ในปี 2017 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นปีของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์คาร์ส (Rolls-Royce Motor Cars) ก็ไม่ผิดนัก โดยเฉพาะความสำเร็จด้านการผลิตรถยนต์สั่งพิเศษของ Home of Rolls-Royce ที่ได้ยกระดับมาตรฐานของรถยนต์สั่งผลิต จนได้รถยนต์คันหรูระดับโลกที่มีเอกลักษณ์ เราจึงมี 7 รถยนต์คันพิเศษซึ่งเป็น Custom Cars เจ๋งๆ จาก Rolls-Royce มาฝากกัน
• สเวพเทล (Sweptail)
สเวพเทลเปิดตัวในปี ค.ศ. 2017 เป็นสุดยอดยานยนต์ที่มาพร้อมแฟชั่นระดับสูง โดยมีแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ในช่วงทศวรรษที่ 1920 – 1930 ขณะเดียวกันสเวพเทลก็เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความสำเร็จ เป็นรถยนต์ที่บ่งบอกถึงความสำเร็จในการทำความปรารถนาของลูกค้าให้กลายเป็นความจริง ซึ่งโจทย์ที่ลูกค้าให้มาคือการสร้างรถยนต์คูเป้แบบ 2 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยหลังคากระจกขนาดใหญ่รอบด้านแบบพานอรามิก ทำให้ผลงานยานยนต์ระดับมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ได้ถือกำเนิดขึ้น
ด้วยภาพลักษณ์ที่ภูมิฐาน สามารถมองเห็นได้จากรูปทรงตะแกรงหน้ารถที่ผลิตจากอลูมิเนียมแข็ง ส่วนด้านข้างตัวรถถูกออกแบบให้มีความสง่างาม โดยมีส่วนท้ายที่เรียวเล็กลงซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเรือยอชท์ รูปทรงที่ลู่ลมด้านท้ายได้รับการตกแต่งด้วยตัวเลข08 ที่ทำจากแท่งอลูมิเนียมและขัดเงาโดยช่างฝีมือเพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร โดยเป็นหมายเลขทะเบียนของยานยนต์คันนี้ด้วย ทั้งหมดนี้คือการนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของยานยนต์โรลส์-รอยซ์คูเป้แห่งยุคนี้
• นิว แฟนธอม (New Phantom)
นิว โรลส์-รอยซ์แฟนธอม หรือชื่อเล่นว่า นิว แฟนธอม (New Phantom) เปิดตัวในปี ค.ศ. 2017 พร้อมกับเสียงชื่นชมจากทั่วโลก ภายใต้แนวคิด“The Gallery – ห้องแสดงผลงานเคลื่อนที่” ซึ่งเกิดจากการตีความภาพลักษณ์ความร่วมสมัยและความหรูหราในส่วนแผงหน้าปัดและแผงควบคุมของรถยนต์ใหม่ทั้งหมด เปรียบเสมือนหัวใจแห่งสุนทรียศาสตร์ของยานยนต์รุ่นนี้
ทุกองค์ประกอบของรถยนต์ถูกห่อหุ้มด้วยแผงกระจกที่ครอบคลุมพื้นที่แผงหน้าปัดทั้งหมด ทำให้นักออกแบบนำเสนอผลงานศิลปะภายในห้องโดยสารได้อย่างโดดเด่น ขณะที่แนวคิด The Gallery คือแนวคิดใหม่ที่ช่วยยกระดับวิสัยทัศน์ของรถยนต์สั่งผลิตที่ไร้คู่แข่งและความเชี่ยวชาญในการใช้วัสดุและทักษะงานศิลป์ของโรลส์-รอยซ์ให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก
• ดอว์น (Dawn) และ เรธ (Wraith) ณ ปอร์โต แชร์โว
รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ โรลส์-รอยซ์ ซัมเมอร์ สตูดิโอ ในเมืองปอร์โตแชร์โว แคว้นซาร์ดิเนียของอิตาลีในปี ค.ศ. 2017 โดยทั้งบีสโป๊ค ดอว์น ดรอพเฮด คูเป้ (Bespoke Dawn Drophead Coupé) และ เรธ แบล็คแบดจ์ (Wraith Black Badge) เป็นรถยนต์ที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของเกาะอันน่าหลงใหลแห่งนี้ได้อย่างชัดเจน
ดอว์นนำรูปทรงที่สื่อถึงทะเลมาใช้แสดงอารมณ์ของการปล่อยชีวิตแบบสบายๆ ตามไลฟ์สไตล์ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน โดยนำสัญลักษณ์ของเมืองปอร์โตแชร์โวมาใช้ตกแต่งด้วยแซฟไฟร์และหอยมุก ฝังไว้บริเวณด้านหน้าของตัวรถ ขณะที่โทนสีน้ำเงินเข้ม (Navy blue) และขาวอาร์ติก (Arctic white) ของตัวรถ ช่วยขับเน้นโทนสีของพื้นและห้องโดยสารที่ตกแต่งด้วยไม้สักให้สวยงามลงตัวมากยิ่งขึ้น
ส่วนปอร์โตแชร์โว เรธ ถูกออกแบบให้สื่อถึงบรรยากาศยามค่ำคืนที่ครึกครื้นสนุกสนานของแคว้นซาร์ดิเนีย ด้านนอกของตัวรถโดดเด่นด้วยเฉดสีไดมอนด์แบล็ก (Diamond Black) แบบทูโทน พร้อมเคลือบสีทั้งแบบผิวมันวาวและผิวด้านอย่างสอดรับกัน แผงด้านในประตูรถหุ้มด้วยหนังถักสีดำขลับ ซึ่งช่วยขับเอกลักษณ์ที่ภูมิฐานและซับซ้อนของ เรธ แบล็คแบดจ์ ให้เด่นชัดภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน
• โกสต์ (Ghost)
บีสโป๊ค สปิริต ออฟ “คัลลิโอกราฟี” โกสต์ (Bespoke ‘Spirit of Calligraphy’ Ghost) เป็นรถยนต์สั่งผลิตเพียงคันเดียว ซึ่งเผยโฉมครั้งแรกที่เมืองดูไบในปี ค.ศ. 2017 โดยได้แรงบันดาลใจจาก “Spirit of Calligraphy” ศิลปะอักษรอาหรับ/อักษรอารบิกโบราณ ด้วยการนำอักษรมาสร้างสรรค์เป็นรูปทรงที่มีลักษณะพิเศษ โดยเฉพาะอักษรภาษาอารบิกจากศิลปินชื่อดัง กาเล็ด อัล ซาอิ ที่ถูกนำมาออกแบบเป็นรูปสัญลักษณ์สปิริตออฟเอ็กสตาซี (Spirit of Ecstasy) นำเสนอในรูปแบบการฝังเงินบริเวณแผงควบคุมกลาง ปักเป็นลายบนเบาะหลังกลางซึ่งเป็นจุดรวมสายตาที่ชัดเจน ท่ามกลางการตกแต่งด้วยหนังโทนสีเทอร์ควอยซ์ดำ และขาวของห้องโดยสาร
• เอเลแกนซ์ (Elegance)
โกสต์ เอเลแกนซ์ (Ghost Elegance) ถูกสั่งผลิตโดยนักสะสมรถยนต์คนหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งยานยนต์ที่ยกระดับมาตรฐานยานยนต์สั่งผลิต เนื่องจากเป็นรถยนต์โรลส์-รอยซ์คันแรกที่มีการทำสีที่ใช้เพชรเป็นส่วนประกอบ
มอบความโดดเด่นด้านข้างตัวรถด้วยเส้นตัดขอบตัวถังคู่ในโทนสีแดงมูเจลโล (Mugello Red) และดำ สอดรับกับเบาะหนังสีดำภายในห้องโดยสารที่เน้นรูปทรงด้วยเฉดสีแดงมูเจลโล ขณะที่แผงหน้าปัดกรุด้วยวีเนียร์สีทูดอร์โอ๊ก (Tudor Oak) แบบไม่ขัดมัน ตกแต่งด้วยการเย็บแบบด้ายเดี่ยวสีแดงมูเจลโลตามขอบบนของแผงหน้าปัด และประดับด้วยนาฬิกาสั่งทำพิเศษโดยเฉพาะ
• ดอว์น อิน ฟุกเซีย (Dawn in Fuxia)
ยานยนต์สั่งผลิตคันนี้เป็นของนักสะสมรถยนต์ชาวอเมริกัน ไมเคิล ฟุกซ์ เรื่องราวของสั่งผลิตรถยนต์คันนี้เริ่มจากไมเคิลเดินทางไปท่องเที่ยวที่เพ็บเบิลบีชในปี ค.ศ. 2016 เขาได้รวบรวมกลีบดอกฟูเชียไว้เป็นจำนวนมาก และท้าทายให้ทีมงานออกแบบรถยนต์สั่งผลิตที่กู้ดวูด พร้อมสร้างสรรค์เฉดสีใหม่ที่สะดุดตาให้แก่รถยนต์รุ่นดอว์น
หลังจากนั้นภายในงานชุมนุมยานยนต์เดอะ เคล ในแคลิฟอร์เนีย เฉดสี “ดอว์น อิน ฟุกเซีย”จึงเผยโฉม และกลายเป็นส่วนหนึ่งในคอลเลกชันสีของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ แมถยังสงวนสำหรับ ไมเคิล ฟุกซ์คนเดียวเท่านั้น
รถยนต์เฉดสีล่าสุดนี้นับเป็นรถยนต์รุ่นดอว์นคันที่ 2 หลังจากที่ไมเคิลเคยครอบครองคันแรกที่ผลิตในเฉดสี “Fux Blue” เพียงคันเดียวในปี ค.ศ. 2016 ห้องโดยสารของ ดอว์น อิน ฟุกเซีย จึงถูกตกแต่งด้วยหนังโทนสีขาวอาร์ติก (Arctic White) ที่สว่างสดใส เพื่อรำลึกถึงรถยนต์ดอว์นคันแรกของเขา
• ดอว์น บี50 (Dawn B50)
ในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปี โรงแรมบิบลอสในแซงต์-โตรเปซ์ เมื่อปี ค.ศ. 2017 โรลส์-รอยซ์มอเตอร์คาร์สได้เปิดตัว “ดอว์นบี 50” สุดยอดรถยนต์สั่งผลิตพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากความอบอุ่นและสีสันของชายฝั่งทะเลโกตดาซูร์
โรงแรมบิบลอสมีคำสั่งผลิตยานยนต์ ดอว์นบี 50 ให้เป็นเสมือน “อัญมณีแห่งแซงต์-โตรเปซ์” ในด้านยานยนต์ โดยเฉดสีด้านนอกตัวรถใช้ 2 โทนสีหลัก ซึ่งรูปแบบการผสมโทนสีที่สดใส คิดค้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบครั้งสำคัญของโรงแรมแห่งนี้โดยเฉพาะ ส่วนธีมการตกแต่งห้องโดยสารได้แรงบันดาลใจจากดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงแห่งเมดิเตอร์เรเนียน มอบความสดใสด้วยโทนส้มอมแดง (Tangerine) ช่วยขับเน้นแผงหน้าปัดและเสริมความโดดเด่นของรอยเย็บบนเบาะหนังและแผ่นรองพื้นของห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี
• ซิลเวอร์ ดอว์น ดรอพเฮด คูเป้ (Silver Dawn Drophead Coupé)
ซิลเวอร์ ดอว์น ดรอพเฮด คูเป้ (Silver Dawn Drophead Coupé) รุ่นปี 1952 เป็นรถยนต์รุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อระลึกถึงซิลเวอร์ ดอว์น (Silver Dawn) จัดแสดงอยู่ ณ Home of Rolls-Royce และเป็นรถยนต์ที่หาชมยาก เพราะผลิตขึ้นเพียงไม่กี่คันสำหรับลูกค้าในแคนาดาในช่วงเวลานั้น ต่อมาในปี ค.ศ. 2017 ก็มีคำสั่งผลิตยานยนต์ดอว์นคันใหม่ ทำให้เกิดการรำลึกถึงรถยนต์รุ่นพิเศษนี้อีกครั้ง ซึ่งตรงกับการครบรอบปีที่ 65 ของรถยนต์คันนี้อีกด้วย
ด้านนอกของดอว์นรุ่นใหม่สะดุดตาด้วยเฉดสีแบบทูโทนของมิดไนท์แซฟไฟร์ (Midnight Sapphire) และจูบิลีซิลเวอร์ (Jubilee Silver) เพื่อให้ได้ความสวยเทียบเท่ากับรุ่นต้นแบบในปี ค.ศ. 1952 พร้อมด้วยตกแต่งข้างตัวถังในรูปแบบเฉพาะ ซึ่งถือเป็นการแหวกกฎครั้งแรกของโรลส์-รอยซ์ ส่วนภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังสีเทา (Selby Grey) และน้ำเงินเข้ม (Navy) ซึ่งสลับกับการกรุวีเนียร์สีวอลนัตเบอร์ (Walnut Burr) พร้อมทั้งประดับด้วยนาฬิกาสั่งทำเฉพาะที่ประทับตัวหนังสือ “1952” และฝังลายSpirit of Ecstasy ลงในวีเนียร์
• บีสโป๊ค คอลเลกชัน ฟอร์ โคเรีย (Bespoke Collection for Korea) และ เรธ พูซาน อิดิชั่น (Wraith Busan Edition)
บีสโป๊ค คอลเลกชัน ฟอร์ โคเรีย (Bespoke Collection for Korea) เปิดตัวที่สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษในกรุงโซล ซึ่งนำเสนอสุนทรียภาพของมรดกตกทอดเกาหลีใต้ ผสมผสานเข้ากับภาพลักษณ์ร่วมสมัยอย่างลงตัว โดยรถยนต์รุ่น โกสต์ โซล อิดิชั่น (Ghost Seoul Edition) สะท้อนถึงสีสันอันงดงามของธงชาติเกาหลีใต้ ตัวรถจึงโดดเด่นด้วยสีขาวอันดาลูเชียน (Andalusian White) ผสานกับสีน้ำเงินโคบัลโต (Cobalto Blue) และแดงมูเจลโล (Mugello Red) พร้อมกับดีไซน์ที่สื่อถึงหอคอยนัมซัน โซล ทาวเวอร์ ส่วนห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังสีดำให้ตัดกับสายคาดสีขาวอาร์ติก (Arctic White) อย่างงดงามพร้อมเสริมความโดดเด่นด้วยรอยตะเข็บและเส้นขอบสีน้ำเงินและแดงอย่างหรูหรา
ส่วนรุ่น “เรธ พูซาน อิดิชั่น (Wraith Busan Edition)” ได้แรงบันดาลใจจากสีสันของเมืองริมทะเล ตัวรถด้านนอกทำสีในแบบทูโทนด้วยสีน้ำเงินรอยัลบลู (Royal Blue) และจูบิลีซิลเวอร์ (Jubilee Silver) ชวนให้นึกถึงประกายระยิบระยับของท้องทะเลโดยรอบ ส่วนประดับโครงเสาท้ายรถสะท้อนถึงงานตาข่ายไม้อันละเอียดอ่อนของประตูแบบ “ฮานอก” โบราณของเกาหลี พร้อมกับนำไปประยุกต์ใช้ในการตกแต่งห้องโดยสารไปจนถึงส่วนแผงหน้าปัดอีกด้วย ตัดขอบตัวถังรถช่วงบนด้วยแนวเส้นสีชมพู (Blushing Pink) และยังนำสีชมพูนี้ไปใช้กับรอยเย็บ แผงอุปกรณ์ และสัญลักษณ์อักษรย่อ RR บนที่พิงศีรษะของเบาะนั่งซึ่งบุด้วยหนังสีเทา (Selby Grey) และน้ำเงินโคบัลโต (Cobalto Blue)