ใหญ่ที่สุดในตระกูล X รถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่

ใหญ่ที่สุดในตระกูล X รถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ บีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่

รอชมตัวจริง ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 วันที่ 27 มีนาคม –7 เมษายนนี้ ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี บีเอ็มดับเบิลยู เผยนิยามใหม่แห่งความหรูหราในเซกเมนต์รถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (SAV) บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่ ที่ผสานทั้งความล้ำสมัยและความคล่องตัวในดีไซน์ที่แปลกใหม่ โดดเด่นด้วยมิติรถที่กว้างขวางโอ่อ่า พร้อมด้วยสมรรถนะชั้นเลิศ เส้นสายในการออกแบบนั้นเด่นสะกดทุกสายตาตั้งแต่กระจังหน้าทรงไตคู่ทรงแนวตั้งขนาดใหญ่ กระจกบานกว้าง ความสูงของรถ ไปจนถึงการถ่ายทอดพลังผ่านทรวดทรงหลังคาที่ลาดยาว ตอบโจทย์ความหรูหรา ควบคู่ไปกับเอกลักษณ์ที่พร้อมเปิดมิติใหม่แห่งความโฉบเฉี่ยวในทุกเส้นทาง รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X7 น้องใหม่ล่าสุด และใหญ่ที่สุดในตระกูล X จะเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ

บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d นำเสนออีกก้าวแห่งความพึงพอใจจากการขับขี่ ด้วยนวัตกรรมความหรูหราและความกล้าที่จะแตกต่าง ให้ได้สัมผัสทั้งที่สุดแห่งความสะดวกสบายและสมรรถนะชั้นเยี่ยมไปพร้อมๆ กัน

บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่ จะเริ่มเปิดรับจองในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2019 ในราคาจำหน่าย 8,999,000 บาท พร้อมแพคเกจ BSI Standard ประกอบด้วยการบริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. และการรับประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทาง

พิเศษสุดสำหรับผู้ที่จองรถระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 เมษายน และส่งมอบภายในวันที่ 30 เมษายน ศกนี้ เมื่อซื้อแพคเกจ BSI Ultimate จะได้รับการขยายระยะเวลาบำรุงรักษาเพิ่มขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็น 6 ปี หรือ 120,000 กม. และการรับประกันเพิ่มขึ้นเป็น 6 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และสำหรับผู้ที่จองรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูปลั๊กอินไฮบริดทุกรุ่น รับฟรีประกันชั้นหนึ่ง เสริมความอุ่นใจในทุกเส้นทางการขับขี่ ยกเว้นรถยนต์ในตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู M และบีเอ็มดับเบิลยู i

มิติใหม่แห่งความคล่องตัวในการขับขี่และที่สุดของความสบายเหนือระดับ

หัวใจสำคัญของบีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่ คือการผสานที่สุดแห่งความสะดวกสบาย ความคล่องตัว และความหรูหราเข้าไว้ด้วยกัน สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี
M Performance TwinPower Turbo ที่ส่งพละกำลังสูงสุด 294 กิโลวัตต์ / 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 3,000 รอบต่อนาที ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สมรรถนะของบีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d สร้างความประทับใจได้อย่างโดดเด่นด้วยการส่งพละกำลังจากชุดอัดอากาศ ซึ่งประกอบด้วยชุดอัดอากาศแบบความดันต่ำ 2 ตัว และแบบความดันสูง 2 ตัว ทำให้เรียกพละกำลังได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ไม่สะดุด โดยทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ รวมทั้งระบบช่วงล่างแบบถุงลมสามารถปรับระดับอัตโนมัติ คล่องตัวด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมขุมพลังบีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่นี้ ได้อย่างแม่นยำและง่ายดาย มอบความสะดวกสบายในการขับขี่ทุกสภาพถนน ชูสมรรถนะที่แข็งแกร่งของ SAV อย่างแท้จริง เทคโนโลยีแชสซีใหม่ล่าสุดพร้อมระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ยังช่วยมอบการควบคุมที่เฉียบคมและปราดเปรียวยิ่งขึ้น

ครั้งแรกสำหรับรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (SAV) ที่มาพร้อมกับท่อไอเสียในสไตล์ M Sport เสริมจิตวิญญาณแห่งความสปอร์ตด้วยเสียงดุดัน สร้างความเร้าใจในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างามในแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู

สะกดทุกสายตาด้วยความหรูหรา ทรงพลัง และคาแรคเตอร์อันโดดเด่น

แม้ว่าบีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่นั้นมาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ใหญ่ และโอ่อ่า แต่เส้นสายการออกแบบนั้นถ่ายทอดออกมามาในสไตล์ที่ปราดเปรียว และคล่องตัว เน้นองค์ประกอบของความประณีตและความเรียบง่าย กระจังหน้าทรงไตคู่ทรงแนวตั้งขนาดใหญ่ รวมไปถึงระบบไฟหน้า BMW Laserlight สร้างเอกลักษณ์ให้รถยนต์รุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ล้ออัลลอย BMW Individual ขนาด 22 นิ้ว ลาย
Y-spoke สวยสะดุดตาจากทุกมุม ส่งให้บีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่ ทรงพลังและภูมิฐานมากขึ้น

บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่มีสีภายนอกให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 5 สีคือสีดำ Black Sapphire สีดำ Carbon Black สีขาว Mineral White สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีเทา Arctic Grey Brilliant Effect

อวดพลังแห่งความสง่างามจากภายใน พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และการเชื่อมต่อครบวงจร

ห้องโดยสารภายในของบีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่นั้น สะท้อนนิยามของความหรูหราสง่างามที่มาบรรจบกับการออกแบบเหนือกาลเวลา และความสะดวกสบายเหนือระดับ ด้วยห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ ออกแบบให้รองรับเบาะนั่งแบบ 3 แถว จุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 คน โดยทุกที่นั่งสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า มอบความสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เบาะที่นั่งบุด้วยหนังแท้ Merino เนื้อละเอียดจาก BMW Individual หรูหราขึ้นไปอีกขั้นด้วยการตกแต่งห้องโดยสารด้วยลายไม้สีดำเงา ให้บรรยากาศในสไตล์เรียบหรู ส่วนห้องเก็บสัมภาระท้ายรถมีปริมาตรความจุ 326 ลิตร และเพิ่มได้สูงสุดถึง 750 ลิตร หรือ 2,120 ลิตร เมื่อพับเบาะแถว 3 และแถว 2 ตามลำดับ ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การขับขี่ในชีวิตประจำวัน และผู้ที่รักการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ความหรูหราในห้องโดยสารนั้นยังเสริมด้วยวัสดุตกแต่งผลึกแก้ว ‘CraftedClarity’ พร้อมชุดไฟ Ambient light ชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร เพดานแบบ Panorama glass roof Sky Lounge ที่เพิ่มความโปร่งอย่างโอ่อ่าเหนือระดับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน พร้อมมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายจากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัยต่างๆ เช่น ระบบ Parking Assistant Plus ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant รวมถึงระบบบันเทิงและเชื่อมต่อใหม่ล่าสุด เช่น ระบบ BMW Live Cockpit Professional พร้อมจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ BMW ConnectedDrive เพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด และระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งเป็นระบบผู้ช่วยส่วนตัวที่สามารถรับคำสั่งจากเสียงพูดในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ให้เป็นส่วนตัวมากกว่าที่เคย

ผู้ช่วยส่วนตัวฉลาดล้ำพร้อมตอบรับทุกคำสั่งเพียงแค่พูดว่า “Hey BMW”

 ส่วนระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ติดตั้งมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 และทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียวกับระบบ BMW Live Cockpit Professional ระบบผู้ช่วยส่วนตัวนี้สามารถรับคำสั่งจากเสียงพูดในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นอันชาญฉลาดอีกมากมาย สามารถเรียนรู้และจดจำกิจวัตรประจำวันและความชอบส่วนตัวของ                         ผู้ขับขี่ได้ ก่อนจะนำมาปรับใช้งานอย่างถูกต้องแม่นยำ หากผู้ขับขี่รู้สึกว่าอุณหภูมิในตัวรถหนาวเกินไป                ก็สามารถพูดออกคำสั่งว่า “Hey BMW, I’m cold” เพื่อให้ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ปรับการทำงานของระบบปรับอากาศให้เหมาะสม ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยูได้พัฒนาให้ระบบผู้ช่วยส่วนตัวนี้สามารถอัพเกรดเพื่อเพิ่มเติมคุณสมบัติและรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ๆ ได้อีกในอนาคต

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.