ใน Where
Story: Porko
Photo : Wara Suttiwan