อวัยวะก็เหมือนเครื่องยนต์ เมื่อใช้งานไปหลายปี ย่อมมีเสื่อมสภาพ ผุพัง แต่ทว่าเราสามารถดูแลรักษายืดอายุการใช้งานให้นานได้ โดยเฉพาะ “ตับ” ถือเป็นอวัยวะชิ้นหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ แต่จะรู้ได้อย่างไร ว่าการใช้ชีวิตของเรานั้นดีหรือไม่ดีต่อตับหรือไม่ มาดู 7 เคล็ดลับกับการรักษาตับให้แข็งแรงกัน
- รักษาระดับน้ำตาลในเลือด ความดันเลือดและสุขภาพหัวใจให้คงภาวะปกติ หมั่นเช็คสุขภาพร่างกายอย่างครบถ้วน โรคเบาหวานที่เกิดจากภาวะตับสามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้อย่างเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มหรืออาศัยฮอร์โมนเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่ฮอร์โมนที่ผลิตได้จะไม่มีประสิทธิภาพในการนำน้ำตาลในเลือดเข้าสู่กระบวน การเผาพลาญพลังงานของร่างกาย
- จำกัดปริมาณเกลือที่บริโภคในขนาดที่พอเหมาะกับร่างกาย หรือพูดง่ายๆ ไม่ทานเค็มเกินไป แม้ว่าโซเดียมอาจจะไม่ได้ส่งผลต่อความดันเลือด แต่ก็มีส่วนทำให้ตับแข็งได้
- ดูให้แน่ใจว่าคุณดื่มน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยรักษาระบบขับสารพิษที่ตับต้องคัดกรองแต่ละวัน ให้ทำงานได้คล่องตัวและรักษาระดับเลือดในร่างกายให้เป็นปกติ
- อย่าพยายามทานยารักษาโรคด้วยตัวเอง เพราะตัวยาทุกชนิดจะต้องผ่านการคัดกรองดูดซับสารพิษที่ตับ ฉะนั้นถ้าทานยาในปริมาณที่มากเกินไป โดยไม่ได้รับการกำหนดปริมาณจากแพทย์ อาจทำให้ตับทำงานหนักและช้าลง
- ออกกำลังกายทุกวัน นักวิจัยเชื่อว่า ความสัมพันธ์ระหว่างความอ้วนและปัญหาระบบตับนั้นเกี่ยวเนื่องกัน การมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป อาจจะส่งผลต่อปัญหาตับในภายหลังได้
- ทานอาหารและดื่มให้ถูกต้อง เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าอาหารชนิดไหนดีหรือไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ไม่ถึงกับต้องงด แค่ลดพวกอาหารขยะ ฟาสต์ฟู้ด หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- อย่าพยายามอั้นปัสสาวะ เพราะตับมีหน้าที่กำจัดของเสีย ของเสียที่ร่างกายเราได้มาจากอาหารหรือสารที่เรารับเข้าไป เช่นยา แอลกอฮอลล์ กาแฟ หรือสารที่เป็นพิษ เมื่อสารพิษผ่านตับ ตับจะทำหน้าที่ทำลายสารพิษนั้น ฉะนั้นการอั้นไม่ขับถ่ายออกไป จะทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อพยายามขับออก
