The Traveller: เที่ยวกรุงเทพ แบบฉบับนักเดินทาง ปักหมุดย่านเก่าที่มีเสน่ห์ “นางเลิ้ง”

The Traveller: เที่ยวกรุงเทพ แบบฉบับนักเดินทาง
ปักหมุดย่านเก่าที่มีเสน่ห์ “นางเลิ้ง”

หากจัดทริป เที่ยวกรุงเทพ ในครั้งหน้า ก็อยากลืมปักหมุดย่าน ‘นางเลิ้ง’ รับรองคุณจะเต็มอิ่มกับอาหารและบรรยากาศ เป็นความสนุกที่เราอยากให้คุณไปสัมผัส

กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปสักพักกับคอลัมน์ Travel on Budget แต่การกลับมาครั้งนี้ เราได้ปรับความสนุกให้ครบสูตร พร้อมเปลี่ยนชื่อคอลัมน์เป็น The Traveller ที่จะชวนคุณ เที่ยวกรุงเทพ ตามแบบฉบับนักเดินทาง โดยเปิดตัวด้วยย่านเก่าที่มีเสน่ห์อย่าง “นางเลิ้ง”

‘นางเลิ้ง’ เป็นย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ เป็นอีกหนึ่งย่านที่คงเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เพียงแต่กาลเวลาที่ผ่านไป ทำให้สถาปัตยกรรมเก่าแก่หายไปตามอายุขัย อย่าง ‘สนามม้านางเลิ้ง’ ที่มีอายุกว่า 102 ปีก็ได้ปิดตัวลง หรือ ’ศาลาเฉลิมธานี’ ที่เรารู้จักกันในชื่อโรงหนังนางเลิ้งก็เหลือเพียงที่ดินเปล่าให้เราดูต่างหน้า

สงสัยไหมว่าทำไมย่านนี้จึงชื่อ “นางเลิ้ง” แต่เดิมพื้นที่ย่านนี้มีชื่อว่า ‘อีเลิ้ง’ โดยพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานอธิบายว่า อีเลิ้ง หมายถึง ตุ่มหรือโอ่งใหญ่ แต่เพราะคำว่า อี ฟังแล้วไม่เพราะ จึงมีการเปลี่ยนเป็นคำว่า นาง  จึงกลายเป็น “นางเลิ้ง” อย่างทุกวันนี้


129 ปี คืออายุของตลาดนางเลิ้ง

แวะไปเที่ยวกรุงเทพ เยือนย่านนางเลิ้งทั้งที สถานที่แรกที่เราแนะนำให้ไปเยือนคือ “ตลาดนางเลิ้ง” ที่มีอายุกว่า 100 ปี เป็นตลาดที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญตลาดนางเลิ้งยังเป็น ‘ตลาดบกแห่งแรกของสยาม’ โดยตลาดแห่งนี้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2433

เมื่อขึ้นชื่อว่าตลาด ย่อมมีข้าวปลาอาหารและขนมให้ลิ้มลองมากมาย โดยตลาดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของร้านดังเมนูเด็ดหลายๆ เจ้าอีกด้วย (ซึ่งเราคัดมานำเสนอในหัวข้อถัดไป) ความพิเศษของตลาดนางเลิ้งยังไม่จบ เพราะด้วยความเก่าแก่ของสถานที่ ทำให้ตลาดแห่งนี้ยังคงเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 เอาไว้อย่างน่าสนใจ

ดังนั้นใครที่ปักหมุดเที่ยวนางเลิ้ง ต้องมีตลาดนางเลิ้งเป็นหมุดหมายที่ต้องไปเยือน ทั้งฝากท้องและถ่ายรูปสตรีทแฟชั่นแสนเก๋


นันทาขนมไทย ความอร่อยคู่ตลาดนางเลิ้ง

ความอร่อยแรกที่เราพาไปลิ้มลองคือ นันทาขนมไทย ที่เสิร์ฟขนมไทยรสดั้งเดิม ส่งทอดสูตรความอร่อยจากในวังที่สืบต่อกันมาถึง 3 รุ่น โดยขนมไทยของที่นี่มีหลากหลายให้เลือกลิ้มลอง หลายเมนูอาจไม่ใช่เมนูหายาก แต่ความอร่อยไม่ธรรมดา มีให้เลือกชิมทั้ง ขนมกล้วย, ขนมเผือก, ขนมมัน, ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ ฯลฯ โดยจำหน่ายเป็นชุด ชุดเล็ก 10 ชิ้น / 40 บาท แน่นอนว่าสามารถคละขนมได้

พิกัด: ตลาดนางเลิ้ง
เวลาเปิด-ปิด: 7.00 – 14.00 น. เปิดทุกวัน

>> อ่านต่อหน้า 2


เนื้อตุ๋นนางเลิ้ง เจ้าตำรับความอร่อยของเนื้อตุ๋นในย่านนี้

หากคุณเกิดหิว แนะนำว่าต้องไปฝากท้องที่ “เนื้อตุ๋นนางเลิ้ง” เป็นความอร่อยที่ห้ามพลาด เพราะร้านนี้เปรียบเสมือนร้านดังประจำย่านเลยก็ว่าได้ การันตีได้จากลูกค้าที่แน่นร้านตั้งแต่ร้านเปิดจนร้านปิด โดยเมนูความอร่อยคงเป็นอะไรไม่ได้ นอกจาก ‘เนื้อตุ๋น’ ที่เสมือนละลายในปาก

เคล็ดลับความอร่อยของเนื้อตุ๋นนางเลิ้งมาจากสูตรลับของครอบครัวที่สืบทอดกันมากว่า 3 รุ่นด้วยกัน จึงไม่แปลกหากร้านนี้จะมีชื่อเสียงสะสมมายาวนาน จะเลือกทานเต็มคำด้วยเมนูเกาเหลาคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็ดี หรือจะสั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยไม่แพ้กัน นอกจากเมนูก๋วยเตี๋ยวแล้ว ทางร้านยังมีเฉาก๊วยเป็นเมนูขนมหวานมาให้เราปิดท้าย พร้อมด้วยเครื่องดื่มไทยๆ

พิกัด: ซอยนครสวรรค์ 2 ใกล้ตลาดนางเลิ้ง
เวลาเปิด-ปิด: 10.00 – 14.00 น. หยุดวันอาทิตย์


อร่อยนานาชาติกับ เกี๊ยวซ่า ตลาดนางเลิ้ง

ความอร่อยยังไม่จบ สำหรับใครที่ไม่นิยมทานเนื้อ นางเลิ้งยังอุดมด้วยร้านอาหารหลากสัญชาติให้เราอร่อยได้แบบไม่จำกัด อย่าง “ร้านเกี๊ยวซ่า ตลาดนางเลิ้ง” หรืออีกชื่อ ไทยเจริญเกี๊ยวซ่า ที่เสิร์ฟความอร่อยสัญชาติญี่ปุ่น

โดยเมนูเด่นของที่นี่คือ เกี๊ยวซ่า ซึ่งเป็นเกี๊ยวซ่าสไตล์โฮมเมด ที่สำคัญมีหลายรสชาติให้ลอง ทั้งเกี๊ยวซ่าหมู, เกี๊ยวซ่าสาหร่าย, เกี๊ยวซ่าพะแนงไก่, เกี๊ยวซ่าแฮม ฯลฯ แถมยังไม่แพง ชุดละ 5 ชิ้น/40 บาท

นอกจากเมนูเกี๊ยวซ่าแล้ว ร้านนี้ยังมีเมนูอื่นๆ มาเป็นตัวเลือกให้ลิ้มลอง อาทิ พิซซ่าญี่ปุ่น หรือ โอโคมิยากิ ชวนอร่อยทานเพลินๆ หรือ ไก่ทอดคาราเกะ ฯลฯ

พิกัด: ถนนนครสวรรค์
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 21.00 น. และอาทิตย์ เวลา 11.00 – 21.00 น. ปิดวันเสาร์


ขนมเบื้องญวน ย่าแช่ม ตำนานความอร่อยคู่ชุมชนนางเลิ้ง

ถ้าพลาดความอร่อยของ ‘ขนมเบื้องญวน ย่าแช่ม’ แสดงว่าคุณยังมาไม่ถึงนางเลิ้ง เพราะขนมเบื้องญวน ย่าแช่ม เป็นร้านที่อยู่คู่นางเลิ้งมาสมัยที่ตลาดนางเลิ้งเพิ่งเปิดช่วงแรกๆ โดยขนมเบื้องญวนของย่าแช่มนี้เป็นสูตรโบราณที่แน่นด้วยเครื่องเครา โดยมีแผ่นแป้งแบบใส่ไข่และไม่ใส่ไข่ให้เลือก

ความอร่อยของขนมเบื้องญวน นอกจากเครื่องแน่นแล้ว จุดเด่นอีกอย่างคือ แป้งที่ทำมาจากถั่วเขียวผสมกับข้าวเจ้า ซึ่งเป็นสูตรลับความอร่อยที่ทำให้ได้ขนมเบื้องญวนกรอบ โดยเฉพาะเมื่อทางร้านยังคงใช้เตาถ่านในการปรุง ซึ่งคงความกรอบ กลิ่นหอม และรสชาติดั้งเดิมอย่างครบถ้วน หากเป็นขนมเบื้องญวนใส่ไข่ ราคาจะอยู่ที่ 45 บาท/ชิ้น แต่หากเป็นเมนูไม่ใส่จะอยู่ที่ 40 บาทต่อชิ้น

พิกัด: ปากซอยนครสวรรค์ 4 ถนนนครสวรรค์
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 09.00-15.00 น.

>> อ่านต่อหน้า 3


จิ๊บกี่ นางเลิ้ง อีกหนึ่งร้านเก่าแก่ประจำนางเลิ้ง ที่สุดคือเป็ดย่าง

ความอร่อยยังไม่จบ เพราะเรายังมีอีก 1 ร้านดังประจำย่านนางเลิ้ง กับร้าน จิ๊บกี่ นางเลิ้ง ที่มีซิกเนเจอร์เป็นเป็ดย่างแสนอร่อย โดยร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านเก่าแก่อยู่มายาวนานคู่นางเลิ้งกว่า 80 ปี นอกจากเป็ดย่างที่เป็นไฮไลท์ของร้านนี้แล้ว หมูย่างและหมูแดงของที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กัน

อีกหนึ่งเสน่ห์ของร้านนี้คือ บรรยากาศที่คงความคลาสสิก เจือกลิ่นอายจีนบางเบา โดยตัวร้านเปิดโล่ง และจัดวางโต๊ะเก้าอี้อย่างเป็นระเบียบ แต่ความเรียบง่ายของบรรยากาศ กลับทำให้ร้านนี้น่านั่ง

พิกัด: ถนนนครสวรรค์ อยู่ตรงข้ามตลาดนางเลิ้ง
เวลาเปิด-ปิด: 09.00-14.00 น. เปิดทุกวัน


บุก นางเลิ้งอ๊าร์ต เยี่ยมชมล็อกเก็ตหิน เจ้าแรกของสยาม

ผ่านถนนนครสวรรค์ครั้งใด ก็ต้องสะดุดตากับ ‘นางเลิ้งอ๊าร์ต’ ทั้งป้ายหน้าและการจัดดิสเพลย์สุดคลาสสิกที่ชวนให้เราแวะเข้าไป ความเก่าแก่กว่า 100 ปี กับศาสตร์ของช่างทำล็อกเก็ตที่ยังคงสืบทอดต่อกันมา คือเสน่ห์ของนางเลิ้งอ๊าร์ตที่เราอยากเสนอให้คุณรู้จัก

นางเลิ้งอ๊าร์ต ไม่เพียงแต่เป็นร้านช่างทำล็อกเก็ตหินเจ้าแรกๆ ที่ยังคงรักษาความเป็นช่างฝีมือจากกอดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ร้านนี้ยังเป็นร้านถ่ายรูปเจ้าแรกๆ ในสยามอีกด้วย แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนกล้องถ่ายรูปตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนผ่าน แต่ด้วยบรรยากาศ ของสะสม และมรดกฝีมือที่ตกทอด ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์แตกต่างจากร้านถ่ายรูปอื่นๆ จึงไม่แปลกหาก นางเลิ้งอ๊าร์ตแห่งนี้จะเป็น Hidden Place ของทริปเที่ยวกรุงเทพ แถมยังพ่วงด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์อีกแห่งที่เราต้องแวะไปเยือน

พิกัด: ถนนนครสวรรค์ อยู่ตรงข้ามตลาดนางเลิ้ง
เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์ – เสาร์ เวลา 09.00 – 17.00 น.


ร้านต้นกำเนิด ซาลาเปา วราภรณ์

ซาลาเปา วราภรณ์ ร้านดังขึ้นห้างที่หลายคนรู้จักมักคุ้นกับความอร่อยของซาลาเปา เมนูติ่มซำ และอีกสารพัดความอร่อยสไตล์อาหารจีน แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า ต้นกำเนิดความอร่อยของแบรนด์ซาลาเปา วราภรณ์ เริ่มต้นที่นางเลิ้ง วันนี้เราเลยพาบุกร้านดั้งเดิมกัน

แม้ตัวร้านจะรีโนเวทใหม่ให้ทันสมัยและดูสะอาดสอ้านมากขึ้น แต่คงรสชาติดั้งเดิมเอาไว้ หากย้อนกลับไปยังประวัติของที่นี่ ซาลาเปา วราภรณ์ เริ่มต้นมาจากความอร่อยในครอบครัว ก่อนที่จะขยับขยายในเชิงพาณิชย์ จนในที่สุดก็เป็นที่ติดอกติดใจและโด่งดังจนขยายสาขาไปทั่ว

ความอร่อยของซาลาเปา วราภรณ์ นอกจากซาลาเปาที่เป็นซิกเนเจอร์แล้ว ยังมีเมนูอื่นๆ และหลากหลาย ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มวัย อาทิ ขนมจีบปู ขนมจีบกุ้ง ฮะเก๋า ฯลฯ และเมนูใหม่ที่ขอแนะนำคือ หมั่นโถวมินิ ที่นำหมั่นโถวไปอบกรอบ ราดด้วยเนยนม หรือจะเลือกเป็นเนยน้ำตาลและสังขยาก็ไม่ว่ากัน ส่วนเครื่องดื่มแนะนำนั้นเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรฟิวชั่น อาทิ น้ำผึ้งมะนาวว่านหางจระเข้, น้ำชาเขียวเก๊กฮวยวุ้นใบเตย, น้ำเฉาก๊วยผสมหล่อฮังก๊วย ฯลฯ

พิกัด: ถนนนครสวรรค์
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 6.00 – 19.00 น.

>> อ่านต่อหน้า 4


Buddha & Pals คาเฟ่ที่คืนชีพให้ตึกเก่า แลนด์มาร์คใหม่ของนางเลิ้ง

ใครที่อยากเที่ยวคาเฟ่บรรยากาศเก๋ ที่นางเลิ้งก็มีคาเฟ่แห่งใหม่ให้เราแวะไปเสพย์บรรยากาศของตึกเก่า เคล้าความหอมกรุ่นของกาแฟ โดยคาเฟ่แห่งนี้มีชื่อว่า Buddha & Pals ในคอนเซ็ปต์ ซื่อๆเพราะที่นี่ต้องการสื่อบรรยากาศธรรมชาติอย่างตรงไปตรงมาของอาคารเก่าหลังนี้

จุดเด่นของที่นี่คงหนีไม่พ้นบรรยากาศคลาสสิกที่คืนชีพให้ตึกเก่า เป็นอาคารอนุรักษ์ ขณะเดียวกันก็ทำประโยชน์ โดยด้านล่างออกแบบให้เป็นคาเฟ่ที่เสิร์ฟทั้งอาหารคาวอิ่มท้อง ของว่าง และเครื่องดื่มหลากหลาย อาทิ Bacon & Avocado Toast, Spaghetti Seafood หรือเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง The Breakfast in Sicily, Bangkok Holiday และ Walking Through Grandma Garden ฯลฯ

พิกัด: ถนนกรุงเกษม ใกล้แยกเทวกรรม
เวลาเปิด-ปิด: เวลา 09.00 – 18.00 น. เปิดทุกวัน


ปิดท้ายกันที่คาเฟ่น่านั่ง Pollen Baked Goods

ปิดท้ายความสนุกของทริปเที่ยวกรุงเทพกันที่คาเฟ่บรรยากาศเก๋ที่ให้เราแวะพัก จิบเครื่องดื่มที่ชอบ เคล้ากลิ่นหอมของเบเกอรี่อบสดใหม่กันที่ Pollen Baked Goods ร้านเบเกอรี่โฮมเมด ที่แม้จะไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านนางเลิ้งซะทีเดียว แต่ก็ไม่ไกล สามารถเดินเท้าไปได้

สำหรับร้าน Pollen Baked Goods แต่เดิมเป็นโรงงานอบเบเกอรี่ส่งออก ก่อนจะเปลี่ยนให้เป็นคาเฟ่ไซส์จิ๋วที่เสิร์ฟขนมปังและเบเกอรี่อบสดใหม่ให้เราได้ฟิน และด้วยอาคารเก่า ทำให้บรรยากาศของที่นี่คงเสน่ห์คลาสสิกของอาคารเก่าเอาไว้ โดดเด่นด้วยสไตล์ลอฟท์เจือกลิ่นอายเรโทรจากเฟอร์นิเจอ์เก่า

แต่ที่น่าสนใจคือ การจัดให้มีชั้นวางขนมปังและเบเกอรี่รสชาติต่างๆ โดยให้ลูกค้าเลือกหยิบได้ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็น Lime Cake, Madeleines, Macaron, Cookie ฯลฯ ส่วนเครื่องดื่มเราก็เลือกเป็น Americano เมนูคลาสสิกกับ Thai Milk Tea หรือชาไทยที่เราคุ้นเคย

พิกัด: ถนนคลองถมวัดโสมนัส
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 9.00 – 17.00 น.



Travel on Budget : ตะลุยชมสถาปัตยกรรมคลาสสิกจาก ‘วัดพระแก้ว’ จรด ‘เสาชิงช้า’

Travel on Budget : ‘บางลำพู’ พาเที่่ยว 1 วัน เริ่มจากชุมชนเก่าสู่ของกินเจ้าอร่อย

<< กลับไปหน้า 1

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.