ในอนาคตเราจะไม่ได้ฟังเสียงของเขาอีกแล้ว เชื่อว่าคุณก็เป็นคนหนึ่งที่กลับมาเปิดเพลงฟังอีกครั้งในวันนี้ และทำไมวงๆ นี้ถึงเป็นตำนานความเจ๋ง โดยเฉพาะเสียงร้องของเชสเตอร์ เราไปย้อนรำลึกกันอีกครั้ง
1. จังหวะการก้มตัวที่พร้อมเพรียงกันใน MV เพลง One Step Closer
เรียกว่าเป็นการสร้างความแปลกใหม่ของการแสดงมิวสิก วิดีโอแนวดนตรีนูเมลทัล ภาพสะดุดตากับการก้มตัวลงมาแทบจะติดพื้นพร้อมกันไปตามจังหวะของนักร้องนำ เชสเตอร์ เบนนิงตัน และ ไมค์ ชิโนะดะ มันสร้างความอัศจรรย์ให้กับยุคนั้นเป็นอย่างมาก จนเราเห็นวงดนตรีหลายวงนำจังหวะการโยกนี้ไปใช้ตาม ไม่เพียงแต่ 2 คนนี้ เรายังเห็น แบรด เดลสันมือกีตาร์ ทำท่าในลักษณะนี้เช่นกัน นับเป็นการเปิดตัวอัลบัมแรกได้อย่างยอดเยี่ยม
2. การประสานจังหวะร้องที่ลงตัวของ เชสเตอร์ เบนนิงตัน และ ไมค์ ชิโนะดะ
นอกจากการใส่เทคนิคที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของดนตรี ได้แก่ เมทัล อิเล็กทรอนิกส์ อินดัสเทรียล มีกลิ่นอายของฮิปฮอป และมีความเป็นป็อปอยู่ด้วยในชิ้นงาน เพิ่มโปรแกรมคอมพิวเตอร์แต่งเสียงและใช้เครื่องสังเคราะห์เสียงช่วยเพิ่มรูปแบบเสียงที่มีความแปลกใหม่และสนุกยิ่งขึ้น ทำให้เป็นแนวเพลงที่ไม่ซ้ำแบบใครและมีสไตล์เป็นตัวของตัวเอง ผ่านการร้องนำของสองหนุ่ม เชสเตอร์ เบนนิงตัน และ ไมค์ ชิโนะดะ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นการประสานจังหวะอย่างลงตัว ไม่มีใครเด่นกว่าใคร ไม่มีใครแย่งซีนใคร แต่ทั้งสองส่งพลังความเจ๋งออกมาได้พร้อมกันและทำให้เรารับรู้อารมณ์ของเพลงได้อย่างเข้าถึงความรู้สึก
3. สุดยอดวงดนตรี ในการแสดงสด
เราเห็น โจ ฮาห์น ใช้เทคนิคมากมายในการทำซาวน์จังหวะเพลง แต่ 1 ในสิ่งที่ทุกคนประทับใจคือการได้ดูแสดงสดของพวกเขาที่เล่นได้อย่างถึงอารมณ์ เชสเตอร์แผดเสียงสุดพลังในทุกๆ เพลงขณะที่เขายังคงรักษาเส้นเสียงได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็ม นั้นทำให้สาวกแฟนเพลงนับถือในความยอดเยี่ยมการร้องของเชสเตอร์
4. ถ่ายทอดจิตวิญญาณทางดนตรีไปจนถึงมิวสิกวิดีโอที่แปลกตา
อีกหนึ่งเพลงที่มีการทำภาพกราฟิกสะดุดตาออกไปจากเดิมในชื่อว่า In The End แม้ความหมายของเนื้อเพลงจะพูดถึงการอกหักและสูญเสีย แต่ก็ได้ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาอย่างบ้าคลั่ง ผสานกับภาพในมิวสิกที่สอดคล้องไปได้อย่างสวยงาม
ลิงคิน พาร์กเป็นวงดนตรีร็อกวงแรกที่ประสบความสำเร็จจากยอดการเข้าชมที่มากกว่าหนึ่งพันล้านในยูทูบ นอกจากนี้ ลิงคิน พาร์กยังเป็นหนึ่งในสิบห้าหน้าในเฟซบุ๊กที่มีการกดถูกใจมากที่สุด ตามหลัง เลดี้ กาก้า และนำหน้าวง แบล็กอายด์พีส์
5. 17 ปีที่เราไม่เคยลืม รอยสักของเชสเตอร์
แม้ว่าลิงคิน พาร์คจะเฟื่องฟูในยุคแรกๆ และหลังจาก 5 ปีที่ผ่านมาพวกเขาก็โดนโจมตีอย่างหนักเรื่องผลงานเพลง ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่เราจำภาพของเชสเตอร์ได้ไม่รู้ลืม และมันก็มีความหมายกับเขามากพอๆกับที่จะเปิดร้านสักขึ้นมากสักร้าน จากที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ The Rebel Yell ก่อนการแสดงที่ MGM Grand เขาเปิดร้านสักที่ชื่อว่า Club Tattoo เชสเตอร์เป็นหุ้นส่วนกับเพื่อนเก่า ฌอนและธอร่า โดว์เดล เชสเตอร์คิดว่ารอยสักมีความหมายเหมือนกับร็อคแอนด์โรลเพราะใครๆ ก็ผูกร็อคแอนด์โรลไว้กับความกบฏโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว และพ่วงเรื่องเซ็กส์อีกนิด เรื่องความเท่และแฟชั่นอีกหน่อย เมื่อคุณโตขึ้นและมองไปที่ร็อคสตาร์กับดาราหนังที่โด่งดังสุดๆ คุณจะเห็นว่าพวกเขามีรอยสักและเจาะกันทั้งนั้น มันพ่วงกันมาน่ะ เชสเตอร์กล่าว ครั้งหนึ่งเขาเคยมีรอยสักที่รู้สึกเสียดาย แต่นั่นก็เป็นเพราะว่า เขามีรอยสักที่ตื่นเต้นมากตอนที่สักมาเสร็จ แต่หลังจากนั้นก็ได้รอยสักใหม่จากช่างที่เก่งกว่าและเชี่ยวชาญในเรื่องเทคนิคกับการทำงานมาก คุณจะรู้สึกว่า “พระเจ้า ฉันน่าจะรออีกหน่อยนะ” รอยสักก็เหมือนกับชีวิต คุณมีมัน คุณรักมัน และคุณก็พัฒนามัน