“ผมเพียงแต่หวังว่าพวกเราจะไม่ลืมว่าทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นมาจากหนูตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง”
วลีสั้นๆ ที่แฝงไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้งของ ‘วอลท์ ดีสนีย์ (Walt Disney)’ ที่ได้กล่าวไว้ในรายการ What is Disneyland ในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2497 ถึงแม้จะผ่านมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวลีสุดคลาสสิกนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และได้สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้แก่แฟนๆ ทั่วโลก ด้วยความหมายที่คล้ายจะสื่อถึงคนทั่วไป และตัวของเขาเองว่าถึงแม้ในปัจจุบันจะประสบความสำเร็จมากเพียงใด ก็จะไม่ลืมที่จะย้ำเตือนตัวเองไว้เสมอว่ากว่าจะเดินทางมาถึงความยิ่งใหญ่ในจุดนี้ได้เขาต้องผ่าน ‘การเริ่มต้น’ ที่ไม่ได้ปูด้วยกลีบกุหลาบมาก่อน ซึ่ง ‘หนู’ ตัวเล็กๆ ตัวนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคาแรกเตอร์หูกลม ใส่กางเกงสีแดงสะดุดตาอย่าง ‘มิคกี้ เม้าส์ (Mickey Mouse)’ ตัวละครที่โลดแล่นอยู่ในใจของคนทั่วโลกมานานหลายทศวรรษนั่นเอง
โดยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นวันครบรอบของ ‘สตีมโบท วิลลี่ (Steamboat Willie)’ การ์ตูนสั้นเรื่องแรกที่ประสบความสำเร็จแบบถล่มทลายของมิคกี้ เม้าส์ได้ออกฉายเป็นวันแรกแล้ว ยังถือเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 90 ของเพื่อนตัวจิ๋วของเราอีกด้วย!!
และเพราะมิคกี้ เม้าส์เป็นของทุกคน ไม่ว่าจะอายุเท่าไร ทำอาชีพใด หรือหน้าตาเป็นอย่างไรก็ตาม แฟนๆ ของเขาจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่เด็กน้อยตัวเล็กๆ เท่านั้น หลายคนมีความผูกพันกับมิคกี้ เม้าส์มาตั้งแต่เกิดจนโต มิหนำซ้ำบางคนอาจเป็นถึงนักแสดงชื่อดังของประเทศ หรือแม้กระทั่งผู้บริหารธุรกิจรายใหญ่ของบริษัทข้ามชาติ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ลึก รู้จริงถึงประวัติความเป็นมาของเขา ดังนั้น เนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 90 ของมิคกี้ เม้าส์ที่พิเศษสุดๆ แบบนี้ เรามาร่วมย้อนรำลึกถึงการผจญภัยฝ่ากาลเวลาของมิคกี้ เม้าส์ที่ครองใจคนทั่วทุกมุมโลกมาตลอด 90 ปีกันเถอะ!
ในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 วอลท์ ดีสนีย์ได้สร้างสรรค์ ‘สตีมโบท วิลลี่ (Steamboat Willie)’ การ์ตูนสั้นที่มีเสียงสอดคล้องกับภาพเรื่องแรกของโลก (The first-ever fully synchronized-sound animated short cartoon) โดยมีมิคกี้ เม้าส์เป็นผู้แสดงนำ ซึ่งประสบความสำเร็จไปทั่วโลก และถือเป็นการเดบิวต์ตัวละครตัวนี้อย่างเป็นทางการ วันนั้นจึงกลายมาเป็นวันเกิดของมิคกี้ เม้าส์ตั้งแต่นั้นมา
ก่อนที่เรื่อง ‘สตีมโบท วิลลี่’ จะออกฉาย วอลท์ ดีสนีย์ได้ผลิตการ์ตูนสั้นที่ไม่มีเสียง โดยมีมิคกี้ เม้าส์เป็นผู้แสดงนำออกมาสองเรื่อง คือ ‘เพลน เครซี่ (Plane Crazy)’ และ ‘เดอะ แกลอปปิน เกาโช (The Gallopin’ Gaucho)’ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ซึ่งหลังจากที่ได้เรียนรู้จากความสำเร็จของ ‘สตีมโบท วิลลี่’ แล้ว จึงได้มีการใส่เสียงเข้าไปให้กับสองเรื่องนี้ในภายหลัง
ในตอนแรก วอลท์ ดีสนีย์ให้ชื่อมิคกี้ เม้าส์ว่า ‘มอร์ติเมอร์ (Mortimer)’ แต่ถูกเปลี่ยนตามคำแนะนำของลิเลียน ภรรยาของเขา ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘มิคกี้ เม้าส์’ ฟังดูน่ารักและเข้าถึงได้ง่ายกว่า
หนึ่งในสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดของมิคกี้ เม้าส์ คือนาฬิกาที่จัดทำโดยบริษัท อินเกอร์โซล-วอเตอร์บิวรี่ (Ingersoll-Waterbury) ในปีพ.ศ. 2476 โดยวางขายในราคา 3.75 ดอลล่าร์
ในการเฉลิมฉลองวันเกิดปีที่ 50 ของมิคกี้ เม้าส์ในปีพ.ศ. 2521 มิคกี้ เม้าส์กลายเป็นตัวการ์ตูนตัวแรกที่ได้มีชื่ออยู่บนฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟม (Hollywood Walk of Fame)
บอลลูนมิคกี้ เม้าส์ยักษ์ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในขบวนพาเหรดวันขอบคุณพระเจ้าของห้างสรรพสินค้าเมซีส์ (Macy’s Thanksgiving Day) ในนครนิวยอร์ก เมื่อปีพ.ศ. 2477 หลังจากนั้นเป็นต้นมา มิคกี้ เม้าส์และผองเพื่อนก็กลายเป็นตัวการ์ตูนยอดนิยมที่นำมาร่วมในขบวนพาเหรดจนถึงปัจจุบัน
มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่มิคกี้ เม้าส์ถือกำเนิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน ในปีพ.ศ. 2472 มิคกี้ เม้าส์ ได้สวมถุงมือสีขาวเป็นครั้งแรกในเรื่อง ‘เว็น เดอะ แคทส์ อะเวย์ (When the Cat’s Away)’ และพูดคำว่า
“ฮอทด็อก!” เป็นคำแรกในเรื่อง ‘เดอะ คาร์นิวาล คิด (The Karnival Kid)’ ในปีเดียวกัน มิคกี้ เม้าส์ได้รับการดีไซน์ใหม่ โดย เฟร็ด มัวร์ (Fred Moore) เมื่อปีพ.ศ. 2482 ในเรื่อง ‘เดอะ พอยน์เตอร์ (The Pointer)’ และได้มีการวาดคิ้วเพิ่มเข้าไปในเรื่อง ‘พลูโตส์ ปาร์ตี้ (Pluto’s Party)’ ในปีพ.ศ. 2495 หลังจากนั้นในช่วงปีพ.ศ. 2533 – 2543 มิคกี้ เม้าส์ก็ได้ก้าวเข้าสู่โลกของการ์ตูนที่สร้างจากคอมพิวเตอร์กราฟฟิคอย่างเต็มตัว
มีนักพากย์เพียง 5 ท่านเท่านั้นที่ได้ชื่อว่าเป็นนักพากย์ของมิคกี้ เม้าส์อย่างเป็นทางการ คือ วอลท์ ดีสนีย์ (Walt Disney) , จิม แมคโดนัลด์ (Jim Macdonald), เวย์น ออลไวน์ (Wayne Allwine), เบรท อิวาน (Bret Iwan) และคริส ไดอามานโทพาวลัส (Chris Diamantopoulos)
มิคกี้ เม้าส์ เป็นตัวการ์ตูนที่มีนิ้วข้างละ 4 นิ้ว
มิคกี้ เม้าส์ได้เข้าร่วมการประกาศผลรางวัลออสการ์ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2531 โดยมิคกี้ เม้าส์เป็นผู้มอบซองให้กับทอม เซลเล็ค (Tom Selleck) นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง และครั้งที่สองในปีพ.ศ. 2546
เขาก็ได้ขึ้นเวทีประกาศรางวัลพร้อมกับเจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ (Jennifer Garner)
ผู้วาดการ์ตูนเคลื่อนไหวของมิคกี้ เม้าส์เป็นคนแรกคือ อับ โอเวิกส์ (Ub Iwerks) เขาสามารถวาดภาพได้ถึง 700 ภาพในหนึ่งวัน และสามารถวาดการ์ตูนเคลื่อนไหวทั้งเรื่องได้ด้วยตัวคนเดียว ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เคยมีใครทำได้แบบเขา
มิคกี้ เม้าส์รับบทนำในการ์ตูนสั้นที่ฉายในโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 121 เรื่อง
มิคกี้ เม้าส์มีชื่อเรียกที่ต่างกันไปในแต่ละภาษา เช่น โทโปลิโน่ (Topolino) แปลว่า หนูตัวจิ๋ว ในภาษาอิตาเลี่ยน, มิคกี้ เม้าส์ (Micky Maus) ในภาษาเยอรมัน, มิคกิ ฮีอิริ (Mikki Hiiri) ในภาษาฟินนิช, มิคาเอล มุสคุลุส (Michael Musculus) ในภาษาละติน และมูสเซ่ พิกก์ (Musse Pigg) ในภาษาสวีดิช
เบลน กิ๊บสัน (Blaine Gibson) เป็นผู้สร้างอนุสาวรีย์วอลท์ ดีสนีย์จูงมือกับมิคกี้ เม้าส์ ที่มีชื่อว่า “พาร์ทเนอร์ส (Partners)” โดยอนุสาวรีย์นี้ถูกนำไปตั้งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของดีสนีย์แลนด์ทั่วโลก และในเดอะ วอลท์ ดีสนีย์ สตูดิโอ ที่เมืองเบอร์แบงก์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
เมื่อต้นปีพ.ศ. 2473 การ์ตูนของมิคกี้ เม้าส์ได้ตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในหนังสือพิมพ์รายวัน โดยผู้วาดคนแรกคือ อับ โอเวิกส์ ที่เป็นคนวาดต้นฉบับอยู่เป็นเวลาหนึ่งเดือน ก่อนที่จะเปลี่ยนมือเป็นวิน สมิธ (Win Smith) อีกสามเดือน และตามมาด้วยฟลอยด์ ก็อตต์เฟร็ดสัน (Floyd Gottfredson) ที่ในตอนแรกถูกขอให้มาช่วยวาดเป็นเวลาไม่กี่อาทิตย์จนกว่าจะหาคนประจำแทนได้ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ได้วาดการ์ตูนเรื่องนี้อยู่ถึง 45 ปี จนถึงวันที่เขาเกษียณอายุการทำงาน
นิตยสาร ‘Mickey Mouse’ ถูกตีพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2476 เป็นนิตยสารเล่มเล็กที่มีทั้งเรื่องสั้น บทความ การ์ตูนช่อง เกมส์ และบทกลอน ขนาดของหนังสือถูกปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ จนสุดท้ายก็มาจบที่ขนาดเท่าหนังสือการ์ตูนอย่างที่คุ้นเคยกันในปัจจุบัน
มิคกี้ เม้าส์ เป็นตัวละครที่มีผู้ขอใช้สิทธิ์ในผลงานมากที่สุดในโลก ตั้งแต่ของเล่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ในครัว หรือแม้กระทั่งเครื่องเพชร
มิคกี้ เม้าส์ และมินนี่ เม้าส์ได้มีโอกาสเข้าร่วมแฟชั่นวีค (Fashion Week) ระดับโลกมาแล้วในหลายประเทศ อย่างในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา, มหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน, เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส, เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ และเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
ทั้งมิคกี้ เม้าส์ และมินนี่ เม้าส์เป็นตัวละครสองตัวแรกที่ได้ไปอยู่บน Apple Watch โดยผู้ใช้สามารถกดให้ทั้งสองตัวละครพูดบอกเวลาได้
และรู้หรือไม่ ว่าจริงๆ แล้วมินนี่ เม้าส์ หวานใจขนตางอนของเจ้าหนูตัวจิ๋วของเราก็เดบิวต์เป็นครั้งแรกจากเรื่อง ‘สตีมโบท วิลลี่’ และนั่นทำให้ทั้งสองตัวละครมีวันเกิดวันเดียวกัน