6 สิ่งผิดๆ ของการใส่ ‘เสื้อเชิ้ตผู้ชาย’ เผลอทำเมื่อไร ลดทอนความสมาร์ททันที
การกระทำเล็กๆ ของการแต่งตัวผู้ชาย โดยเฉพาะการใส่ เสื้อเชิ้ตผู้ชาย อาจเป็นการกระทำที่ไปลดทอนความสมาร์ทของคุณได้ ไม่ว่าคุณจะหน้าตาดีแค่ไหน ถ้าเผลอทำ 6 สิ่งเหล่านี้ อาจโดนสาวเมิน ดังนั้นมาเปลี่ยนการแต่งตัวผู้ชาย ในยุค 2019 ให้ถูกต้องกัน!
สำรวจตัวเองดูว่า เผลอทำสิ่งเหล่านี้หรือไม่ อาทิ ดึงเสื้อเชิ้ตในกางเกงออกเล็กน้อย, พับแขนเสื้อแบบดึงง่ายๆ, ไม่ใส่ถุงเท้า ฯลฯ การกระทำเล็กๆ ของการแต่งตัวผู้ชาย โดยเฉพาะการใส่เสื้อเชิ้ตชาย อาจเป็นการกระทำที่ไปลดทอนความสมาร์ทของคุณได้ ไม่ว่าคุณจะหน้าตาดีแค่ไหน ถ้าเผลอทำ 6 สิ่งเหล่านี้ อาจโดนสาวเมิน ดังนั้นมาเปลี่ยนการแต่งตัวผู้ชาย 2019 ให้ถูกต้องกัน!
01. การใส่เสื้อเชิ้ตในกางเกงแบบ “ผิดวิธี”
การสวมเสื้อเชิ้ตผู้ชายในกางเกงเป็นเรื่องปกติที่ควรกระทำอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่มักพบคือ “วิธีการยัดเสื้อเชิ้ตในกางเกง” ซึ่งผู้ชายหลายคนมักทำผิด
โดยปกติการสวมเสื้อเชิ้ตไว้ในกางเกงคือ ยัดเสื้อเชิ้ตลงในกางเกง ดึงให้ตึง แล้วค่อยดึงเสื้อเชิ้ตออกมาเล็กน้อยอีกที วิธีนี้ใครๆ ก็ทำกัน แต่ทันทีที่คุณดึงเสื้อเชิ้ตออกจากางเกงเล็กน้อย จะทำให้ช่วงเอวของคุณดูหนาขึ้น ซึ่งจะไปลดทอนความสมาร์ทและบดบังหุ่นฟิตๆ ของคุณไป
วิธีการที่ถูกต้องคือ ระหว่างการยัดปลายเสื้อเชิ้ตลงในกางเกง ให้จับส่วนเกินของเสื้อเชิ้ตพับตะเข็บด้านข้างให้เข้ารูป ไหลังจากติดตะขอเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตของคุณจะเรียบตึงเข้ากับรูปร่างสมาร์ทของคุณ แน่นอนว่า ‘ห้ามดึง’ เสื้อเชิ้ตออกมาเล็กน้อยอย่างที่ทำเป็นประจำ
02. การพับแขนเสื้อเชิ้ต ต้องปราณีตมากกว่าเดิม
สำหรับหนุ่มออฟฟิศ หลังจากเลิกงานก็อยากทำตัวสบายๆ อย่างการพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น แต่หลายคนเพียงแค่ ปลดกระดุม แล้วดึงแขนเสื้อขึ้น หรือพับแบบลวกๆ แม้จะรวดเร็ว ดูสบายๆ แต่การกระทำนี้จะทำให้คุณดูเป็นคนชุ่ยๆ ที่สำคัญทำให้แขนเสื้อยับจนน่าเกียจในสายตาสาวๆ
วิธีการพับแขนเสื้อเชิ้ตผู้ชายที่ถูกต้องและทำให้ดูโปรคือ การดึงแขนเสื้อให้พับถึงข้อศอก หลังจากนั้นก็พับอีกครั้งหนึ่ง เพียงแค่นี้คุณก็อยู่ในลุคสบายๆ ที่คงความสมาร์ทไว้ได้
03. ต้องรู้ว่า เสื้อเชิ้ตแบบไหน ควรใส่ไว้ในกางเกง แบบไหนควรปล่อยชาย
ไม่ใส่ว่า อยากใส่เสื้อไว้ในกางเกงก็ใส่ อยากปล่อยชายก็ปล่อย แต่เสื้อเชิ้ตยังมีการแบ่งประเภทด้วยเช่นกัน โดยเสื้อเชิ้ตที่มีชายเสื้อยาวกว่าข้อมือ (ปลายแขนเสื้อ) เป็นเสื้อเชิ้ตที่ออกแบบให้สามารถใส่ไว้ในกางเกง
ในทางตรงข้าม หากปลายเสื้อเชิ้ตมีความยาวสั้นกว่าหรือเท่ากับข้อมือ (ปลายแขนเสื้อ) เสื้อเชิ้ตลักษณะนี้ต้องปล่อยชายสบายๆ เท่านั้น เพราะจะสั้นเกินไปที่จะใส่ในกางเกงนั่นเอง
04. ปกเสื้อเชิ้ตควรแบะออก หรือตั้งขึ้น
สำหรับปกเสื้อเชิ้ต เป็นอีกหนึ่งการแต่งตัวผู้ชายที่มักหลงลืม โดยเสื้อเชิ้ตผู้ชายมักมีปกเสื้อเป็นมาตรฐาน หากในวันธรรมดาที่เพียงแค่ใส่เสื้อเชิ้ตคู่กับกางเกงขายาวสักตัว สามารถปล่อยปกเสื้อเชิ้ตผู้ชายให้แบะออกได้สบาย
แต่เมื่อไรที่ต้องสวมเสื้อเชิ้ตคู่กับสูท แต่ไม่ผูกเนคไท แนะนำว่าปกเสื้อเชิ้ตต้องตั้งขึ้นและอยู่ข้างในสูท จะช่วยเสริมให้คุณดูสมาร์ทและเป็นมืออาชีพขึ้น หากคุณไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรปกเสื้อเชิ้ตจึงจะตั้งขึ้นได้ แนะนำให้ใช้แถบแม่เหล็กติดปกเสื้อมาช่วย
05. ใส่ถุงเท้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าอะไร
การใส่รองเท้าหนังสไตล์ Loafer คู่กับเสื้อเชิ้ตผู้ชายและกางเกงสแล็คไม่ใช่สิ่งผิด แถมยังช่วยให้คุณดูดีในอีกลุค ไม่เป็นทางการจนรู้สึกเกร็ง แต่ยังคงลุคสบายๆ แต่ดูดีเอาไว้
แต่ทั้งนี้ Loafer เป็นรองเท้าที่โชว์ข้อเท้า ยิ่งใส่คู่กับกางเกงสแล็คขาเต๋อดูแฟชั่นนิดๆ ยิ่งต้องเปลือยข้อเท้า เพื่อจะได้ดูดี ด้วยเหตุนี้ผู้ชายหลายคนจึงเลือกไม่สวมถุงเท้า แต่นั่นคือการกระทำที่ไม่ควร เพราะไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแบบไหน สไตล์ใด ต้องสวมถุงเท้าทุกครั้ง แม้จะเป็นรองเท้าสไตล์ Loafer ก็ควรสวมถุงเท้าแบบต่ำได้
การไม่สวมถุงเท้าจะทำให้เท้าเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ขณะที่รองเท้าเองก็จะติดกลิ่นเท้าไปด้วย ทันทีที่ต้องเข้าไปในสถานทีที่ต้องถอดรองเท้า อาจทำให้คุณเสียความมั่นใจได้ เพราะคุณคงไม่อยากเป็นคนเท้าเหม็นจนเป็นที่รังเกียจของสาวๆ
06. เครื่องประดับห้ามขาด โดยเฉพาะ ‘นาฬิกาข้อมือ’ ต้องมี
แม้ว่าคุณจะไม่ชอบสวมใส่เครื่องประดับ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องมาติดตัวเสมอ ไม่ว่าคุณจะสวมเสื้อเชิ้ตในโอกาสใดก็ตาม นั่นคือ นาฬิกาข้อมือ เพราะว่านาฬิกาข้อมือ เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มสไตล์ แถมยังเป็นเครื่องประดับที่สามารถใส่ได้ตลอดเวลา ดังนั้นควรมองหานาฬิกาดีๆ สักเรือนมาสวมคู่กับเสื้อเชิ้ต ก็เพิ่มความสมาร์ทและทำให้คุณดูเป็นชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมได้แล้ว
แต่งตัวเท่ๆ ดูทีละ Step เลือกเสื้อเชิ้ตให้เหมาะกับใบหน้าและรูปร่าง
มันมีเรื่องราว ทำไมเราต้องมี “เสื้อเชิ้ตขาวผู้ชาย” เป็นชิ้นเบสิกที่มีติดตู้เสื้อผ้า