6 คาเฟ่ดีไซน์เก๋ ให้เราแวะพัก หลังชมงาน BAB 2018 ณ โซนแม่น้ำเจ้าพระยา
6 คาเฟ่ดีไซน์เก๋ ให้เราแวะพัก
หลังชมงาน BAB 2018
ณ โซนแม่น้ำเจ้าพระยา
ใครที่วางแผนเดินทางไปเสพย์งานศิลปะในงาน “เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018” (Bangkok Art Biennale 2018 หรือ BAB 2018) โซนฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้เรามีแผนการเที่ยวมาแนะนำเพิ่มเติม โดยเฉพาะเหล่า Café Hopping กับ 6 จุดแวะพักให้จิบชาดื่มกาแฟ แถมยังได้เก็บภาพเก๋ๆ จากบรรยากาศคูลๆ ของร้าน …ตามไปดูกันว่าจะมีร้านไหนกันบ้าง
Heijii Bangkok
Heijii Bangkok อาจเรียกได้ว่าเป็นต้นสายของแผนการเดินทางไปชมงาน BAB 2018 โซนแม่น้ำเจ้าพระยาเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเราอาจแวะเติมพลังก่อนออกชมงานศิลปะ หรือจะวางแผนให้เป็นหมุดหมายสุดท้ายของการเดินทางก็ไม่ว่ากัน ส่วนสถานที่จัดงานศิลปะที่อยู่ใกล้และสามารถเดินเท้าไปได้คือโอ.พี.เพลส ระยะทาง 800 เมตร, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ระยะทาง 950 เมตร และอาคาร อีสต์ เอเชียติก ระยะทาง 1 กิโลเมตร
เริ่มร้านแรกกันที่ ‘เจริญกรุง’ กับคาเฟ่เปิดใหม่ที่ดึงเอากลิ่นอายคลาสสิกของชุมชนเก่าที่อยู่ในความทรงจำวัยเด็กของเจ้าของร้านมาถ่ายทอดผ่านเครื่องดื่มและบรรยากาศร้าน จนเกิดเป็นคาเฟ่สไตล์จีนประยุกต์ที่มีชื่อว่า “Heijii Bangkok”
โดย Heijii Bangkok สื่อบรรยากาศความเป็นจีนร่วมสมัยทั้งภายในและภายใน ไม่ว่าจะเป็นหลังคาเก๋งจีนโบราณ ประตูบานเฟี้ยมที่เรามักห็นตามห้องแถวในชุมชนจีน อักษรจีนที่เขียนด้วยลายมือบนผนังเก่า พร้อมแฝงความหมายดีๆ ว่า ‘ขอให้โชคดี’ รวมทั้งการคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เจือกลิ่นอายจีนผสานความเป็นวินเทจ พร้อมเปิดเพดานจนทำให้อาคารพาณิชย์ขนาดหนึ่งคูหากลายเป็นคาเฟ่โปร่งโล่งที่มีสไตล์โดดเด่น
อีกหนึ่งความพิเศษของคาเฟ่แห่งนี้คือ การครีเอทเมนูสไตล์โฮมเมดมาเสิร์ฟให้ลิ้มลอง ทั้งเครื่องดื่ม ขนม และของว่างที่ปรุงสดใหม่แบบวันต่อวัน เริ่มจากเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่คงหนีไม้พ้นกาแฟ หากเป็นเครื่องดื่มเย็น ทางร้านเลือกเสิร์ฟ Cold Brew ที่สกัดเองจากเมล็ดกาแฟ House Blend ส่วนกาแฟร้อนจะเสิร์ฟในรูปแบบ Aeropress ซึ่งเมล็ดกาแฟสำหรับเมนูร้อนจะเป็นเมล็ดกาแฟ Seasonal ที่น่าสนใจ
คนชอบดื่มกาแฟดำแบบเย็นคงหนีไม่พ้น Ice Cold Brew (Black) (105 บาท) ที่ให้รสโดดเด่นด้วยเมล็ดกาแฟ House Blend ของร้าน แต่หากคุณไม่อยากดื่มกาแฟ อีกหนึ่งเมนูแนะนำของร้านคือ Hong Kong Papaya Milk (85 บาท) หรือนมมะละกอปั่นสูตรฮ่องกงที่ทางร้านปั่นแบบสด ให้รสละมุนลิ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยทางร้านจะเสิร์ฟมาในแก้ว Take Away ที่เพิ่มกิมมิกด้วยการใช้กระดาษสีน้ำตาล พร้อมสกรีนโลโก้ของร้าน
ส่วนชื่อร้าน Heijii หรือ ‘เฮยจี’ มีความหมายว่า ‘ไก่ดำ’ ซึ่งมาจากความทรงจำในวัยเด็กของเจ้าของร้านที่ครอบครัวมักตุ๋ยยาจีนไก่ดำให้ทาน จึงเลือกหยิบไก่ดำมาเป็นชื่อร้านและสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความประทับในวัยเด็ก
• Address: ซอยเจริญกรุง 43 (จุดสังเกตปากซอยมี Poste 43 Residence)
• Time: (soft opening) เวลา 09.00 – 18.00 น. ปิดวันจันทร์
• FB: www.facebook.com/HĒIJīi-Bangkok-544155406029047/
ตัวอย่างงานศิลปะที่จัดแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018
About White Café & Bistro
ร้านที่ 2 ที่เรานำเสนอนี้อยู่บนถนนเจริญกรุงและใกล้กับร้าน Heijii Bangkok ซึ่งสามารถเดินทางไปชมงานศิลป์ได้ในสถานที่เดียวกัน เพียงแต่จะเดินใกล้กว่า นั่นคือ โอ.พี.เพลส ระยะทาง 280 เมตร, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ระยะทาง 270 เมตร และอาคาร อีสต์ เอเชียติก ระยะทาง 350 เมตร
อีกหนึ่งคาเฟ่บนถนนเจริญกรุงใกล้กับโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก ที่โดดเด่นด้วยโทนสีขาวสะอาดตาให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ผสานบรรยากาศอบอุ่นจากความเป็นกันเองของบาริสต้า About White Café & Bistro แห่งนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักเหนื่อยและนั่งชิวในย่านนี้
หน้าร้านเรียบง่ายด้วยผนังกระจกใสกลมกลืนไปกับชุมชมรอบๆ แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ร้านจะพบกับ Green Wall ที่ช่วยแต่งแต้มบรรยากาศสดชื่น พร้อมด้วยที่นั่งแบบเอาท์ดอร์ ขณะที่ภายในร้านเป็นอาคารพาณิชย์หนึ่งคูหา แต่โปร่งโล่งในโทนสีขาว พร้อมเปิดรับแสงธรรมชาติ ที่สำคัญ About White Café & Bistro ไม่เพียงแต่เป็นคาเฟ่นั่งชิวให้จิบกาแฟเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นสถานที่นัดพบปะแก๊งเพื่อน เพราะที่นี่มี Board Game ให้เราคลายเครียดด้วย
ส่วนเมนูนั้น ทางร้านแนะนำ Iced Chocolate (70 บาท) เครื่องดื่มช็อกโกแลตรสเข้มข้น แต่กลมกล่อม เป็นเมนูเพิ่มพลังให้เราดื่มเพลินๆ แต่หากใครอยากได้ความสดชื่น แนะนำเป็น Iced Mixed Berry (90 บาท) มิกซ์เบอรี่ปั่นที่ให้รสหวานซ่อนเปรี้ยว เป็นเครื่องดื่มคลายร้อนที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ยิ่งเมนูนี้เป็นเมนูปั่นยิ่งเพิ่มความสดชื่นในวันอากาศร้อน อย่าลืมสั่งขนมโฮมเมดมาทานคู่กัน ซึ่งทางร้านแนะนำเป็น Chesse Cake (85 บาท) รสกลมกล่อม เป็นเมนูโฮมเมดที่ทางร้านครีเอทสูตรลับเฉพาะเป็นของตัวเอง
• Address: ถนนเจริญกรุง (ใกล้กับโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก)
• Time: วันจันทร์ – ศุกร์ 8.00 -20.00 น. และเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 20.00 น.
• FB: www.facebook.com/AboutwhiteCafeandBistro/
ตัวอย่างงานศิลปะที่จัดแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018
Vacation Bangkok
คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในในย่านเจริญรัถ – คลองสาน ซึ่งใกล้กับโรงแรมเพนนินซูล่าด้วยระยะทาง 800 เมตร โดยสามารถเดินเท้าถึงกันได้ ความพิเศษอีกข้อของการไปเยือนคาเฟ่แห่งนี้คือจะผ่าน Icon Siam ซึ่งหากใครจะแวะไปเยี่ยมชมก็ไม่ว่ากัน
คาเฟ่ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Make Everyday A Vacation” หรือ ‘ทำทุกวันให้เป็นวันหยุด’ เพื่อให้ทุกคนมองวันหยุดเป็นเรื่องใกล้ตัว ซึ่งสอดรับกับชื่อร้านว่า Vacation Bangkok จากคอนเซ็ปต์นี้เองที่ทำให้คาเฟ่แห่งนี้เลือกตกแต่งอย่างเรียบง่าย เสมือนมานั่งเล่นบ้านเพื่อนในสไตล์ Comfy Space ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางโซฟาตัวหนา มุมโต๊ะแบบ Long Table มุมนั่งเล่นเอาท์ดอร์ หรือการออกแบบตกแต่งที่เปิดพื้นที่ให้โปร่งโล่ง
ส่วนเมนูของ Vacation Bangkok มีให้เลือกทั้ง Coffee Bar เน้นเสิร์ฟเครื่องดื่มกาแฟ พ่วงด้วยเครื่องดื่มผลไม้ที่ให้ความสดชื่น เมนูอาหารสไตล์ Casual Dining ให้เราอิ่มท้องแบบเบาๆ ที่สำคัญทุกเมนูของร้านล้วนแต่เป็นเมนูโฮมเมดที่คัดสรรวัตถุดิบและครีเอทขึ้นเองจนมีความแตกต่างที่มีเอกลักษณ์
เริ่มจากเมนูเครื่องดื่มที่ทางร้านแนะนำเป็น Berry Sister (160 บาท) เมนูผลไม้ที่นำไปผสมผสานกับโยเกิร์ตจนได้รสกลมกล่อม เปรี้ยวอมหวาน นำเสนอในรูปแบบสมูทตี้ แต่หากใครอยากเฮลตี้ แนะนำอีกหนึ่งเมนู Banana Mango Orange (160 บาท) เมนูที่นำผลไม้ไปแช่แข็งจนเย็นจัด ก่อนจะนำมาปั่นรวมกัน โดยไม่เติมน้ำแข็ง ไซรัป หรือน้ำเปล่า โดยเมนูนี้ประกอบด้วยกล้วย มะม่วง และส้ม
ใครอยากได้ของว่างรองท้องเบาๆ แนะนำเป็น Kimchi Rice Ball (220 บาท) เมนูฟิวชั่น 2 สัญชาติที่รวมความอร่อยของข้าวทอดอิตาเลียนสอดไส้ด้วยกิมจิสูตรเผ็ด เติมรสชาติให้จัดจ้านด้วยซอสกิมจิ ต่อกันด้วย Caesar Salad (280 บาท) ซีซาร์สลัดที่เพิ่มความพิเศษด้วยแป้งกรอบบางห่อสลัดผัก ซึ่งภายในซ่อนความอร่อยอื่นๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นขนมปังกรอบ ไข่ต้ม มะเขือเทศ และซอสซีซาร์
• Address: ถนนเจริญรัถ
• Time: 11.00 – 22.00 น. ปิดวันจันทร์
• FB: www.facebook.com/vacationbangkok/
ตัวอย่างงานศิลปะที่จัดแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018
Ha Tien Café
‘ฮาเตียน คาเฟ่’ ตั้งอยู่ในซอยประตูนกยูง โดยคาเฟ่แห่งนี้อยู่ใกล้กับวัดโพธิ์ หนึ่งในสถานที่จัดแสดงงาน BAB 2018 ที่เพียงแค่ถนนมหาราชกั้นเท่านั้น และเพียงนั่งเรือข้ามฟากไปยังวัดอรุณก็จะได้เสพย์งานศิลป์ชิ้นอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย
คาเฟ่สไตล์แอนทีคกับลุคคูลๆ จากของเก่าสะสมที่ตั้งอยู่ในย่านท่าเตียน โดยเปลี่ยนจากบ้านหลังเก่าให้เป็นคาเฟ่นั่งชิค ให้ลูกค้าได้เสพย์ของเก่าควบคู่กับการจิบเครื่องดื่มแก้วโปรดและขนมโฮมเมด
จุดเด่นของที่นี่คือการหยิบเฟอร์นิเจอร์เก่าสะสมกว่า 10 ปีมาจัดวางอย่างลงตัว เพื่อให้ลูกค้าได้แวะเวียนมาผลัดกันชม โดยภายในร้านแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ชั้น โดยแต่ละชั้นออกแบบให้มีสไตล์ที่ต่างกัน อย่างชั้นแรกที่ประกอบด้วยเคาน์เตอร์ต้อนรับลูกค้าตกแต่งในสไตล์ชิโนโปรตุกีส ขณะที่ชั้นสองตกแต่งในบรรยากาศบ้านเก่าสไตล์รัสติกลอฟท์ที่โดดเด่นด้วยผนังปูนเปลือยและผนังไม้ในโทนสีเขียวเข้ม ส่วนชั้นสามเน้นบรรยากาศโปร่งในโทนสีขาว
เครื่องดื่มเน้นกาแฟเป็นเมนูเด่น เพียงแต่กาแฟของที่นี่จะผสมผสานผลไม้และดอกไม้จนได้รสชาติที่มีเอกลักษณ์ อย่างซิกเนเจอร์ที่ทางร้านแนะนำให้ลิ้มลอง Rose Latte (120 บาท) กาแฟที่ผสานความลงตัวของชากุหลาบ ซึ่งทางร้านจะนำใบชากุหลาบไปต้มกับนม จะได้นมกลิ่นหอม แล้วค่อยนำไปชงเป็นเครื่องดื่มแก้วนี้ หรือจะลิ้มลองเมนูกาแฟร้อนอย่าง Ma-Toom Coffee ซึ่งทางร้านนำมะตูมไปเคี่ยวจนเป็นไซรัปรสเข้มข้น เมื่อนำมาใช้ร่วมกับเมล็ดกาแฟที่คัดสรรมา ทำให้ได้กาแฟรสมะตูมกลมกล่อมนั่นเอง นอกจากนี้ที่นี่ยังเสิร์ฟเค้กโฮมเมดที่ครีเอทรสชาติให้ลงตัวกับเครื่องดื่มอีกด้วย
• Address: ซอยประตูนกยูง ถนนมหาราช
• Time: วันอังคาร – ศุกร์ เวลา 10.00 – 20.00 น.และเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 20.00 น.
• FB: www.facebook.com/hatiencafebkk/
ตัวอย่างงานศิลปะที่จัดแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018
A Pink Rabbit + Bob
คาเฟ่ร้านนี้อยู่ใกล้กับ Ha Tien Café ซึ่งเราเลือกหยิบมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ซึ่งเราสามารถแวะชมงานศิลปะที่วัดโพธิ์ ก่อนแวะมาจิบเครื่องดื่มเย็นๆ คลายร้อน รวมทั้งนั่งพักก่อนนั่งเรือข้ามฟากไปยังวัดอรุณ อีกหนึ่งสถานที่จัดงาน BAB 2018
อีกหนึ่งตัวเลือกของย่านท่าเตียนกับคาเฟ่ไซส์จิ๋ว “A Pink Rabbit + Bob” ที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศบาร์สไตล์วินเทจ พร้อมเสิร์ฟหลากความอร่อยที่ไม่จำกัดเพียงเครื่องดื่มและขนมเท่านั้น แต่ยังมีเมนูอาหารเป็นตัวเลือกให้เราฝากท้องอีกด้วย
A Pink Rabbit + Bob โดดเด่นด้วยบรรยากาศวินเทจผ่านอาคารเก่าของชุมชนแห่งนี้ ผนวกกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจที่ทางร้านคัดสรรมาตกแต่ง ยิ่งขับให้ที่นี่โดดเด่น แต่ไม่ผิดแปลกไปจากบริบทรอบๆ เติมความก๋ากั๋นผ่านไฟนีออนสีชมพูบานเย็น
ที่สำคัญคาเฟ่แห่งนี้ยังอยู่ภายใต้การดูแลของแบรนด์ It’s Happened to be Closet ดังนั้นเรื่องเมนูเครื่องดื่ม ขนม และอาหารจึงสามารถการันตีความอร่อยได้เป็นอย่างดี เริ่มจากเค้กสไตล์โฮมเมดสูตรเฉพาะของร้าน ที่มีความอร่อยที่ไม่ซ้ำใครอย่าง Custard Salted Choc (195 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ ซึ่งเป็น ‘เค้กลอนตาล’ จุดเด่นของเมนูนี้อยู่ที่การสอดไส้ลูกตาลเน้นๆ ตัดรสชาติด้วยคาราเมลและช็อกโกแลต ท็อปด้วยเมอแรงค์เนื้อนุ่ม จนกลายเป็นความกลมกล่อมที่ห้ามพลาด
อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดคือ Zebra Mascapone (175 บาท) ช็อกโกแลตหน้านิ่ม อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่เอาใจคนรักช็อกโกแลต ให้รสเข้มข้นในรสหวานกำลังดี แต่หากกลัวเลี่ยนไป แนะนำให้สั่ง Chinese Plum Frappe (120 บาท) บ๊วยจีนที่นำมาปั่นจนได้รสเปรี้ยวเจือเค็ม ตัดรสกับความหวานของเค้กอย่างลงตัว แถมยังเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อนอีกด้วย
ปิดท้ายด้วย Iced Coconut Latte Cube (165 บาท) ที่ทางร้านนำเอสเพรสโซ่และนมไปแช่ในรูปแบบน้ำแข็ง เสิร์ฟพร้อมน้ำมะพราวเย็นๆ เวลาดื่มให้เทน้ำมะพร้าวผสมลงไป ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่ยิ่งละลายยิ่งเข้มข้นนั่นเอง
• Address: ถนนมหาราช ตรงข้ามวัดโพธิ์
• Time: เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 20.00 น.
• FB: www.facebook.com/apinkrabbitandbob/
ตัวอย่างงานศิลปะที่จัดแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018
Arelomdee Cafe @Khao San
คาเฟ่แห่งนี้ เหมาะสำหรับคนที่วางแผนเดินทางจากท่าเตียนไปชมงานศิลปะ BAB 2018 ที่ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเลือกเดินทางด้วยรถยนต์และผ่านถนนข้าวสาร โดย “อาลมดี คาเฟ่” แห่งนี้อยู่ใกล้กับศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพียง 1.3 กิโลเมตร
จากคาเฟ่สุดฮิตย่านบางกรวย ไปเปิดอีกหนึ่งสาขาที่ข้าวสาร ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์บรรยากาศชิคๆ สบายๆ แต่แฝงความเก๋ไก๋ด้วยสไตล์รัสติก โดยเฉพาะผนังเก่าที่เข้ากันอย่างลงตัวกับไฟนีออนที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศคูลๆ สไตล์บาร์ ยิ่งยามเย็นยิ่งเสริมให้คาเฟ่แห่งนี้ดูมีเสน่ห์
โดยร้านมี 2 ชั้นกับบรรยากาศที่แตกต่างกัน ซึ่งชั้นแรกให้อารมณ์ความรู้สึกเสมือนสถานที่แฮงค์เอาท์ตามแบบฉบับข้าวสาร ขณะที่ชั้นสองของร้านมีบรรยากาศสบายๆ กว่า อาลมดีคาเฟ่แห่งนี้จึงเหมาะที่จะแวะไปนั่งพักจิบเครื่องดื่มยามกลางวัน หรือจะนัดแก๊งเพื่อนไปแฮงค์เอาท์ยามค่ำคืนหลังจบทริปชมงานศิลปะก็ไม่ว่ากัน
ส่วนเมนูเครื่องดื่มนั้นมีให้เลือกตั้งแต่เครื่องดื่มคลาสสิกไปจนถึงเครื่องดื่มฟิวชั่นที่ผสมผสาน 2 รสชาติที่แตกต่างให้ลงตัว เริ่มจาก Black Cocoa x Hokkaido (95 บาท) เมนูขายดีของร้านที่นำรสชาติเฉพาะของ Black Cocoa มาผสมผสานกับความหวานละมุนของไอสกรีมนมฮอกไกโด แต่หากอยากได้เครื่องดื่มดับร้อนแบบไม่ใส่นม แนะนำเป็น Melon Sprite (85 บาท) เมนูอิตาเลี่ยนโซดาที่เสิร์ฟมาในรูปแบบถัง โดยผสมไซรัปเมล่อนเข้ากับความซ่าของน้ำสไปท์
ปิดท้ายกันด้วยเมนูรองท้องเบาๆ กับ ยำหมูยอเกี้ยวกรอบ (95 บาท) ที่นำเสนอในรูปแบบขวดโหล ภายในประกอบด้วยผักสลัด หมูยอ และเกี้ยวแป้งบางกรอบ ราดด้วยน้ำยำรสกลมกล่อม เผ็ดกำลังดี เป็นเมนูทานเล่นที่ให้เราเพลิดเพลินระหว่างนั่งพัก
• Address: ถนนตะนาว ตรงข้ามร้านขนมปังบางลำภูเจ้าดัง
• Time: เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 23.00 น.
• FB: www.facebook.com/arelomdeecafe/
ตัวอย่างงานศิลปะที่จัดแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018
เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนา เล่ 2018 (Bangkok Art Biennale 2018) จะจัดระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม 2561 ไปจนถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ณ สถานที่สำคัญ 20 แห่งในกรุงเทพมหานคร
Story: Taliw
Photo: Sroisuwan.T และ Wara Suttiwan