ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในหนังสุดปังของครึ่งปีหลังที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านคำวิจารณ์และรายรับมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Joker เวอร์ชั่น 2019 หนังวายร้ายดาวเด่นของ DC ที่ได้ Todd Phillips มากำกับหลังจากเคยฝากฝีมือไว้กับหนังตลกร้ายเสียดสีสังคมอย่าง The Hangover ทั้ง 3 ภาค
การกลับมาของ Joker (โจ๊กเกอร์) ในเวอร์ชั่นนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งที่จะนำเอาหนึ่งในตัวละครสุดโด่งดังแห่งจักรวาล DC มาตีความเป็นหนังยาวหนึ่งเรื่องบอกเล่าจุดเริ่มต้นของตัวละครอย่าง “อาเธอร์ เฟลค” ที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายทารุณจากสังคมรอบข้างจนหล่อหลอมให้เขากลายเป็นหนึ่งในวายร้ายตลอดกาลอย่าง “โจ๊กเกอร์”
และหนึ่งสิ่งที่หนีไม่พ้นก็มักจะเป็นอาถรรพ์ของตัวละครนี้ที่พักหลังๆ มักทำให้นักแสดงที่ต้องมารับบทบาทเป็น โจ๊กเกอร์ต้องสติแตกไปแทบทุกราย ซึ่งเวอร์ชั่น 2019 นี้เองก็ได้ “วาคีน ฟินิกซ์” นักแสดงผู้มากความสามารถที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจาก “Her” มาถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าหดหู่ใจของ อาเธอร์ เฟลค
ด้วยทุนสร้างเพียงแค่ 62.5 ล้านเหรียญฯกับเนื้อหาที่มีความรุนแรงสำหรับผู้ใหญ่ จึงทำให้ Joker ถูกจำกัดเรทการฉายในระดับเรท R เฉกเช่นเดียวกันกับหนังดังหลายๆ เรื่องที่มีฉากรุนแรง โป๊เปลือย หรือเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เช่น Deadpool, The Godfather และ The Exorcist เป็นต้น แต่กระแสตอบรับจากนักวิจารณ์รวมไปถึงคนดูกลับทำได้ดีจน ณ ตอนนี้ (18/11/19) Joker (2019) กลายเป็นหนังเรท R เรื่องแรกที่ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านเหรียญฯ ไปเป็นที่เรียบร้อย (หากนับตามอัตราเงินเฟ้อจะเป็นหนังเรท R เรื่องที่ 3 ต่อจาก The Exorcist และ The Godfather ที่ทำรายได้เกิน 1,000 ล้านเหรียญฯ)
ซึ่งเมื่อนำรายได้มาหักลบกับทุนสร้างอันน้อยนิดด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ Joker (2019) กลายเป็นหนึ่งในหนังดังของปีนี้และเป็นหนังดังที่ดัดแปลงมาจากตัวละคร Comics ที่ทำกำไรได้สูงสุดตลอดกาลอีกด้วย (Venom ทุนสร้าง 90 ล้านเหรียญฯ รายได้ 854 ล้านเหรียญฯ / Deadpool ทุนสร้าง 58 ล้านเหรียญฯ รายได้ 783 ล้านเหรียญฯ)