ไอเดียตัด ทรงผมชาย Crew Cut ไม่ได้มีแค่แบบเดียว
ถ้าคิดว่าการตัดผมสั้นเกรียนจะดูไม่ดี เราอยากให้คุณลองพิจารณาทรงเหล่านี้ใหม่ เพราะบางทีมันก็ช่วยจัดการปัญหาในการเซ็ทผมแต่ละวันได้ดี รวมถึงคนที่เป็นคนผมหยิกหรือผมหยักศก นี่ก็เป็นอีกทรงที่เหมาะกับคุณครับ
Crew Cut คืออะไร
หลายคนงงคำว่า Crew Cut กับ Buzz Cut แต่ความแตกต่างของมันคือ
Buzz cut เป็นทรงผมที่มีลักษณะสั้นเกรียน แต่ไม่ได้ถึงกับโกนเกลี้ยงจนโล้นทั้งศีรษะ ถือเป็นทรงผมที่ทหารทั่วโลกนิยมตัดกันมาตั้งแต่ช่วงยุคสงคราม เพราะเป็นทรงผมที่ทะมัดทะแมง คล่องตัว ทำแล้วสามารถลุยภาคพื้นสนามได้ดี ซึ่งด้วยความเรียบง่าย ตัดแล้วสบายหัว Buzz cut เหมาะสำหรับคนที่มีรูปศีรษะทุย เพราะผมทรงนี้จะสั้นเกรียนโชว์ให้เห็นรูปทรงของศีรษะได้ชัดเจน ส่วน Crew Cut มีลักษณะสั้นเกรียนgเช่นกัน แต่อาจเพิ่มเติมโดยมีการเฟดไล่ระดับจากผมด้านบนลงมาด้านล่าง รวมถึงจะมีการไว้ผมด้านบนให้มีความยาวพอสมควร เพื่อให้จัดทรงผมในสไตล์ต่างๆ ได้ตามที่เราต้องการ
The Classic Crew Cut รูปแบบคลาสสิก
เรียกง่ายๆ ว่าทรงออริจินัล เน้นรูปแบบคลาสสิก ข้างบนและด้านข้างหรือด้านหลังถึงแม้จะไม่ได้มีความยาวเท่ากันแต่ก็ยังเน้นตัดข้างบนสั้นพอดีๆ ให้ดูเนี้ยบแบบหนุ่มนักธุรกิจ ที่พร้อมจะแต่งชุดสูทหรือเป็นหนุ่มออฟฟิศที่ชอบความเบาสบายหัวโดยไม่ต้องจัดทรง
The Textured Crew Cut ตัดเล่นเท็กซ์เจอร์
เราจะเล่าเท็กซ์เจอร์กับผมด้านบน ส่วนด้านหลังและด้านข้างตัดสั้นในระดับเดียวกัน ให้ช่างใช้กรรไกรตัดเล่นเลเยอร์ ทรงนี้ให้ความร่วมสมัยมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีผมหยิกหรือหยักศก เพราะผมที่เหลือเท็กซ์เจอร์ไว้ด้านบนจะเซ็ททรงโดยอัตโนมัติ โดยที่คุณไม่ต้องใช้แว็กซ์หรือโพเมดจัดแต่งทรงผมเพิ่ม ส่วนคนที่ผมตรง สามารถใช้ผลิตภัณฑ์สเปรย์ Sea Salt เพื่อฉีดให้อยู่ทรงมากขึ้นได้
The Crew Cut Fade เฟดไล่ระดับผม
คนดังที่ตัด Crew cut fade อาทิ Ryan Reynolds, Zac Efron, Tom Hardy, Brad Pitt หรือแม้กระทั่ง David Beckham เองก็เคยทำทรงนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การตัดเฟดในแบบ Crew cut คือไว้ผมด้านบนยาวเล็กน้อย แล้วบอกช่างให้ตัดผมของคุณค่อยๆ เฟดไปในช่วงกลางศีรษะหรือต่ำกว่านั้น โดยน้ำหนักการเฟดส่วนใหญ่อยู่ที่ด้านหลังและด้านข้างโดยยังคงรักษาความยาวส่วนบนไว้เพื่อให้มีความทันสมัย การจัดแต่งทรงผมก็ยังทำได้เช่นเคย โดยใช้โพเมดแต่งจัดทรงผมด้านบน