คาเฟ่ที่มีพร้อมกลิ่นอายคลาสสิกจากเฟอร์นิเจอร์เก่าสะสม เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่เราหลงรักทุกครั้งเมื่อไปเยือน และเราเชื่อว่าเหล่า Café Hopping ต้องหลงรักคาเฟ่สไตล์นี้เช่นกัน วันนี้เราจึงรวม 4 คาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์ ทั้งบรรยากาศและเมนูอาหารมาเสิร์ฟให้คุณได้แวะไปนั่งเสพย์ความคลาสสิกกัน
คาเฟ่น้องใหม่บนถนนหลานหลวงที่นำความชอบจากการเดินทาง ซึ่งคุณตูน – กัญจน์ สุวรรณธาดา เจ้าของร้านนำมารวมกันจนได้คาเฟ่บรรยากาศเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเมื่อคุณตูนบอกกับเราว่า “คอนเซ็ปต์ไม่มีอะไร นอกจากเป็นสิ่งที่เราชอบมารวมกัน คือตอบไม่ได้ว่าเป็นสไตล์ไหน” โดยคุณตูนเลือกรีโนเวทบ้านเก่าพร้อมลงมือเขียนแบบด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้คาเฟ่ที่ตรงใจมากที่สุด
ขณะที่เมนูของร้านเน้นกาแฟเป็นเครื่องดื่มหลัก พร้อมด้วยเบเกอรี่โฮมเมดเป็นของว่างทานคู่กัน เพิ่มความพิเศษด้วยการนำเสนอที่ได้ไอเดียจากการเดินทางมาประยุกต์ใช้ จนกลายเป็นกิมมิกเล็กๆ แต่ชวนประทับใจ อย่าง “Americano” ที่เสิร์ฟแยกช็อตเอสเพรสโซ่กับน้ำร้อนมาให้ ซึ่งเป็นการเสิร์ฟแบบอิตาเลี่ยน
แต่หากคุณหิว ที่นี่ก็มีเมนูอาหารจานหลักมาเสิร์ฟให้รองท้อง เป็น “Roasted Chicken with Herbed Organic Rice” เมนูข้าวสูตรพิเศษ โดยเฉพาะไก่ย่างสไตล์อาฟริกัน เสิร์ฟพร้อมข้าวออร์แกนิกจากสุรินทร์ที่ทางร้านหุงด้วยใบพาร์สลี่ย์ เพิ่มความอร่อยให้ครบรสด้วยกล้วยอบเนย และซอสพริกกะเหรี่ยงทำเอง
…อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ Alex & Beth Bangkok (click)
คาเฟ่เพื่อนบ้านกับ Alex & Beth Bangkok ซึ่งคุณตูนเป็นเพื่อนกับคุณเด่น เจ้าของร้าน Eden’s นั่นเอง คุณเด่นตั้งใจให้ที่นี่เป็น Bake Shop ที่เน้นเสิร์ฟความอร่อยของเบเกอรี่โฮมเมดควบคู่กับกาแฟรสเข้ม และแน่นอนว่าร้านนี้โดดเด่นด้วยของเก่า ซึ่งคุณเด่นตกแต่งและออกแบบด้วยตัวเอง
“ร้านนี้พี่ออกแบบเอง คือมาจากความชอบของพี่ พี่ชอบของเก่า พี่ชอบมู้ดแบบนี้ บ้านพี่ก็คล้ายๆ แบบนี้ พี่อยากทำให้มันเหมือนอยู่บ้าน พี่ไม่ได้คิดว่าทำเพื่อให้คนมาถ่ายรูป แต่พี่คิดว่าพี่อยากอยู่ในที่แบบนี้ พี่ก็ทำแบบนี้ มันเป็นธรรมชาติของเรา พี่ไม่รู้จะเรียกว่าสไตล์อะไร มันมีความเป็นของเก่า แต่มันไม่ใช่เรโทร ไม่ใช่ย้อนยุค เพราะโจทย์แรกของพี่ พี่อยากทำตึกเก่า เพราะพี่ชอบ พี่อยากให้มันมีบรรยากาศเก่า แต่ไม่ได้แบบว่าเป็นวันวานอะไรแบบนี้ แต่แค่รู้สึกว่าพี่ชอบของเก่า มันมีกาลเวลา มันมีร่องรอย”
นอกจากเบเกอรี่โฮมเมดที่คุณเด่นอบสดใหม่มาให้ลิ้มลองแบบวันต่อวันแล้ว Eden’s ยังเสิร์ฟเมนู English Breakfast และเมนู Toast เป็นอีกหนึ่งทางเลือก อาทิ Sunny Toastie ความอร่อยจาก Prosciutto ชิ้นโต ไข่ดาวที่ทอดสุดกำลังดี เติมความอร่อยด้วย Parmesan Cheese หรือจะลิ้มลอง Smoked Salmon Toast เนื้อปลาแซลมอนที่เสิร์ฟพร้อมไข่ปลาแซลมอน เติมความอร่อยด้วยครีมชีส
…อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ Eden’s (click)
คาเฟ่ที่มีจุดกำเนิดจากร้านจักรยาน ซึ่งคำว่า Cylub มาจากคำว่า Cycling + Club โดยภายในคาเฟ่นอกจากจะมีโซนนั่งเล่นแล้ว ยังมีร้านจักรยานจัดวางไว้ให้เหล่านักปั้นได้ชื่นชม ส่วนคอนเซ็ปต์การตกแต่ง คุณจิ๋วบอกกับเราว่า
“จริงๆ มันเป็นสไตล์รวมๆ ความชอบรวมๆ ของเรามากกว่า ถ้ากำหนดเจาะจงมันลงไปเลย มันก็จะยากนิดนึง แต่คือให้เข้าใจว่ามันคือตัวของเรา คือตัวของเราถ่ายทอดออกมาทุกอณูของร้านเลย เราเป็นคนลงมือทำเอง เราขัดกระเบื้องเอง เราทาสีปูนเอง เราสร้างมันเหมือนมันเป็นงานประติมากรรมชิ้นหนึ่ง เป็นสไตล์ของ Cylub จริงๆ ของทุกชิ้นไม่มีชิ้นไหนแบบว่าสำเร็จรูปมา มันจะต้องถูกผ่านมือเราแล้ว ผ่านความคิดของเราแล้ว เกือบทั้งหมดเป็นของเก่าที่เราเอามาจัดวาง ทำสี หรือว่าบิดมัน มันมีอยู่แค่ไม่กี่อย่างที่เป็นของใหม่ สั่งผลิตขึ้นมา เพื่อให้มันตรงกับฟังก์ชั่นการใช้งาน”
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของคาเฟ่แห่งนี้คือ เมนูเครื่องดื่มและขนมรสชาติแปลกใหม่ที่เจ้าของร้านครีเอทขึ้นเอง อาทิ Coco เครื่องดื่มที่มีน้ำมะพร้าวเป็นวัตถุดิบหลัก โดยเสิร์ฟพร้อมกับรสแฝงในรูปแบบช็อต ซึ่งให้เราเลือกถึง 4 รสชาติคือ ช็อตกาแฟ, มันม่วง, ชาเขียว และชาร์โคล
แต่ใครชอบกินไอศกรีมต้องไม่พลาดกับแบรนด์ Summer Salt ไอศกรีมโฮมเมดที่นำเสนอรสชาติแปลกใหม่แบบไม่ซ้ำใคร เช่น Lavender Field ที่นำเมล็ดลาเวนเดอร์มาผสานรสชาติเข้ากับคาราเมลเกลือ ทั้งหอมหวาน แฝงรสเค็มเล็กน้อยอย่างลงตัว , Truffle Shuffle ความลงตัวของเห็ดทรัฟเฟิลกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์, Pink & Plum ที่นำฝรั่งขี้นกมารวมรสกับบ๊วย เป็นต้น
…อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ CYLUB X FTW (click)
‘ฮาเตียน’ คาเฟ่ที่นำเสนอความเป็นท่าเตียนผ่านเรื่องเล่าในตำนาน โดยชื่อคาเฟ่มาจากชื่อเมืองในประเทศเวียดนาม เมื่อชาวเวียดนามย้ายมาอยู่ไทย พวกเขาจึงเรียกย่านนี้ว่าฮาเตียน ก่อนที่คำนี้จะเพี้ยนเป็นท่าเตียนในปัจจุบัน จุดเด่นสำคัญของที่นี่คือการนำเสนอเสน่ห์จากของเก่าที่คุณเบิร์ด – เอกภพ โกมลชาติ สะสมมากว่า 10 ปี โดยตั้งใจให้คาเฟ่แห่งนี้เป็น Antique Café
แต่ละชั้นของคาเฟ่แห่งนี้จะมีบรรยากาศแตกต่างกัน อย่างชั้นหนึ่งที่เลือกตกแต่งในสไตล์ชิโนโปรตุกีส ส่วนชั้นสองให้อารมณ์แบบบ้านเก่า แต่เพิ่มความเก๋ด้วยสีเขียวเข้มคู่กับเฟอร์นิเจอร์สไตล์รัสติกลอฟท์ ขณะที่ชั้นสามตกแต่งกึ่งกลาสเฮ้าส์ที่เน้นบรรยากาศชิวๆ พร้อมทั้งแบ่งพื้นที่ครึ่งหนึ่งให้เป็นมุมสวน
เมนูของที่นี่เน้นกาแฟฟิวชั่นที่นำมาเมล็ดกาแฟจากโบโลเวนมาผสมผสานรสชาติกับดอกไม้และผลไม้ เสิร์ฟคู่กับเค้กโฮมเมดสไตล์เดียวกัน อาทิ Ma-Toom Coffee กาแฟที่เติมรสเด่นด้วยการนำมะตูมไปเคี่ยวเป็นไซรัปรสเข้มข้น เมื่อนำมาชงคู่กับเมล็ดกาแฟจึงได้กาแฟรสมะตูมที่มีเอกลักษณ์ หรือจะลิ้มลอง Macadamia Cake เค้กสไตล์บัตเตอร์ที่มีความแน่น แต่ชุ่มฉ่ำ ตกแต่งด้วยแมคคาเดเมีย ราดด้วยซอสคาราเมลสูตรพิเศษที่ให้รสเค็มเล็กๆ เพื่อตัดรสชาติของเค้กให้ลงตัว
…อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ Ha Tien Café (click)