ใครก็อยากมีผมสลวยสวยทุกวัน แต่เคยสงสัยมั้ยว่าเส้นผมที่เราดูแลอยู่นั้นใช้วิธีถูกหรือดีพอรึยัง โดยเฉพาะสาวผมบางที่จะคิดจะเลือกผลิตภัณฑ์อะไรมาใช้ก็กังวลกลัวผมจะหลุดร่วงจนหมด วันนี้ FavForward จะพาไปเช็คข้อปฏิบัติที่คุณคิดทำผิดกับผมมาตลอด
สาวผมบางค่อนข้างจะมีเส้นผมเปราะบางและง่ายต่อการพันยุ่งเหยิง แน่ใจว่าคุณเลือกประเภทของแชมพูถูกต้องแล้ว ควรใช้แชมพูประเภทแคลริฟายอิ้ง แชมพู (Clarifying shampoo) ซึ่งมีคุณสมบัติชะล้างสารเคมีที่ตกค้างอยู่ในเส้นผมออกไปอย่างหมดจด ทำให้เส้นผมและหนังศรีษะสดชื่น แต่หากใช้บ่อยเกินยาสระผมประเภทนี้ก็สามารถทำลายความชุ่มชื้นของเส้นผมและหนังศรีษะได้เช่นกัน ผู้ที่ใช้ยาสระผมประเภทนี้จึงควรจำกัดจำนวนการใช้แต่พอเหมาะ หรือใช้เฉพาะเมื่อรู้สึกว่าเส้นผมเหนอะหนะ และหนักไปด้วยสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์แต่งผมจริง ๆ รวมถึงประเภท Bodifying Shampoo จะช่วยดูแลเส้นผมบางของคุณมากขึ้น ไม่ควรใช้แชมพูที่ให้คุณสมบัติเพิ่มวอลลุ่มกับผมที่เปราะบางเพราะมีผลต่อหนังศีรษะมันลื่น แต่ยังทำให้เส้นผมแห้งแตกเสียเช่นเคย
การสระผมมากเกินไม่ได้ช่วยให้ผมคุณสุขภาพดีขึ้น เพราะจะยิ่งผลิตน้ำมันบนหนังศีรษะ ทำให้โคนผมดูมันลื่นกว่าเดิม ควรสระผมอย่างน้อย 2-3 วันครั้งแล้วใส่มูสหรือเจลบำรุงเส้นผมหลังสระก่อนเป่าผมพอแห้งเล็กน้อย ในกรณีที่บางคนหนังศีรษะมันเร็ว ลองไปหา Dry Shampoo พกไว้สำหรับยามฉุกเฉิน หรือลดความมันของหนังศีรษะลงได้
การไว้ผมยาวจนถึงกลางหลังอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักสำหรับสาวผมบาง ควรไว้ผมยาวถึงแค่ประมาณประบ่า เพื่อง่ายต่อการดูแลและดูมีสุขภาพดี นอกจากนี้ยังส่งผลต่อกรอบหน้า การไว้ผมสั้นพอดีช่วยทำให้ดูอ่อนเยาว์และพรางหน้าอวบๆ ลดลงได้
ใครว่าการทำสีผมจะดูแย่เสมอไป ถ้าคุณไม่ฟอกสีหรือทำไฮไลท์รุนแรง การย้อมสีผมมีประโยชน์อยู่เหมือนกันนะ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้ผมมีแค่สีเดียวไปตลอด ลองปรึกษากับช่างผมในการเลือกโทนสีหรือทำไฮไลต์ให้เส้นผมดูมีมิติ ช่วยเพิ่มความหนาขึ้นได้
การม้วนผมด้วยเครื่องม้วนที่มีความร้อนถึง 450 องศาไม่ได้แปลว่าคุณจะทำไม่ได้ แต่ให้ใช้ไดร์เป่าผมที่ความเร็วต่ำกับการปรับองศาให้สูงพอเหมาะ ผมคุณก็แห้งได้เช่นกันในขณะที่ไม่ถึงกับต้องใช้ลมเป่าระดับพายุทอร์นาโดเพื่อเร่งความเร็วให้แห้ง ส่วนเครื่องม้วนผมตั้งไว้ที่ประมาณ 350 องศา และต้องแน่ใจว่าใส่ผลิตภัณฑ์บำรุงผมก่อนทำความร้อนเสมอ เพื่อปกป้องเส้นผมให้อยู่ในสภาพดีทั้งก่อนและหลังไดร์