Nike x OFF-WHITE ปัดฝุ่นรองเท้าไนกี้ 10 รุ่นในตำนาน “The Ten” Collection

Nike x OFF-WHITE ปัดฝุ่นรองเท้าไนกี้ 10 รุ่นในตำนาน “The Ten” Collection

ไนกี้ ร่วมกับ นักออกแบบเวอร์จิล อา-เบลาะ (Virgil Abloh) เสนอโครงการออกแบบรองเท้าใหม่ชื่อ “เดอะเท็น – The Ten” เพื่อออกแบบรองเท้า 10 รุ่นในตำนาน ของไนกี้ที่มีชื่อเสียงขึ้นใหม่

Nike x OFF-WHITE รองเท้าทั้ง 10 รุ่นที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษในโครงการเดอะเท็นนี้เป็นรองเท้าที่ออกแบบขึ้นตามแนวคิดหลัก 2 แบบ ได้แก่แนวคิด “REVEALING” สำหรับรองเท้าที่ออกแบบให้ดูเรียบง่ายและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ด้วยมือให้ดูมีรูปลักษณ์ที่ดูเปิดเผย รองเท้าในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย

Nike x OFF-WHITE

ไนกี้แอร์จอร์แดน 1 (Air Jordan I)

Nike x OFF-WHITE

 ไนกี้แอร์แมกซ์ 90 (Nike Air Max 90)

ไนกี้แอร์เพรสโต้ (Nike Air Presto)

ไนกี้แอร์เวเปอร์แมกซ์ (Nike Air VaporMax)

 และไนกี้เบลเซอร์มิด (Nike Blazer Mid)

รองเท้ากลุ่ม “REVEALING”

ผลงานสร้างสรรค์ในโครงการเดอะเท็นนี้เสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว โดยรองเท้าทั้ง 10 รุ่นพัฒนาเสร็จสมบูรณ์พร้อมออกวางตลาดภายในเวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น เนื่องจากอา-เบลาะเป็นนักออกแบบที่คิดและลงมือทำงานอย่างรวดเร็ว เข้ากันได้ดีกับวัฒนธรรมการทำงานของไนกี้ ในระยะแรกทีมงานทุกคนต้องออกแบบรองเท้าในกลุ่ม REVEALING

อันได้แก่ ไนกี้แอร์จอร์แดน 1 ไนกี้แอร์แมกซ์ 90 ไนกี้แอร์เพรสโต้ ไนกี้แอร์เวเปอร์แมกซ์ และไนกี้เบลเซอร์มิดใหม่ตามกำหนดการทำงานที่ค่อนข้างกระชั้นชิด “สิ่งที่เราตัดสินใจจะทำส่วนใหญ่มักจะเป็นแนวคิดที่เราเสนอกันในช่วง 3 ชั่วโมงแรกของการระดมสมอง จากนั้นเราจะใช้เวลา 2 ถึง 3 วันเพื่อสร้างต้นแบบต่างๆ” อา-เบลาะเล่า

อา-เบลาะออกแบบรองเท้ารุ่นแอร์ฟอร์ซ 1 โดยใช้กระบวนเดียวกับที่เขาทำตอนมาเยี่ยมสำนักงานใหญ่ของไนกี้เป็นครั้งแรก คือใช้มีดสำหรับงานศิลปะตัดลิ้นรองเท้าเพื่อเปิดเผยโฟมที่ซ่อนอยู่ (และเอาตราสัญลักษณ์ของไนกี้บนลิ้นรองเท้าออกไป) ย้ายตราสัญลักษณ์ของไนกี้ด้านข้างรองเท้าไปอีกจุดหนึ่ง (และขยายขนาดของมันด้วย) และเติมแถบสีส้มลงไปตามจุดต่างๆ ตอดตัวรองเท้าเพื่อเพิ่มสีสัน (รองเท้าแต่ละคู่จะมีแถบสีส้มในจุดที่ไม่ซ้ำกัน) การสะท้อนลักษณะที่ “เปิดเผย” ตามชื่อของกลุ่มรองเท้าที่ทีมงานเลือกใช้นั้นสะท้อนอยู่ในการตกแต่งรองเท้าด้วยข้อความในจุดต่างๆ ที่แตกต่างกัน

เช่น การใช้คำว่า “AIR” ที่ด้านข้างรองเท้าแอร์เวเปอร์แมกซ์ แอร์จอร์แดน 1 และแอร์เพรสโต้ (เพื่อสื่อถึงนวัตกรรมไนกี้แอร์) และคำว่า “SHOELESS” บนเชือกผูกรองเท้า

รองเท้ารุ่นต่างๆ ในกลุ่มนี้ดูซับซ้อนตามที่คุณอา-เบลาะต้องการ นั่นคือการเปิดด้านในของรองเท้าออกมาให้ผู้คนได้ชื่นชมนวัตกรรมที่ซ่อนอยู่ เขาอธิบายว่า “คุณสามารถซื้อรองเท้ารุ่นพิเศษนี้และชื่นชมงานสร้างสรรค์ของเราได้ที่ร้าน แต่ถ้าคุณมีรองเท้ารุ่นเหล่านี้อยู่แล้ว คุณก็สามารถไปซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นจากร้านขายเครื่องมือช่างและดัดแปลงรองเท้าของคุณตามแบบของเราได้”

 

อีกแนวคิดหนึ่งคือแนวคิด “GHOSTING” นั้นนำเสนอหน้ารองเท้าแบบโปร่งแสงเสมือนว่าผู้เป็นเจ้าของได้เห็นทุกรายละเอียดของรองเท้า รองเท้ารุ่นนี้ยังมีลักษณะเป็นหนึ่งเดียวกันจากการใช้วัสดุที่คล้ายคลึงกันเพื่อผลิตรองเท้าทุกรุ่นในกลุ่มนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย

คอนเวิร์ส ชัค เทย์เลอร์ (Converse Chuck Taylor)

ไนกี้ซูมฟลายเอสพี (Nike Zoom Fly SP)

ไนกี้แอร์ฟอร์ซ 1 โลว์ (Nike Air Force 1 Low)

ไนกี้รีแอกไฮเปอร์ดังก์ 2017 (Nike React Hyperdunk 2017)

ไนกี้แอร์แมกซ์ 97 (Nike Air Max 97)

รองเท้ากลุ่ม “GHOSTING”

งานออกแบบรองเท้าไนกี้แอร์เวเปอร์แมกซ์ของอา-เบลาะนั้นเป็นความท้าทายที่สำคัญ เพราะรองเท้ารุ่นนี้ยังไม่ออกวางจำหน่ายเลย รองเท้าในโครงการเดอะเท็นที่ยังไม่เคยวางจำหน่ายมาก่อนอีก 2 รุ่นคือรองเท้าไนกี้ ซูมฟลายเอสพีและรองเท้าไนกี้รีแอ็กไฮเปอร์ดังก์ 2017 ซึ่งรองเท้าทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นงานออกแบบที่ท้าทายทีมงานมากเช่นกัน อา-เบลาะได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากนวัตกรรมชั้นวัสดุนุ่มสำหรับรองเท้าวิ่งไนกี้ซูมเวเปอร์ฟลาย อีลีท ที่ออกแบบสำหรับกิจกรรม Breaking2 และรองเท้าบาสเกตบอลรีแอ็กไฮเปอร์ดังก์ โดยอา-เบลาะยกระดับนวัตกรรมเหล่านี้ไปอีกขั้นด้วยแนวคิดที่เขาตั้งชื่อว่า “GHOSTING” โดยใช้หน้ารองเท้าแบบโปร่งแสงเป็นจุดเด่น คุณอา-เบลาะปรารถนาให้รองเท้าทั้ง 5 รุ่นเป็นเครื่องบอกเล่าประวัติศาสตร์ 94 ปีของรองเท้าบาสเกตบอลไนกี้และคอนเวิร์ส รวมถึงรองเท้าวิ่งไนกี้โดยใช้วัสดุที่เรียบง่ายและมีลักษณะกึ่งโปร่งแสงเป็นสื่อกลางที่เชื่อมโยงรองเท้าทั้ง 5 รุ่นเข้าด้วยกัน

รองเท้ากลุ่ม “GHOSTING” มีรองเท้าบาสเกตบอล 2 รุ่นที่ถือกำเนิดก่อนรองเท้าตระกูลไฮเปอร์ดังก์ (คอนเวิร์ส ชัค เทย์เลอร์ และไนกี้แอร์ฟอร์ซ 1 โลว์)  และรองเท้าวิ่งอีก 1 รุ่นที่ถือกำเนิดก่อนรองเท้าเวเปอร์ฟลาย อีลีท (แอร์แมกซ์ 97)

กระบวนการออกแบบรองเท้ารุ่นตำนานต่างๆ ของคอนเวิร์ส บริษัทที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1923 และไนกี้ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1972 นั้นมุ่งเน้นลักษณะที่ดูเปิดเผย สะท้อนถึงความยั่งยืนเหนือกาลเวลาของรองเท้ารุ่นต่างๆ ที่ช่วยสร้างนิยามใหม่ให้กับการกีฬาและวัฒนธรรมแฟชั่นรองเท้ากีฬา รองเท้าทั้ง 10 รุ่นนี้เหนือกาลเวลา และเป็นรากฐานสำคัญของทั้งงานออกแบบรองเท้าและงานออกแบบทั้งมวล

 

เวอร์จิล อา-เบลาะและไนกี้ร่วมงานมายาวนานก่อนหน้าที่นักออกแบบชื่อก้องท่านนี้จะมีโอกาสมาเยือนสำนักงานใหญ่ของไนกี้เป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคมปี 2016 ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโครงการสร้างสรรค์ใหม่นี้ อันที่จริงชายหนุ่มผู้เคยใช้ชีวิตวัยรุ่นกับเพื่อนๆ ในเมืองร็อกฟอร์ด รัฐอิลลินอยส์นี้ เคยร่างภาพรองเท้าในฝันของพวกเขาและส่งไปรษณีย์มายังที่ทำการของไนกี้ “ตอนที่รองเท้าแอร์จอร์แดนวางจำหน่าย เรารู้สึกทึ่งมาก ไมเคิล จอร์แดนเป็นบุคคลที่เหนือกว่าใครทั้งมวล เขาเป็นเสมือนซูเปอร์แมนสำหรับผม” อา-เบลาะ นักออกแบบวัย 36 ที่ทำงานในเมืองมิลานและชิคาโก้เป็นส่วนใหญ่เล่า “ปรัชญาการออกแบบเรื่องราวเบื้องหลังของผลงานต่างๆ ที่ผมทำทั้งหมดมาจากสิ่งต่างๆ ในทศวรรษ 1990 ทั้งสิ้น”

อา-เบลาะ ซึ่งปัจจุบันเป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ ดีเจ ดีไซเนอร์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ออฟ-ไวท์ (OFF-WHITE) เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการผสมผสานกระบวนการสร้างสรรค์หลากรูปแบบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างนิยามใหม่ของแฟชั่นและการออกแบบ อีกทั้งยังมีการผสานอารมณ์ขันและลูกเล่นแบบงานแฮนด์เมดลงไปในผลงานด้วย เขาเล่าว่าเขา “เริ่มต้นเรียนรู้วิชาออกแบบ” จากรองเท้ากีฬา ปกอัลบั้มเพลงร็อคและฮิป-ฮอป และการวาดกราฟิตี้ ต่อมาเขาจึงนำประสบการณ์เหล่านั้นมาผสมผสานกับวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์

“ตอนที่ผมไปถึงสำนักงานใหญ่ของไนกี้ที่เมืองบีเวอร์ตันเป็นครั้งแรก ผมก็รู้ทันทีว่าผมอยากทำงานสักอย่างร่วมกับไนกี้

ผมไม่ได้ทำงานหนักมาตลอดเพียงเพื่อมาพูดคุยกับทีมงานของไนกี้อย่างเดียว” อา-เบลาะเล่า ในการมาเยือนสำนักงานใหญ่ของไนกี้ครั้งนั้น เขาแสดงฝีมือด้วยการสร้างสรรค์รองเท้าแอร์ฟอร์ซ 1 โลว์สีดำทริปเปิ้ลแบล็กใหม่โดยใช้เพียงมีดสำหรับงานศิลปะของเอกซ์-แอกโต้ (X-ACTO) และปากกาสี ซึ่งต่อมาพนักงานของเขาได้ใส่รองเท้ารุ่นพิเศษนี้ในงานนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องเรือนของออฟ-ไวท์ในงานดีไซน์ไมอามี่ซึ่งจัดขึ้นในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน

ในที่สุด ไนกี้ตระหนักถึงเรื่องราวที่น่าสนใจในการปรับเปลี่ยนรองเท้ารุ่นดังของตนด้วยกระบวนการออกแบบใหม่ รวมถึงความตั้งใจของอา-เบลาะที่ต้องการทำความฝันของเขาให้เป็นจริง และนั่นก่อให้เกิดโครงการเดอะเท็น ซึ่งไนกี้และอา-เบลาะจะร่วมกันสร้างสรรค์รองเท้าที่โด่งดังของไนกี้จำนวน 10 รุ่นขึ้นมาใหม่

ในโอกาสนี้ อา-เบลาะอธิบายว่า “สิ่งที่เรากำลังทำมันไม่ใช่การออกแบบรองเท้ากีฬา และมันเป็นมากกว่าการนำเสนอวัฒนธรรมการออกแบบใหม่ แต่มันคือการสร้างสรรค์งานศิลปะบนรองเท้ากีฬา รองเท้าทั้ง 10 รุ่นนี้เป็นรองเท้าที่ทลายขีดจำกัดทั้งด้านการออกแบบและด้านคุณสมบัติทางการกีฬา ผมคิดว่ารองเท้าเหล่านี้อยู่ในระดับเดียวกับรูปปั้นเดวิดหรือภาพโมนา ลิซ่า คุณอาจจะไม่เห็นด้วย แต่รองเท้าเหล่านี้มีสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากแฝงอยู่และนั่นคือข้อสำคัญที่สุด”

ทั้งนี้ ไนกี้จะวางจำหน่ายรองเท้ากลุ่ม REVEALING ทั้ง 5 รุ่น คือไนกี้แอร์จอร์แดน 1 ไนกี้แอร์แมกซ์ 90 ไนกี้แอร์เพรสโต้

ไนกี้แอร์เวเปอร์แมกซ์ และไนกี้เบลเซอร์ก่อนที่ร้านไนกี้แล็บสาขานครนิวยอร์ก (9-13 กันยายน) กรุงลอนดอน

(18-22 กันยายน) นครมิลาน (21-25 กันยายน) และกรุงปารีส (26-30 กันยายน)

รองเท้าทั้ง 10 รุ่นจะวางจำหน่ายพร้อมกันอีกครั้งทั่วโลกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปที่ร้านไนกี้แล็บและร้านค้าที่ได้รับการคัดสรร

keyboard_arrow_up