ยอมรับว่าปีนี้เป็นอีกปีที่มีหนังดีๆ เข้าฉายหลายต่อหลายเรื่อง ดังนั้นพอจบปี เราก็อดไม่ได้ที่อยากจะรู้ว่า หนังทำเงินสูงสุดในปี 2018 มีเรื่องไหนบ้าง แต่ละเรื่องกวาดเงินจากกระเป๋าผู้ชมไปเท่าไร อย่ารอช้าตามไปดูกันเลย
:: กวาดรายได้ไป 596.2 ล้านเหรียญ
หนังภาคต่อ ผลงานของนักเขียนชื่อก้องโลกอย่างเจ.เค. โรว์ลิ่ง ซึ่งภาคแรก Fantastic Beasts and Where to Find Them กวาดรายได้ไป 814 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าภาค 2 อย่างเห็นได้ชัด
ภาคนี้จึงเป็นการเดินทางครั้งที่ 2 ของหนุ่มน้อยมากความสามารถผู้หลงใหลในสัตว์วิเศษ ‘นิวท์ สคามันเดอร์’ ซึ่งคราวนี้เขาไม่ได้มาแนะนำสัวต์เวทที่น่าตื่นตาเหมือนภาคแรก แต่เป็นเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้นของการปะทะของ 2 ฝ่ายตรงข้าม โดยมี นักเวทผู้ยิ่งใหญ่ ‘เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์’ ขณะเดียวกันก็ต้องไขปริศนาว่า ‘ครีเดนซ์ แบร์โบน’ ผู้มีพลังมืดแฝงอยู่ในตัว แท้จริงแล้วคือใครกันแน่
:: กวาดรายได้ไป 622.7 ล้านเหรียญ
หนังแนวซุปเปอร์ฮีดร่จากค่าย Marvel Studios เป็นหนังภาคต่อจากเรื่อง Ant-Man ที่เข้าฉายเมื่อปี 2015 โดยเนื้อเรื่องของภาคนี้เรียกได้ว่าเป็นควันหลงจากเรื่อง Captain America: Civil War คงไม่ผิดนัก เมื่อ ‘สก็อตต์ แลงก์’ ต้องรับผิดชอบในฐานะแอนท์-แมน เข้าร่วมกับ ‘โฮป แวน ไดน์’ และ ‘ดร. แฮงค์ พิม’ ในภารกิจใหม่สุดเร่งด่วน แถมยังต้องเรียนรู้ที่จะต่อสู้เป็นทีม เพื่อค้นหาคำตอบที่เป็นปริศนาจากเรื่องราวในอดีต
:: กวาดรายได้ไป 636.6 ล้านเหรียญ
หนังชีวประวัติที่เล่าเรื่องได้อย่างสนุก โดยบอกเล่าเรื่องราวของ ‘เฟร็ดดี้ เมอร์คูรี่’ นักร้อง นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ รวมทั้งหัวหน้านำวง Queen วงร็อคในตำนาน ที่ไม่เพียงแต่หน้าตาที่ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนเพลงในยุคนั้น แต่พลังเสียงและตัวตนที่มีเอกลกัษณ์ของเขา ทำให้เขากลายยังเป็นอีกหนึ่งบุคคลน่าจดจำในวงการเพลง แถมยังถูกโหวตให้เป็นนักร้องที่ยอดเยี่ยมในประวัติศาสตร์เพลง ในปีค.ศ. 2005 แม้ว่าเขาจะจากไปในปี 1991 แล้วก็ตาม แต่ผลงานเพลงของเขาก็ยังคงเป็นที่ประจักษ์และน่าชื่นชมมาจนปัจจุบัน
:: กวาดรายได้ไป 734.2 ล้านเหรียญ
อีกหนึ่งหนังภาคต่อที่ได้รับเสียงตอบรับมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ภาคแรกที่ออกฉายในปี 2016 พร้อมกวาดรายได้ไป 783.1 ล้านเหรียญ (มากกว่าภาค 2)
สำหรับภาคนี้ยังคงเอกลักษณ์ของฮีโร่ที่ความเกรียนได้เสมอต้นเสมอปลาย แถมภาคนี้จะเกรียนยิ่งขึ้นเมื่อมีสมาชิกแก๊งฮีโร่ตัวอื่นๆ มาช่วยสนับสนุน แน่นอนว่าเนื้อเรื่องของหนังยังคงเป็นแนว 18+ ที่แม้จะไม่ได้ฮีโรติกอะไร แต่เลือดสาดกระจาย พร้อมคำพูดไม่เพราะเช่นเดิม …อยากรู้ว่าภาคนี้สนุกยังไง เราเคยเขียนบอกไว้ ตามไปอ่านได้ที่
>>> ความเกรียนนี้มีแค่ Deadpool เท่านั้นที่ทำได้ รวมมุขเกรียนที่คุณจะได้พบใน Deadpool 2 click!!
>>> เบื้องหลังความเกรียนของ Deadpool ฉบับ Top Secret ชวนรู้ก่อนไปดูภาค 2 click!!
:: กวาดรายได้ไป 791 ล้านเหรียญ
22 ปีนับจากปี 1996 จนถึง 2018 ที่ผู้ชมได้รู้จักสายลับ ‘อีธาน ฮันท์’ โดยเรื่องราวดำเนินมายาวนานถึง 6 ภาคด้วยกัน และยังเป็นซีรี่ส์นี้ทำรายได้ยอดเยี่ยมมาทุกภาค โดย 5 ภาคที่ผ่านมากวาดรายได้ไปถึง 2,700 ล้านเหรียญ ส่วนภาคนี้สามารถกวาดรายได้ไป 791 ล้านเหรียญจนขึ้นแท่นหนังทำเงินอันดับที่ 6 ที่สำคัญภาคนี้ยังคงได้นักแสดงทีมเดิมมาร่วมแสดง ทำให้แม้จะห่างหายจากภาคแรกๆ ไปหลายปี แต่ก็ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องเดิมที่คงความสนุกไม่เปลี่ยน
ภาคนี้ยังคงความสนุกเช่นเดิม ผ่านการไล่ล่าของฝ่ายร้ายและฝ่ายดีที่เรียกได้ว่าล่าข้ามโลกกันเลยทีเดียว เมื่อปฏิบัติการที่วางแผนมาดิบดี เกิดผิดพลาดขึ้น ทำให้สายลับที่เราคุ้นเคย อีธาน ฮันท์ ต้องไล่ล่ากันข้ามโลก เพื่อทำให้ภารกิจสำเร็จให้ได้ โดยเบื้องหลังสถาการณ์ที่เลวร้ายคือ The Syndicate นั่นเอง
:: กวาดรายได้ไป 852.9 ล้านเหรียญ
อยากจะเรียกว่าเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ก็ไม่สามารถเรียกได้เต็มปาก ไม่ว่าจะหน้าตาหรือวิธีการที่ได้มาซึ่งพลังเหนือธรรมชาติ แต่ด้วยเนื้อเรื่องที่ยังคงพิทักความถูกต้อง ทำให้หลายคนเรียกหนังเรื่องนี้ว่า ‘ซุปเปอร์ฮีโร่ด้านมืด’ คงคล้ายๆ เดดพลูที่เราไม่อาจเรียกเขาว่าซุปเปอร์ฮีโร่ได้เต็มปากนั่นเอง
โดยแต่เดิม ‘เวน่อม’ เป็นตัวละครในจักรวาล ‘สไปเดอร์แมน’ แต่เพราะความอีรุงตุงหนังของลิขสิทธิ์และค่ายหนัง ทำให้ Sony Pictures ต้องการมีเขียนเรื่องราวของเวน่อมขึ้นใหม่ จนเกิดเป็นหนังเรื่องนี้นี่เอง
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของนักข่าวหนุ่ม ‘เอ็ดดี้ บร็อค’ ที่หมกมุ่นกับการเผยเรื่องร้ายๆ ของนักวิทยาศาสตร์ชื่อฉาว ขณะเดียวกันก็มีปรสิตหรือเอเลียนชื่อ เวน่อม มาสิงร่าง จนเกิดเป็นพลังวิเศษ ด้วยความต้องการเอาชนะ ผนวกกับต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน ทั้งปรสิตเวน่อมและเอ็ดดี้ บร็อคจึงกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
:: กวาดรายได้ไป 1.24 พันล้านเหรียญ
การกลับมาในรอบ 13 ปีของอนิเมชั่นครอบครัวซุปเปอร์ฮีโร่สวมชุดแดง ที่ทำให้หลายๆ คนคิดถึง หลังจากที่ภาคแรกได้ฉายให้เรารู้จักครอบครัวนี้เมื่อปี 2004 ซึ่งในช่วงเวลานั้นกวาดรายได้ไป 633 ล้านบาท แต่สำหรับภาค 2 กลับทำเงินได้ดีกว่า จนขึ้นแท่นหนังทำเงินปีนี้เป็นอันดับที่ 4 เลยทีเดียว
สำหรับภาค 2 นี้ยังคงความมันและสนุกสุดป่วนเช่นเดิม แถมยังเพิ่มขึ้นอีกเมื่อมีตัวละครใหม่อย่าง ‘Jack-Jack’ ลูกคนสุดท้องของครอบครัว พร้อมด้วยความสามารถเหนือชั้นและหลากหลาย ขณะเดียวกันก็มีวายร้ายตัวใหม่ที่มาพร้อมอันตรายสุดคอยขับเคี่ยวกับแก๊งซุปเปอร์ฮีโร่ชุดแดง จนกลายเป็นเรื่องราวๆ สนุกๆ ไม่แพ้ภาคแรก
:: กวาดรายได้ไป 1.30 พันล้านเหรียญ
หนังไดโนเสาร์ที่เปรียบเสมือนภาคต่อของ Jurassic Park เพียงแต่เพิ่มความล้ำสมัยในปัจจุบันเข้าไป แถมภาคใหม่ที่ดูทันสมัยกว่าเดิมนั้นยังทุบสถิติรายได้ให้กับแฟรนไชส์จูราสสิค จนขึ้นแท่นหนังทำเงินสูงสุดอันดับ 3 ในปีนี้
Jurassic World: Fallen Kingdom นั้นเป็นเรื่องราวการอพยพไดโนเสาร์ ต่อจากเหตุการณ์สวนสนุกแตก ซึ่งทำให้ไดโนเสาร์ถูกทิ้งร้างตามยถากรรม จนเมื่อเกิดเหตุภูเขาไฟระเบิด ทำให้ Claire Dearing ผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้คุ้มครองพิทักษ์ไดโนเสาร์ ร่วมกับโอเวน พระเอกของเรื่องต้องช่วยกันอพยพไดโนเสาร์ แต่งานไม่ได้ราบลื่นง่ายๆ เหมือนย้ายน้องหมาน้องแมว แถมยังมีวายร้ายอยู่ที่คอยตลบหลังอีกด้วย
:: กวาดรายได้ไป 1.35 พันล้านเหรียญ
อีกหนึ่งฮีโร่คนล่าสุดจากจักรวาลมาร์เวล แถมเรื่องนี้ยังได้รับการกล่าวขานถึงการใช้นักแสดงผิวสีแสดงทั้งเรื่อง ทำให้หลายฝ่ายชื่นชม ที่สำคัญการเล่าเรื่องในสไตล์ที่แตกต่างของมาร์เวล ยังทำให้เรื่องนี้ดึงความสนใจของแฟนๆ มาร์เวลได้เป็นอย่างดี
Black Panther ราชาเสือดำที่เส้นทางการเป็นราชา ปกครองประเทศ Wakada ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อต้องแยงชิงบัลลังก์ที่เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมกับวายร้ายที่เปรียบเสมือนลูกพี่ลูกน้อง ความสามารถของฮีโร่คนนี้ไม่ใช่พลังงานที่เกิดจากความผิดพลาดแต่อย่างไร แต่เป็นพลังงานที่เกิดจากวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะชุดของเขาที่ทำให้ Black Panther กลายเป็นฮีโร่มากความสามารถ ที่สำคัญฮีโร่คนนี้ยังต้องไปโผล่ใน Avengers: Infinity War ทำให้หลายคนต้องไปทำความรู้จักก่อนที่ Avengers: Infinity War จะฉาย
:: กวาดรายได้ไป 2.05 พันล้านเหรียญ
อันดับหนึ่งไม่เหนือความคาดหมายเท่าไร เพราะ Avengers: Infinity War เป็นหนังที่แฟนๆ มาร์เวลต่างตั้งตารอ ผนวกกับการรวมเหล่าฮีโร่ของจักรวาลมาร์เวล เพื่อต่อสู้กับวันสิ้นโลก จึงไม่แปลกที่ใครๆ ต้องจับจองตั๋วหนังเข้าไปดูสัก 2-3 รอบ จนขึ้นแท่นหนังทำเงินสูงสุดอันดับ 1 ในปีนี้ไปครอง
สำหรับ Avengers: Infinity War เป็นเรื่องราวการปกป้องโลกฉบับซุปเปอร์ฮีโร่ของจักรวาลมาร์เวล แต่พิเศษกว่าภาคอื่นๆ ตรงที่เหล่าขนทัพเหล่าฮีโร่มาประชันฝีมือกันแบบไม่มีเหนียมอาย โดยมีวายร้ายทรงพลังอย่าง ‘ธานอส’ เป็นเป้าหมาย พร้อมการแย่งชิง Infinity Gems ที่ต้องขัดขวางไม่ให้ธานอสเก็บอัญมณีครบ 5 ชิ้น แม้ท้ายที่สุดจะไม่แฮปปี้อย่างที่หลายๆ คนคาดหวัง แต่นั่นกลับเป็นจดหมายที่มาร์เวลบอกเราว่า Avengers ยังมีภาคต่อนะ (หรือเปล่า)
>>> ทำความรู้จักกับ Infinity Gems บน ‘ ถุงมือธานอส ‘ ก่อนดู Avengers: Infinity War click!
จาก หนังทำเงินสูงสุดในปี 2018 ทั้ง 10 เรื่องที่กล่าวมา ทำให้เรารู้ว่าเทรนด์หนังในปีที่ผ่านมานิยมไปที่หนังฮีโร่ซะเป็นส่วนใหญ่ แถมจักรวาลมาร์เวลก็ยังฝีมือไม่ตก กวาดรางวัลหนังทำเงินหลายอันดับไปครอง ขณะเดียวกันหนังภาคต่อหลายๆ เรื่องก็ยังคงได้รับความสนใจ …สำหรับคุณผู้อ่านล่ะ คิดว่า หนังทำเงินสูงสุดในปี 2018 ทั้ง 10 เรื่องนี้พลิกโผบ้างไหม?
อ้างอิง: