เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงลุ้นไปกับภาพยนตร์ Roma ให้สามารถคว้ารางวัลออสการ์มาครอบครอง เมื่อ Roma ทำสำเร็จ เราก็อยากทราบถึงความในใจของเจ้าของลิขสิทธิ์อย่าง Netflix ว่ารู้สึกอย่างไร
แม้ว่าในช่วงระยะหนึ่งที่ผ่านมาของเทศกาลประกาศรางวัลออสการ์ จะมีภาพยนตร์จากระบบสตรีมมิ่งเข้าชิงหลายเรื่อง แต่เรื่องล่าสุด Roma ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่บอกเล่าถึงความสำคัญของภาพยนตร์ระบบสตรีมมิ่งได้เป็นอย่างดี โดย Roma สามารถคว้ารางวัลออสการ์ได้ถึง 3 สาขาด้วยกันคือ รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม, รางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม และ รางวัลการกำกับภาพยอดเยี่ยม
Roma ภาพยนตร์ขาวดำสัญชาติเม็กซิโก ที่กำกับโดย อัลฟอนโซ กัวรอน (Alfonso Cuarón) ผู้กำกับที่เคยคว้ารางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Gravity เมื่อปี 2013 มาแล้ว โดยมี Netflix เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
เมื่อครั้ง Roma เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ก็กระแสตอบรับได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเหตุการณ์ตั๋วภาพยนตร์ที่ขายหมดเกลี้ยง แถมยังขยายการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์กว่า 500 แห่งใน 40 ประเทศ ก่อนจะเปิดให้ชมผ่าน Netflix ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา
ไม่เพียงแต่ภาพยนตร์เรื่อง Roma เท่านั้นที่การันตีคุณภาพด้วยการคว้ารางวัลออสการ์ถึง 3 รางวัล แต่ยังมีภาพยนตร์อีกเรื่องของ Netflix ที่คว้ารางวัลเช่นกัน โดยได้รับรางวัล สาขาภาพยนตร์สารคดี–ขนาดสั้นยอดเยี่ยม ซึ่งก็คือเรื่อง Period. End of Sentence
จากความสำเร็จของ Roma และ Period. End of Sentence ทำให้เจ้าของลิขสิทธิ์อย่าง Netflix มีความในใจเกี่ยวกับรางวัลนี้มาบอกกล่าว…
โดย เท็ด ซาแรนโดส ประธานฝ่ายเนื้อหาของ Netflix กล่าวว่า “พวกเราขอแสดงความยินดีกับ Alfonso, Gaby, บริษัท Esperanto Filmoj และสื่อมวลชนที่มาร่วมงาน ถือเป็นเรื่องที่ยาก สำหรับหนังภาพยนตร์ขาวดำของสเปนอย่าง Roma ที่มีนักแสดงนำที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก สามารถเข้าชิงและคว้ารางวัลมาได้ถึง 3 สาขา ไม่ว่าจะเป็น รางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม, รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และรางวัลการกำกับภาพยอดเยี่ยม ด้วยคะแนนเสียงจากผู้ชมทั่วโลก
อีกทั้งยังคว้ารางวัลสาขา ภาพยนตร์สารคดี-ขนาดสั้นยอดเยี่ยม สำหรับเรื่อง Period. End of Sentence ทั้งนี้เรายังรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะชูและนำความสนใจให้กับผลงานของ The Pad Project นอกจากนี้ พวกเราขอแสดงความยินดีกับ Rayka Zehtabchi, Melissa Berton, Garrett Schiff และ Lisa Taback สำหรับรางวัลที่ได้รับอีกด้วย”
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ ในปีนี้ภาพยนตร์ของ Netflix ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ 2019 ไม่ได้มีแค่หนังเรื่อง Roma ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลกว่า 9 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม, ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม, ผสมเสียงยอดเยี่ยม, ออกแบบศิลป์ยอดเยี่ยม และการกำกับภาพยอดเยี่ยม และ Period. End of Sentence ที่คว้ารางวัลในสาขา ภาพยนตร์สารคดี-ขนาดสั้นยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมีภาพยนตร์เรื่อง The Ballad of Buster Scruggs และ End Game ที่มีรายชื่อเข้าร่วมชิงรางวัลออสการ์ 2019 เช่นกัน
ทิ้งท้ายด้วยคำพูดของผู้กำกับ ‘อัลฟอนโซ กัวรอน’ ที่กล่าวขณะขึ้นไปรับรางวัลในฐานะผู้กำกับยอดเยี่ยมของภาพยนตร์ Roma ว่า
“ผมอยากขอบคุณ The Academy ที่ยอมรับภาพยนตร์ที่มีตัวเอกเป็นหญิงสาวท้องถิ่น คาแรกเตอร์ที่ตามปกติแล้วมักถูกขับไล่ให้อยู่แต่ในเบื้องหลัง ในฐานะศิลปิน หน้าที่ของพวกเราคือ การมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น”
ข้อมูลบางส่วนจาก: twitter.com/thestandardpop