แค่ 15 ปี Reboot ไป 3 ครั้ง!! เปิดประวัติ Spider-Man ว่าทำไมต้องสร้างบ่อย?

Reboot อีกแล้ว!! เปิดประวัติ Spider-Man ก่อนที่จะมาเป็น Spider-Man: Homecoming

ENTERTAINMENT: หลังจากที่ได้ชมตัวอย่างภาพยนตร์ของ Spider-Man: Homecoming เชื่อว่าแฟนๆหลายคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ย่อมมีข้อสงสัยในหลายๆเรื่องของสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหาในเรื่องที่จะมีความต่อเนื่องจากกัปตันอเมริกาภาค 3 หรือไม่? ตอนนี้สไปดี้อยู่ในจักรวาลมาร์เวลแล้วใช่ไหม? หรือ เพิ่งสร้างไปไม่นานทำไมถึงเปลี่ยนคนเล่นอีกแล้ว? และในวันนี้เรามีคำตอบว่าทำไมแฟรนไชส์ Spider-Man ถึงได้มีการรีบูทหลายรอบภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีมาฝากชาว Favforward กันครับ

Amazing Fantasy Vol. 15

ต้นกำเนิด Spider-Man

Spider-Man (สไปเดอร์แมน) คือหนึ่งในฮีโร่ที่มีคาแรกเตอร์เด่นชัดที่สุดตัวหนึ่งจาก Marvel Comics ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูนชุด Amazing Fantasy ฉบับที่ 15 (1962) จากความปรารถนาของ “สแตน ลี” (ดำรงตำแหน่งนักเขียนการ์ตูนในขณะนั้น) ที่ต้องการสร้างตัวละครฮีโร่ที่มีฮอร์โมนพลุ่งพล่านเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ร่วมกับการออกแบบของ “สตีฟ ดิทโก้” โดยหลังจากที่ Amazing Fantasy ฉบับที่ 15 วางขาย ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในหนังสือการ์ตูนของมาร์เวลที่ทำยอดขายสูงที่สุด และส่งผลให้ฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมนมีหนังสือการ์ตูนชุดเป็นของตัวเองตามออกมาอย่าง The Amazing Spider-Man (1963) เป็นฉบับแรก


Marvel Team UpPeter Parker, The Spectacular Spider-ManWeb of Spider-Man

ความนิยม

ด้วยคาแรกเตอร์ของสไปเดอร์แมนที่ต้องพบเจอกับปัญหาทั้งเรื่องความรัก แรงกดดัน สถานะครอบครัว การเงิน ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาที่คนธรรมดาทั่วไปก็ต้องเผชิญ จึงทำให้การ์ตูนชุดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจนได้ไปปรากฏตัวร่วมกับตัวละครอื่นๆใน Marvel Team Up (1972) และคลอดการ์ตูนชุดใหม่ตามมาอย่าง Peter Parker, The Spectacular Spider-Man (1976), Web of Spider-Man (1985) เป็นต้น


ครั้งแรกกับคนแสดง

ด้วยกระแสความนิยมจาก Comics จึงทำให้สไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นคนแสดงถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในชื่อเรื่อง The Amazing Spider-man (1977) เพื่อฉายทางจอโทรทัศน์ แต่ด้วยเทคนิคต่างๆที่ยังไม่เอื้ออำนวยให้สไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นคนแสดงสามารถโล่นแล่นครองใจผู้ชมได้จึงทำให้เงียบหายไปตามกาลเวลา


การกลับมาของ Spider-Man

ด้วยสถานะทางการเงินที่ตกต่ำถึงขีดสุดในช่วง 1998 เป็นต้นมา จึงทำให้ Marvel Comics ตัดสินใจขายลิขสิทธิ์ตัวละครฮีโร่ให้แก่สตูดิโอต่างๆนำไปทำภาพยนตร์เพื่อหวังพยุงบริษัทให้อยู่รอด หนึ่งในตัวละครชื่อดังอย่าง Spider-Man จึงถูกขายให้กับ Sony Pictures Entertainment (โดยตระกูล Fantastic 4 และ X-Men ถูกขายให้กับ Fox)

และแล้วการกลับมาของ  Spider-Man ก็เริ่มเฉิดฉายอีกครั้ง เมื่อทางโซนี่ได้ให้ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง “แซม ไรมี่” มานั่งแท่นกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรก โดยได้นักแสดงหนุ่ม “โทบี้ แมคไกวร์” มารับบทเป็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ หรือ สไปเดอร์แมน เวอร์ชั่น 2002 นั่นเอง

Spider-ManSpider-Man 2Spider-Man 3

ด้วยกระแสตอบรับและเสียงวิจารณ์ที่ค่อนข้างดีจึงทำให้ Spider-Man เวอร์ชั่น 2002 กวาดรายได้ถล่มทลายทั่วโลกไปกว่า 822 ล้านเหรียญฯ ส่งผลให้มี Spider-Man 2 และ 3 ตามออกมาในปี 2004 และ 2007


The Amazing Spider-ManThe Amazing Spider-Man 2

รีบูทอีกรอบภายในไม่กี่ปี

ด้วยปัญหาภายในระหว่างผู้กำกับและค่ายหนัง รวมไปถึงคำวิจารณ์จากเหล่าผู้ชมในภาค 3 ที่ออกมาในแง่ลบจึงทำให้แพลน Spider-Man 4 ต้องยุติลงทันทีทั้งๆที่ภาค 3 ทำรายได้ไปกว่า 890 ล้านเหรียญฯ ซึ่งในสัญญาของทางโซนี่กับมาร์เวลได้ระบุเอาไว้ว่า

“หากภายใน 5 ปีถ้าไม่มีการสร้างภาพยนตร์ออกมา ลิขสิทธิ์ของฮีโร่จะกลับไปอยู่ในมือมาร์เวลเช่นเดิม”

ด้วยเหตุนี้เองทางโซนี่จึงต้องหาทางออกด้วยการรีบูท Spider-Man ขึ้นมาอีกครั้ง และโซนี่ก็ทำสำเร็จ The Amazing Spider-Man (2012) ฉบับรีบูทออกฉายทันเวลาก่อนที่ลิขสิทธิ์จะกลับคืนสู่มาร์เวลได้อย่างทันท่วงที โดยในภาคนี้ได้ผู้กำกับอย่าง “มาร์ค เว็บบ์” มานั่งแท่นกุมบังเหียน อีกทั้งยังได้ “แอนดรูว์ การ์ฟิลด์” มารับบท ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ และดาราสาว “เอ็มมา สโตน” มารับบท เกวน สเตซี่ ที่เป็นรักแรกของปีเตอร์อีกด้วย


ความร่วมมือระหว่าง Sony และ Marvel

ในขณะที่การรีบูท The Amazing Spider-Man ทำท่าจะไปได้สวย โดยภาคแรกกวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 757 ล้านเหรียญฯ แต่ถึงอย่างนั้นภาคที่สอง (2014) ก็ทำรายได้ลดลงเหลือเพียง 708 ล้านเหรียญฯ พร้อมกับคำวิจารณ์ที่ค่อนข้างเละเทะเสียยิ่งกว่า Spider-Man 3 จึงทำให้แผนการสร้างภาคต่อของโซนี่ชะงักลงอีกครั้ง

ขณะเดียวกันมาร์เวลที่กำลังมือขึ้นจากการกระโดดลงมาสู่ธุรกิจภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 2007 ที่สามารถปลุกปั้น “Iron Man” ซึ่งถือว่าเป็นฮีโร่ที่ไม่ค่อยดังสักเท่าไหร่ในเวอร์ชั่น Comics ให้กลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินอันดับต้นๆได้ ก็เริ่มกลายเป็นเศรษฐีกระเป๋าหนัก จะเห็นได้จากภาพยนตร์เรื่องต่อๆมาอย่าง Thor (2011), Captain America (2011), The Avengers (2012), Guardians of the Galaxy (2014), Ant-Man (2015), Doctor Strange (2016) ก็ล้วนประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์แทบทั้งสิ้น

และแล้วฝันก็เป็นจริงเมื่อครั้งที่โซนี่ถูกแฮกอีเมล์ของบริษัท หนึ่งในเอกสารสำคัญที่ถูกเผยแพร่ออกมาก็คือการดีลกันระหว่างโซนี่และมาร์เวลเอง ซึ่งภายหลังทั้งคู่ก็ได้ออกมายอมรับถึงการนำ Spider-Man มาพัฒนาร่วมกันทั้งในด้านของทุนสร้าง บทภาพยนตร์ และใช้ตัวละครร่วมกันระหว่างทั้งสองค่าย ดังจะเห็นได้จากการที่ Spider-Man ได้โผล่ไปร่วมแจมกับทีม Avengers ใน Captain America: Civil War (2016) ของค่ายมาร์เวล


Spider-Man: Homecoming

“Spider-Man: Homecoming” คือการกลับคืนสู่เหย้าของสไปเดอร์แมนจากโซนี่อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้โซนี่หมายมั่นปั้นมือที่จะเริ่มทุกอย่างใหม่หมดเพื่อที่จะได้ขยายเนื้อเรื่องของ Spider-Man ต่อไปได้สักที จากการที่วนเวียนย่ำอยู่กับที่มาอยู่หลายครั้งด้วยการร่วมมือกับมาร์เวลสตูดิโอ

โดยคนที่จะมารับบท ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ นั้นก็ได้แก่หนุ่มน้อยมากความสามารถ “ทอม ฮอลแลนด์” ที่เรียกได้ว่าเขาคือสไปเดอร์แมนที่ถอดแบบมาจากเวอร์ชั่น Comics ไม่ว่าจะด้วยวัย ลักษณะการพูด รูปร่างท่าทาง ที่สื่อความเป็นวัยรุ่น วัยว้าวุ่นในแบบที่สไปเดอร์แมนเป็นได้เป็นอย่างดี และอีกหนึ่งในเซอร์ไพรส์ของ Spider-Man: Homecoming เห็นจะหนีไม่พ้นการปรากฏตัวของ Iron Man ฮีโร่จอมเกรียนขวัญใจคนทั่วทั้งโลก

Spider-Man: Homecoming จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่มาของพลังพิเศษในตัวปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ จนได้ไปร่วมต่อสู้กับเหล่า Avengers ใน Captain America: Civil War และต้องกลับมาใช้ชีวิตวัยรุ่นที่คอยปกป้องเมืองอยู่อย่างลับๆให้ปลอดภัย

ชาว Favforward ที่สนใจสามารถรับชมตัวอย่างภาพยนตร์ Spider-Man: Homecoming ได้ที่วิดีโอข้างล่างครับ


ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: th.wikipedia.org , www.thaimovieclub.com

เรื่องโดย:Nomad609

ภาพประกอบ: marvel.com , thenewbev.com

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.