อยากชวนแก๊งเพื่อนไปแฮงค์เอ้าท์ แต่ร้านเก่าร้านเดิมก็เริ่มเบื่อแล้ว เราเลยจัดมาให้กับ 4 ร้านแฮงค์เอ้าท์ที่เลิศเลอทั้งบรรยากาศยามค่ำคืนและเมนูอาหารเครื่องดื่ม จะเป็นที่ไหน มีอะไรโดดเด่นบ้าง อย่ารอช้าไปดูกันเลย
• Hazel’s Ice Cream Parlor and Fine Drinks
เปลี่ยนโรงพิมพ์เก่าบนถนนจักรพรรดิพงษ์ให้เป็นบาร์กลิ่นอายวินเทจสไตล์ยุคแกสบี้ ภายในร้านจึงเจือบรรยากาศเท่ๆ อย่างมีเสน่ห์ โดยเฉพาะการเก็บเสน่ห์ของ ‘โรงพิมพ์เก่า’ ซึ่งเปิดกิจการมาตั้งปี 1968 ผ่านเฟอร์นิเจอร์อย่างเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งดีไซน์ให้เป็นชั้นเก็บตัวพิมพ์มาใช้ แม่พิมพ์เก่าที่นำมาตกแต่งบนผนังสร้างจุดดึงสายตาที่แตกต่าง หรือพื้นผูนเปลือยที่เลอะด้วยสีหมึกพิมพ์ ฯลฯ
ส่วนเมนูเด็ดของที่นี่คือ Alcoholic Ice Cream หน้าตาวินเทจสุดคลาสสิกที่เข้ากับคอนเซ็ปต์ร้าน แน่นอนว่า Alcoholic Ice Cream เหล่านี้ครีเอทความอร่อยขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น “Bourbon Vanilla with Honeycomb Brittle, Marmalade, Orange Bitters” ไอศกรีมรสเบอร์เบิ้นที่เพิ่มความหอมหวานด้วยวานิลา ทำให้มีรสนุ่มละมุนลิ้น เพิ่มความสมดุลและความกลมกล่อมด้วยแยมส้มและ Honeycomb
หรือจะลองซิกเนเจอร์ของร้านที่หาทานที่ไหนไม่ได้อย่าง “The Green Fairy Sundae” ไอศกรีมที่มี Absinthe เป็นวัตถุดิบสำคัญ จนได้ไอศกรีมรสแอปซินธ์หวานเย็นที่แฝงความร้อนแรงของแอลกอฮอลล์เอาไว้ เพิ่มความกลมกล่อมด้วยคาราเมล วิปปิ้งครีม เชอร์รี่ และเปลือกส้มโอแห้งซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของไอศกรีมถ้วยนี้
…อ่านฉบับเต็มได้ที่ Hazel’s Ice Cream Parlor and Fine Drinks ไอศกรีมบาร์ในโรงพิมพ์เก่าที่ไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 18
• Address: ถนนจักรพรรดิพงษ์
• Time: 17.00 – 23.00 น. หยุดวันจันทร์
• Facebook: www.facebook.com/HazelsParlor
• Aire Bar
รูฟท็อปบาร์บนชั้น 28 ที่มาพร้อมวิวเมืองในมุมสูงไกลสุดสายตา โดยเลือกเปิดบาร์แบบ Open Air เพื่อให้เราเปิดรับอากาศธรรมชาติได้อย่างเต็มปอด ในบรรยากาศเรียบง่ายที่นำเสนอแสงไฟสลัวให้เราสัมผัสยามค่ำคืนของเมืองกรุงได้อย่างเต็มที่ โดยโซนไฮไลท์ของที่นี่ คงหนีไม่พ้นพื้นที่ Outdoor ซึ่งมี 2 ฝั่งของตึกให้เราเลือกนั่ง จุดเด่นที่ชวนตะลึงของพื้นที่โซนนี้คือ วิวเมืองในมุมมองที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ย้อมยอดตึกให้เป็นสีส้มทอง และวิวยามค่ำคืนที่มีแสงไฟจากตึกสูงทำหน้าที่เป็นดวงดาวส่องประกาย
ส่วนเมนูเด็ดต้องยกให้กับค็อกเทลที่ครีเอทรสชาติขึ้นใหม่จากฝีมือมิกโซโลจิสต์ระดับโลก เป็นค็อกเทลที่เน้นความสดชื่นของผลไม้ควบคู่กับรสชาติที่ทานง่าย เริ่มจาก “Passion in the AIRE” ค็อกเทลสีหวานที่เสิร์ฟรสพิเศษจากเสาวรส วอดก้า เวอร์มุธ และคาราเมล ท็อปด้วยฟองนุ่มๆ ที่ช่วยสร้างเท็กซ์เจอร์ละมุนให้การดื่ม จนได้ค็อกเทลแก้วพิเศษในสไตล์เก๋ไก๋แก้วนี้
ต่อกันด้วย “Sazzle” ค็อกเทลสีแดงชมพูที่เบสความอร่อยจากจินและวอดก้า เติมรสเปรี้ยวอมหวานด้วยมะนาวและราสเบอร์รี่ เพิ่มมิติด้วยความหอมจากใบมะกรูด แต่หากคุณชอบเครื่องดื่มร้อนแรงต้องไม่พลาดสั่ง “Suffering Bastard” ที่ผสมความอร่อยจากจิน เบอร์เบิ้น และเหล้าบิตเตอร์ เติมมิติให้รสสัมผัสด้วยจิงเจอร์เบียร์กับมะนาว
…อ่านฉบับเต็มได้ที่ นั่งเล่นรูฟท็อปบาร์ จิบค็อกเทลรสพิเศษ พร้อมชมวิวเมืองสุดสายตาที่ AIRE BAR
• Address: ชั้น 28 ของโรงแรม Hyatt Place Bangkok สุขุมวิท 24
• Time: วันจันทร์ เวลา 17.00 – 00.00 น. ศุกร์ – เสาร์ เวลา 17.00 – 01.00 น. และอาทิตย์ เวลา 15.00 – 23.00 น.
• FB: www.facebook.com/airebarbangkok/
• Pirate Arena
เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมมูนิตี้แห่งใหม่ในซอยทองหล่อ 13 กับการเปลี่ยนพื้นที่ชั้นล่างของ Seenspace ให้เป็นเรือโจรสลัดในคอนเซ็ปต์ ‘การผจญภัยและใช้ชีวิตอย่างสุดขั้วในฐานะโจรสลัด’ ตั้งแต่การดีไซน์พื้นที่ให้เป็นท้องเรือ เติมความเป็นบาร์ผ่านเคาน์เตอร์เครื่องดื่มตัวยาว โดยมีภาพใต้ท้องทะเลและสัตว์ทะเลที่แหวกว่ายบนผืนน้ำมหาสมุทรมาสร้างความสมจริง
ส่วนเมนูอาหารของที่นี่เลือกเสิร์ฟอาหารสไตล์ Cross Cultured เน้นวัตถุดิบคุณภาพที่รังสรรค์ขึ้นใหม่กว่า 100 เมนู อาทิ “Tuna Carpaccio” เนื้อทูน่าสดใหม่ที่เติมความอร่อยด้วยไข่แซลมอนและคาร์เวียร์ในสไตล์ญี่ปุ่น โดยเติมมิติให้จานนี้ด้วยการประยุกต์เข้ากับคาร์ป๊าชโช่ อาหารสไตล์อิตาเลียนดั้งเดิม
ต่อกันด้วย “Worcestershire-Marinated Medium Flank Steak Slice” เนื้อวัวส่วนท้อง ที่ให้ความนุ่มไม่มีกระดูก หมักกับวูสเตอร์ซอส ซอสเปรี้ยวที่ทำจากซีอิ๊วถั่วเหลือง ผสมน้ำส้มสายชูและเครื่องเทศต่างๆ เป็นซอสที่มีรสเปรี้ยวนุ่มนวล ทานคู่กับซอสชิมิชูรี (chimichurri) สไตล์อเมริกาใต้ช่วยเพิ่มรสชาติให้มีความจัดจ้านมากยิ่งขึ้น
…อ่านฉบับเต็มได้ที่ สวมบทโจรสลัด แล้วออกไปล่าความสนุกที่ PIRATE ARENA
• Address: Seenspace ทองหล่อ 13
• Time: เปิดทุกวัน เวลา 18.00 – 02.00 น.
• FB: www.facebook.com/piratearena.official/
• A House
สถานที่รวมพลของคนรักเสียงดนตรี ที่เสิร์ฟแนวเพลง “House Music” ให้เราได้ไปปลดปล่อยความเหนื่อยล้า เป็นสถานที่พักผ่อนที่ให้เราปล่อยตัวปล่อยใจได้เหมือนอยู่บ้าน ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า My house is your house. ในบรรยากาศ Industrial Loft ในโทนสีดำ เขียว และทองแดง
ที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารฟิวชั่นตะวันตกที่โดดเด่นด้วยความเข้มข้นของเครื่องเทศ อาทิ “Spaghetti Seafood Tom Yum” สปาเก็ตตี้ที่เข้มข้นด้วยเครื่องต้มยำ เสิร์ฟพร้อมทะเลตัวโตสดใหม่ ทั้งกุ้ง ปลาหมึก และหอยแมลงภู่ ใครชอบทานเนื้อต้องไม่พลาดกับเมนู “Thai Rib Eye Steak” เนื้อนุ่มติดมันนิดๆ กับการย่างให้สุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมครีมซอสเห็ดกับน้ำจิ้มแจ่ว
…อ่านฉบับเต็มได้ที่ ความสนุกและตัวตนที่ซ่อนอยู่ในเสียงดนตรี ณ “a HOUSE”
• Address: อารีย์ ซอย 2
• Time: 17.00 – 24.00 น. ปิดวันจันทร์
• Facebook: www.facebook.com/ahouseari