Travel on Budget : 1 วัน ณ เจริญกรุง เที่ยวได้ทุกมุม แม้เงินมีจำกัด

Travel on Budget
1 วัน ณ เจริญกรุง เที่ยวได้ทุกมุม แม้เงินมีจำกัด

“เสน่ห์ของความเก่าที่คงความเก๋าเหนือกาลเวลา” คือคอนเซ็ปต์ที่เราวางไว้สำหรับทริป ‘Travel on Budget การเที่ยวแบบตีกรอบเงินในกระเป๋า แต่คงความสนุกเหมือนเดิม’ โดยเดือนนี้เราพาไปซอกแซก ณ “เจริญกรุง” ถนนที่อุดมด้วยเสน่ห์ ทั้งจากสถาปัตยกรรม Street Wall และ Hidden Place ที่ซ่อนอยู่ในถนนสายนี้ จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามเราไปกันเลย

…ดูภาพแบบเต็มตา เพียงแค่ “CLICK” ที่ภาพนั้น

…หมุดหมายแรก นัดรวมแก๊งที่ “ไปรษณีย์กลางบางรัก”

หมุดหมายแรกของทริป เรานัดเพื่อนๆ ไว้ที่ ‘ไปรษณีย์กลางบางรัก’ สถานที่ที่เปรียบเสมือนอนุสรณ์ของย่านบางรักและถนนเจริญกรุง ด้วยตัวอาคารที่โออ่าสไตล์ Brutalist โดยได้อิทธิพลจากสถาปนิกชาวอิตาลีและเยอรมัน ทำให้อาคารหลังใหญ่แห่งนี้คงเสน่ห์ของความคลาสสิกที่แฝงความโมเดิร์นเหนือกาลเวลา จึงไม่แปลกหากเราจะให้ไปรษณีย์กลางบางรักแห่งนี้เป็นสถานที่รวมพลของแก๊งเพื่อนร่วมทริป


…เติมพลังก่อนออกทริป ณ “Harmonique” 

• ซอยเจริญกรุง 34
• จันทร์ – เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์) เวลา 11.00 – 22.00 น.

Hidden Place แรกของทริปนี้ เราขอเติมพลังให้อิ่มท้องกันก่อนที่ “ฮาร์โมนิค” (Harmonique) ร้านอาหารไทยที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกแถวเก่าๆ ภายในซอยเจริญกรุง 34 ซึ่งหากมองจากภายนอก ภาพที่เราเห็นจะเป็นร้านอาหารเก่าๆ ภายในบ้านที่เต็มไปด้วยของสะสม แต่ทันที่เดินลึกเข้าไปด้านในจะพบกับเสน่ห์ของสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมเก่า วัฒนธรรม และธรรมชาติอย่างลงตัว

ไฮไลท์ของร้านฮาร์โมนิค คงหนีไม่พ้นต้นไทรต้นใหญ่ที่ขนาบข้างเสมือนซุ้มประตูจากธรรมชาติ โดยมีประติมากรรมเทพเจ้าจีนเคียงข้าง ผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบจีนสีเขียว ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นความลงตัวที่เสริมให้ร้านอาหารแห่งนี้เป็นจุดหมายที่ทุกคนต้องแวะไปเมื่อไปเยือนเจริญกรุง

ส่วนเมนูอาหารของที่นี่เป็นอาหารไทยในรสชาติสำหรับคนต่างชาติ ดังนั้นหลายเมนูจึงไม่จัดจ้านแบบที่เราคุ้นเคย แต่ทดแทนด้วยความหลากหลายที่มีให้เลือกกว่า 50 เมนู โดยเมนูขายดีที่ทางร้านแนะนำให้เราลิ้มลอง เริ่มจาก “ข้าวตัง” (220 บาท) ออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อยที่โดดเด่นด้วยข้าวตังเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาคู่กับผักทอด ไก่ย่างห่อใบเตย ผักสด และหน้าตั้ง ต่อกันด้วย “ฉู่ฉี่กุ้ง” (240 บาท) กุ้งแม่น้ำนำไปเสียบไม้ย่างแล้วราดด้วยเครื่องแกงฉู่ฉี่ ความอร่อยของเมนูนี้อยู่ที่ความสดของกุ้งกับเครื่องแกงที่ตำได้เข้มข้น

ต่อกันด้วย “ปลาหมึกย่างราดกระเทียม” (220 บาท) ปลาหมึกตัวโตที่ย่างแบบทั้งตัวเสิร์ฟแบบร้อนๆ ในจานไม้ ราดด้วยกระเทียมหอมๆ มาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดทานคู่กัน ปิดท้ายด้วย “ต้มยำกุ้ง” (S 95 บาท / L 200 บาท) ที่สั่งมาซดให้คล่องคอกับต้มยำแม้จะไม่เผ็ดจัดจ้าน แต่ให้รสหวานซ่อนเปรี้ยวที่เสิร์ฟมากับกุ้งตัวโต


…ได้เวลาตะลุยรอบเจริญกรุง เก็บภาพสถาปัตยกรรมเก่า

• ซอยเจริญกรุง 40 และซอยเจริญกรุง 36

เสน่ห์อย่างหนึ่งของถนนเจริญกรุงคือสองข้างทางโดดเด่นด้วย ‘อาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปจากสมัยรัชกาลที่ 5’ ที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีต โดยเฉพาะความหลากหลายทางศาสนา ซึ่งบนถนนเจริญกรุงมีทั้งโบสถ์ มัสยิด และศาลเจ้าจีนหลายแห่งอยู่ร่วมกัน

โดยจุดหมายที่เรากำลังมุ่งหน้าไปคือ “ศุลกสถาน” หรือ โรงภาษีร้อยชักสาม แต่ระหว่างทางเราไปซอยเจริญกรุง 36 แนะนำให้แวะไปถ่ายรูปตึกเก่าที่โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก หรือซอยเจริญกรุง 40 โดยภายในซอยนี้สองข้างทางจะเต็มไปตึกแถวเก่าสไตล์ Colonial ซึ่งแม้จะไม่ได้รับการปรับปรุงแต่คงเสน่ห์ไม่เลื่อมคลาย

ส่วนศุลกสถาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกกับความใหญ่โตของตึกสามชั้น เพียงแต่โรงภาษีร้อยชักสามแห่งนี้ถูกทิ้งร้างจนทรุดโทรม รวมทั้งสถานที่แห่งนี้ไม่อนุญาตให้เข้าไปถ่ายภาพด้านใน เราจึงได้เพียงตึกหน้าทางเข้ามาฝากเท่านั้น


…สถานีต่อไป พักเหนื่อย ณ ครีเอทีฟสเปซในชื่อ “Warehouse 30”

• ซอยเจริญกรุง 30
• เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 22.30 น.

หากอิ่มหนำกับการเก็บเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปแล้ว สถานีต่อไปที่อยากให้แวะไปจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ชื่นใจที่ Warehouse 30 ครีเอทีฟสเปซกับความโดดเด่นสไตล์อินดัสเทรียล เพราะสถานที่แห่งนี้รีโนเวทมาจากโรงงานเก่าจริงๆ โดยแบ่งพื้นออกเป็นห้องๆ แต่ยังคงความกว้างและโปร่งตามแบบฉบับโรงงานดั้งเดิม เชื่อมต่อทุกห้องด้วยทางเดินไม้ทอดยาว เติมความเท่ผ่านประตูเหล็กสีสนิม พร้อมใส่เสน่ห์ด้วยงานศิลปะและรถมอเตอร์ไซค์ดีไซน์วินเทจ

ภายใน Warehouse 30 แห่งนี้ภายในประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วนคือคาเฟ่ ซึ่งมีทั้ง Coffee Roaster จากแบรนด์ Li-bra-ry ให้เราแวะจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ไม่ว่าจะเป็น “Iced Americano” (100 บาท) อเมริกาโนเย็นมาเพิ่มความตื่นตัวในยามบ่าย หรือจะลองกาแฟเรียกความสดชื่นอย่าง “Summer Heath” (150 บาท) ที่สดชื่นด้วยรสส้มเข้ากับซ็อตเอสเพรสโซ่อย่างลงตัว แต่หากไม่อยากดื่มกาแฟแนะนำให้ลอง “WTF Chocolate” (180 บาท) ช็อกโกแลตโฟลทรสเข้มข้นหวานมัน

ข้างๆ กันเป็น Thx Fox & The Moon Café ที่เสิร์ฟเบเกอรี่และอาหารให้เราอิ่มท้อง แต่เพราะยังอิ่มจากอาหารไทย เราเลยเลือกทานเบเกอรี่แทน อย่าง “Midnight Brownie” (95 บาท) บราวนี่ดาร์กช็อกโกแลตสุดเข้มข้นจัดใส่จานดูสวยงาม เติมความหวานด้วยซอสคาราเมลและตัดรสด้วยผลไม้แห้งตระกูลเบอร์รี่ หรือจะลองเมนูเบาๆ อย่าง “Soft Baked Cookies” (80 บาท) โดยเราเลือกเป็นคุกกี้ช็อกโกแลตชิพ ก่อนเสิร์ฟทางร้านจะนำไปอุ่นให้หอม พอทางคู่กับอเมริกาโนเข้มๆ จึงกลายเป็นความอร่อยที่ลงตัว

นอกจากคาเฟ่แล้ว ภายใน Warehouse 30 ยังเปิดพื้นที่งานคราฟท์จากดีไซเนอร์ไทยให้เราได้ตามไปช็อป ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าไปจนถึงของตกแต่งบ้านแสนเก๋ ใครที่ชื่นชอบงานคราฟท์เท่ๆ อย่าลืมแวะไปดูกันได้


…เก็บ Street Wall สุดเท่เอาไว้เป็นแกลเลอรี่ส่วนตัว

• ตรอกซอกซอยบนถนนเจริญกรุงยาวสู่ตลาดน้อย

นอกจากสถาปัตยกรรมเก่าแก่แล้ว บนถนนเจริญกรุงยังเต็มไปด้วย Street Wall สุดเท่ที่เราจะเห็นตลอดสองข้างทางที่เดินผ่าน อย่างก่อนเข้า Warehouse 30 ก็มี Street Art ขนาดใหญ่เต็มผนังตึกในโทนสีขาวดำ หรือไม่ไกลจากกัน (ใกล้ๆ สถานทูตโปรตุเกส) ก็มี Street Wall จากศิลปินระดับโลก ‘วิลส์’ (Vhils) ที่แกะกำแพงให้กลายเป็นภาพสุดเท่สามมิติ

หรือระหว่างทางไป “บ้านโซว เฮง ไถ่” ในซอยศาลเจ้าโรงเกือกยังมี Street Art หลากสไตล์ตลอดสองข้างกำแพง แต่ในวันที่เราเดินทางไปเยือนเป็นช่วงการปรับเปลี่ยน ดังนั้น Street Art ที่คุ้นเคยจึงถูกทาทับด้วยสีขาว รอศิลปินมาแต่งแต้มลวดลายใหม่ จึงเหลือ Street Art บางส่วนเอาไว้ให้ชมเท่านั้น


…สถานีปลายทาง “บ้านโซว เฮง ไถ่” คฤหาสน์จีนเก่าแก่ อายุกว่า 200 ปี

• ซอยวานิช 2
• วันอังคาร – พฤหัสบดี เวลา 9.00 – 18.00 น. และศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 21.00 น. (ปิดวันจันทร์)

บ้านโซว เฮง ไถ่ อีกหนึ่ง Hidden Place ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่ไหนในย่านนี้ โดยเฉพาะเสน่ห์จากสถาปัตยกรรมแบบฮกเกี้ยนแต้จิ๋วที่มีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยอาคาร 3 ด้านและ 1 ประตูทางเข้า

บ้านโซว เฮง ไถ่แห่งนี้เป็นคฤหาสน์ของคหบดีเก่ามาก่อน จึงไม่แปลกหากที่นี่จะเป็นสถานที่ส่วนบุคคลที่เปิดรับนักท่องเที่ยวไม่กว้างขวางเหมือนสถานที่อื่นๆ โดยปัจจุบันยังเป็นโรงเรียนสอนดำน้ำ แต่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมชมได้ โดยเปิดคาเฟ่เล็กๆ ให้เราสั่งเครื่องดื่มนั่งจิบพร้อมชมวิวของสถาปัตยกรรมจีน กลายเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่หาได้ยากในกรุงเทพ

ความสนุกของทริปนี้ไม่ใช่เพียงการตาม Check In สถานที่เหล่านี้เท่านั้น แต่ระหว่างทางเรายังได้เสพย์เสน่ห์ผ่านวีถีชีวิตของคนย่านนี้ไปพร้อมๆ กันด้วย จึงไม่แปลกหากทริป “Travel on Budget : 1 วัน ณ เจริญกรุง เที่ยวได้ทุกมุม แม้เงินมีจำกัด” จะมีภาพที่ค่อนข้างเยอะมาให้ชมแบบเต็มอิ่ม

Photographer: Wara Wuttiwan
Videographer: Sroisuwan.T
Writer & Creator: Taliw

keyboard_arrow_up