ความหมายแฝงรอยสักสไตล์ OLD SCHOOL
เดิมทีการสักเริ่มต้นที่กรีก การสักเป็นการทำสัญลักษณ์เฉพาะใบหน้าของทาส และ อาชญากร ต่อมาการสักเริ่มแพร่หลายในทวีปยุโรป จนประมาณ ค.ศ. 787 การสักบนใบหน้าถือเป็นการลบหลู่ต่อพระผู้เป็นเจ้า
ในประเทศไทย การสัก หรือ สักเลขนั้นเป็นการทำเครื่องหมายที่ข้อมือ เพื่อแสดงการขึ้นทะเบียนเป็นไพร่หลวงที่มีสังกัดกรมกอง แต่ถูกยกเลิกไปในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 ส่วนที่หน้าผาก หรือการสักท้องแขนใช้กับผู้ต้องโทษจำคุก แต่ยกเลิกในปี พ.ศ. 2475 รวมทั้งการสักยันต์เป็นเหมือนเครื่องรางของขลังตามความเชื่อ
หากจะพูดถึงในญี่ปุ่น รอยสักมักแสดงออกถึงพวกที่เป็นยากูซ่า และถูกห้ามลงบ่อออนเซนในบางพื้นที่ ในญี่ปุ่น การสักเรียกว่า Irezumi ซึ่งมีความหมายว่าการเติมหมึก คาดว่าเริ่มปรากฏในประมาณศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 8 การสักจะประทับตาคนกลุ่มต่างๆ เพื่อแบ่งแยกเช่น เพชฌฆาต สัปเหร่อ อาชญากร จนกระทั่งเริ่มมีการสักแบบ Horibari ที่มักจะสักลวดลายต่างๆทั่วร่างกาย และเริ่มแพร่หลายในปี ค.ศ. 1750 โดยนิยมมากในหมู่ Eta ซึ่งเป็นกลุ่มคนฐานะชั้นต่ำที่สุด ลวดลายต่างๆมักเป็นจิตรกรรมที่มีชื่อเสียง ตลอดจนเทพเจ้า ตามความเชื่อทางศาสนา และนิทานพื้นบ้าน
จนมาถึงปัจจุบัน แม้ภาพของคนมีรอยสักจะยังเป็นภาพลบอยู่ แต่ก็ยังมีผู้ที่นิยมอยู่มาก บ้างก็สักเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ บ้างก็สักไว้เพราะชื่นชอบในความสวยงามของศิลปะ แต่สไตล์หนึ่ง ที่ยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน คือสไตล์ “Old School” สีและลายเส้นอันมีเอกลักษณ์ จากจุดเริ่มต้นในศตวรรษที่ 18 กัปตัน เจมส์ คุก นักเดินเรือและนักสำรวจชาวอังกฤษ กลับมาพร้อมกับรอยสักที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของเขา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมจีน ญี่ปุ่น และหมู่เกาะทั่วแปซิฟิก ถือเป็นจุดกำเนิดลวดลาย Old School
แต่ที่เรารู้จักกันดีคงจะเป็นช่างสักตัวพ่อลาย Old School อย่าง Norman Collins ซึ่งมีฉายาว่า Sailor Jerry เขาออกเดินทางตั้งแต่วัยรุ่นไปทั่วอเมริกา และในที่สุดก็สมัครเป็นทหารเรือ จุดนี้เองกลายเป็นการเริ่มต้นให้ Norman Collins กลายเป็นช่างสักผู้บุกเบิก American Tradition Tattoo งานของเขามีเอกลักษณ์ลายเส้นในรูปแบบที่เรียกว่า Old School และมีความหมายแฝงในแนวคิดจากการสื่อภาพผ่านลวดลายต่างๆ อาทิ
ANCHORS สมอเรือ
ในการเดินเรือ สมอเรือถือเป็นอาวุธที่ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับนักเดินเรือ เปรียบเสมือนตัวแทนของความมั่นคง หากขาดสมอเรือในการเดินเรือ ก็จะขาดที่ยึดเรือเอาไว้ นี่เป็นเหตุผลว่าบ่อยครั้งที่เราเห็นรอยสักคำว่าแม่ หรือชื่อคนรักของนักเดินเรือ ลายสมอเรือยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ด้วยความที่ความหมายก็ยังคงเดิม ซึ่งหมายถึงเตือนพวกเขาถึงความมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง
SWALLOWS นกนางแอ่น
การเดินทางของนักเดินเรือแต่ละครั้ง ต้องแล่นเรือจากบ้านไปไกลถึงกว่า 5,000 ไมล์ ลายนกนางแอ่นแสดงให้เห็นถึง การหวนคืนรัง โดยมีรากฐานมาจากความคิดสองข้อ ข้อแรกคือนกนางแอ่นขึ้นชื่อเรื่องการอพยพย้ายถิ่นฐาน แต่ถึงอย่างไรก็จะยังหวนกลับถิ่นที่อยู่เดิมเสมอ อีกแนวคิดก็คือ หากกลาสีเรือเกิดเสียชีวิตในทะเล นกนางแอ่นจะเป็นผู้นำวิญญาณของพวกเขาไปสู่สรวงสวรรค์
SHARKS ฉลาม
ฉลามเปรียบได้กับสัญลักษณ์ของความดุร้ายและความมุ่งมั่นตามแนวคิดของ Sailor Jerry แตกต่างจากสัตว์ตัวอื่นๆ อย่าง เสือเพนเธอร์ งูและสัตว์อื่น ๆ ปลาฉลามแสดงออกถึงความกล้าหาญและยังแสดงออกถึงกองทัพทหารที่มีความอดทน และความมุ่งมั่นในการเอาชนะ
DRAGONS มังกร
ลายมังกรที่ได้แนวคิดมาจากงานสักแบบญี่ปุ่น และ Sailor Jerry ยังถือเป็นช่างสักชาวตะวันตกคนแรกที่เริ่มต้นการสักแนวนี้ โดยมังกรของเขามีลักษณะบ่งบอกถึงความเป็นเอเชียอย่างชัดเจน มังกรคือตัวแทนของความพิเศษ คล้ายกับวิญญาณมากกว่าสิ่งมีชีวิต ที่สำคัญมังกรยังถือเป็นสัตว์ในตำนาน และตัวแทนของอดีตอันรุ่งโรจน์
HEARTS หัวใจ
ความหมายของลายหัวใจ คล้ายๆ กับลายสมอเรือตรงที่เป็นตัวแทนของคนรักและความคิดถึง ทุกครั้งที่ กะลาสีเรือจ้องมองไปในทะเลอันเวิ้งว้าง มีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกเขาอาจจะไม่ได้กลับบ้านอีกครั้ง พวกเขาจึงอยากให้หัวใจของคนรักได้ใกล้ชิดอยู่กับตัวเอง พร้อมสลักชื่อพ่อ แม่ คนรักลงไปในนั้น เพื่อจะได้ระลึกถึงว่าอยู่ใกล้กันเสมอ
