ดูยัง!! รวมรายการลิขสิทธิ์จากต่างประเทศในบ้านเราที่โด่งดังสุดๆ
ดูยัง!! รวมรายการลิขสิทธิ์จากต่างประเทศในบ้านเราที่โด่งดังสุดๆ
WHAT: เป็นหนึ่งในรายการที่มีกระแสร้อนแรงอยู่ในขณะนี้สำหรับ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ทางช่องเวิร์ค พ้อยท์ ที่ถือว่าเป็นรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากต่างประเทศในบ้านเราที่กระแสตอบรับดีสุดๆไม่แพ้รายการของไทยเองเลยทีเดียว
ในขณะที่ผู้ชมทางบ้านต่างคาดเดากันไปต่างๆนาๆว่า หน้ากากทุเรียนจาก The Mask Singer คือใครกันแน่นั้น วันนี้เรามี 9 รายการลิขสิทธิ์จากต่างประเทศที่โด่งดังในบ้านเรามาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลยครับ
1.True Academy Fantasia
ระยะเวลาการออกอากาศ : 2547 – 2558
นับเป็นรายการเรียลลิตี้โชว์เจ้าแรกๆในไทย จุดเด่นอยู่ที่การถ่ายทอดสดตลอด 24 ชั่วโมง แต่เดิมชื่อรายการ UBC Academy Fantasia ซึ่งบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัดนั้นได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์มาจาก La Academia ของประเทศแม็กซิโก
รูปแบบรายการนั้นจะทำการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน (ภายในรายการเรียกว่า นักล่าฝัน) จากทั่วทั้งประเทศมาอยู่ในบ้านรวมกันประมาณ 12-24 คน โดยจะมีการสอนทักษะต่างๆภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ร้องเพลง แสดงละคร หรือแม้แต่การเต้น ซึ่งทุกๆสัปดาห์นั้นจะมีการแสดงคอนเสิร์ตตามแต่โจทย์ที่ได้รับ และถ้าใครได้รับคะแนนโหวตน้อยที่สุดในสัปดาห์นั้นๆก็จะต้องออกจากรายการไป
สาเหตุที่ True Academy Fantasia ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายในประเทศไทยจนมีถึง 12 ซีซั่นนั้น เนื่องจากในขณะนั้นรายการประเภทเรียลลิตี้ถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมงยังมีอยู่น้อย เมื่อผู้ชมทางบ้านได้เห็นวิถีชีวิตของนักล่าฝันในแง่มุมต่างๆตั้งแต่ตื่นนอน กินข้าว ฝึกซ้อม และแสดงคอนเสิร์ต จึงทำให้เกิดความผูกพันและเอาใจช่วยด้วยการโหวตตามมา
…..
2.Thailand’s Got Talent
ระยะเวลาการออกอากาศ : 2554 – ปัจจุบัน
เป็นอีกหนึ่งรายการที่โด่งดังจากประเทศอังกฤษจนสามารถขายลิขสิทธิ์ได้ทั่วทั้งโลกสำหรับ Britain’s Got Talent ซึ่งประเทศไทยได้ซื้อลิขสิทธิ์มาทำต่อโดยบริษัทยูนิลีเวอร์ จำกัด ซึ่งใช้ชื่อว่า Thailand’s Got Talent ซึ่งรายการนี้จะเน้นหาบุคคลที่มีความสามารถอันโดดเด่น โดยไม่จำกัดจำนวน อายุ เพศ หรือความสามารถในด้านใดๆก็ตาม ซึ่งผู้สมัครสามารถมาคนเดียว ดูโอหรือเป็นทีมก็ย่อมได้
รูปแบบของรายการจะมีเวทีแสดงความสามารถให้ผู้เข้าแข่งขันได้ขึ้นมาโชว์ความสามารถภายในระยะเวลา 5-10 นาที ต่อหน้าคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการมีสิทธิ์ที่จะกดปุ่ม Buzzer (ปุ่มรูปกากบาท) เพื่อแสดงความรู้สึกที่ไม่ชอบออกมา ถ้าหากผู้เข้าแข่งขันคนไหนโดนปุ่ม Buzzer จากกรรมการครบทุกคน ถึงแม้ว่าจะยังทำการแสดงไม่จบ โชว์ก็ต้องหยุดลงทันที โดยผู้แข่งขันที่จะเข้ารอบต่อไปได้นั้น จะต้องได้รับความชื่นชอบจากกรรมการอย่างน้อย 3 ใน 4 คนขึ้นไป
Thailand’s Got Talent ซีซั่นแรกๆนั้นได้รับความนิยมจากคนดูอย่างล้นหลาม เนื่องด้วยเนื้อหารายการที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้เข้ามาโชว์ความสามารถ รูปแบบโชว์จึงหลากหลายและไม่ซ้ำซากจำเจ
…..
3.The Voice Thailand
ระยะเวลาการออกอากาศ : 2555 – ปัจจุบัน
รายการประกวดร้องเพลงจากประเทศเนเธอร์แลนด์ที่มีคอนเซปต์แตกต่างจากรายการอื่นๆทั่วไป โดย The Voice นั้น กรรมการจะไม่มีสิทธิ์เห็นรูปร่างหน้าตาของผู้เข้าประกวด ซึ่งถือว่าเป็นการคัดเลือกจากน้ำเสียงเปล่าๆแต่เพียงอย่างเดียว ส่งผลให้บุคคลที่มีรูปร่างหน้าตาไม่ดีสามารถกล้าที่จะมาโชว์น้ำเสียงและพรสวรรค์ของตนได้อย่างเต็มที่ โดยทางบริษัททรู มิวสิคได้ซื้อลิขสิทธิ์มาทำเป็น The Voice Thailand ที่มีเนื้อหาคงเดิมทุกประการ
รูปแบบการแข่งขันนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 4 รอบคือ The Blind Audition , Battle Phase ,Knockout และ Live Show แต่ที่โดดเด่นจนถือเป็นซิกเนเจอร์ของรายการเลยคือรอบ The Blind Audition ที่กรรมการทั้งสี่คนจะไม่มีสิทธิ์เห็นหน้าผู้เข้าประกวด โดยจะฟังได้แค่น้ำเสียงจนจบเพลงเท่านั้น ซึ่งในระหว่างนั้นกรรมการที่ถูกใจจะมีสิทธิ์กดปุ่มเพื่อหมุนเก้าอี้กลับมาดูหน้าผู้เข้าแข่งขัน และในกรณีที่มีกรรมการกดถูกใจมากกว่าหนึ่งคน ผู้เข้าแข่งขันสามารถเลือกอยู่ทีมเดียวกันกับกรรมการคนไหนก็ได้เพื่อเข้าสู่รอบต่อไป
…..
4.The Face Thailand
ระยะเวลาการออกอากาศ : 2557 – ปัจจุบัน
The Face รายการประกวดค้นหาสุดยอดนางแบบจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีเจ้าของเป็นซุปเปอร์โมเดลชื่อดังระดับโลกอย่าง Naomi Campbell โดย The Face นั้นจะมีรูปแบบเป็นเรียลลิตี้และมีโจทย์ให้ผู้เข้าแข่งขันได้แสดงความสามารถอันหลากหลาย ตั้งแต่ เดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา รวมไปถึงแสดงละคร ทั้งนี้บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาทำโดยใช้ชื่อว่า The Face Thailand
รูปแบบของรายการประกอบไปด้วย เมนเทอร์(ผู้ฝึกสอน) ทั้ง 3 คน ซึ่งแต่ละประเทศที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปก็จะให้ผู้ที่มีความสามารถในด้านต่างๆมาเป็นเมนเทอร์ประจำประเทศนั้นๆ โดย The Face Thailand ได้ลูกเกด เมทินี สุดยอดนางแบบของไทยมาเป็นเมนเทอร์หลักของรายการทั้ง 3 ซีซั่น ซึ่งผลตอบรับนั้นเรียกได้ว่าเป็นกระแสไปทั่วทั้งประเทศ ด้วยรูปแบบการแข่งขันที่มีความชิงดีชิงเด่น มีดราม่าและวลีเด็ดๆมานำเสนอต่อผู้ชมอยู่เป็นประจำทุกสัปดาห์
…..
5.The Mask Singer
ระยะเวลาการออกอากาศ : 2559 – ปัจจุบัน
เป็นรายการเกมโชว์ที่กำลังเป็นกระแสแรงอยู่ในขณะนี้สำหรับ The Mask Singer ทางช่องเวิร์คพ้อยท์ ซึ่งมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่ารายการนี้ถูกซื้อลิขสิทธิ์มาจากรายการ Mystery Music Show: King of Mask Singer ของประเทศเกาหลีใต้ โดย The Mask Singer มีจุดเด่นคือการนำเอาผู้เข้าแข่งขันที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ มาประกวดร้องเพลงโดยผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องสวมหน้ากากเพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตนเอง
จุดที่ทำให้ The Mask Singer มีกระแสถล่มทลายทั่วทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้ คือการที่ผู้ชมและแขกรับเชิญในห้องส่ง ไม่รู้มาก่อนว่าผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั้นตัวจริงเป็นใคร จึงทำให้เกิดการเดาและจินตนาการว่าเป็นคนนั้นคนนี้ตามมา มีแม้กระทั่งการเข้าไปดูเบาะแสจากอินสตราแกรมของคนดังที่คาดเดาแล้วนำมาเปรียบเทียบกับนักร้องหน้ากากที่เราสงสัยเลยทีเดียว
…..
6.I Can See Your Voice Thailand
ระยะเวลาการออกอากาศ : 2559 – ปัจจุบัน
อีกหนึ่งรายการที่กระแสแรงไม่แพ้กันสำหรับ I Can See Your Voice Thailand จากช่องเวิร์คพ้อยท์อีกเช่นเคย โดยรายการนี้ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาจาก CJ E&M และ Mnet ของประเทศเกาหลีใต้
โดยรูปแบบของรายการนั้นจะคล้ายคลึงกับต้นฉบับทางเกาหลี คือให้นักร้องตัวจริงมาค้นหานักร้องปริศนาที่จะต้องร้องเพลงคู่กับตนจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 7 คน โดยภายใน 7 คนนั้นจะมีทั้งคนร้องเพี้ยนและร้องดีปะปนกันไป ซึ่งจะมีคำใบ้และความช่วยเหลือจากบรรดาแกงค์นักสืบภายในรายการ
จุดเด่นของรายการคือความที่คนดูและผู้ชมในห้องส่งไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า ใครจะร้องเพลงดีหรือเพี้ยน ซึ่งบางคนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกดูเหมือนนักร้อง แต่เมื่ออ้าปากร้องเพลงออกมาอาจจะเสียงเพี้ยนก็เป็นได้
…..
7.Takeshi’s Castle Thailand
ระยะเวลาการออกอากาศ : 2557
เป็นหนึ่งในเกมโชว์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งโลก สำหรับ Takeshi’s Castle หรือที่คนไทยคุ้นเคยกันดีกับรายการ โหด มัน ฮา จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในไทยเองนั้นเคยนำเข้ามาออกอากาศเมื่อราวๆ พ.ศ. 2531-2536 จวบจนปัจจุบันบริษัทเฮลิโคเนีย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์และเดนท์สุ มีเดียได้ซื้อลิขสิทธิ์มาทำในรูปแบบของประเทศไทย
สิ่งที่ทำให้รายการ โหด มัน ฮา อยู่มาได้จนถึงปัจจุบันนั้นเป็นเพราะความสนุกสนานและการสร้างสรรค์รูปแบบของด่านต่างๆที่ผู้ท้าชิงแต่ละคนจะต้องผ่านไปให้ได้ ซึ่งก็มีทั้งต้องปีน กระโดด โหน ไต่เชือก วิ่ง เพื่อแลกกับเงินรางวัลก้อนใหญ่นั่นเอง
…..
8.Big Brother Thailand
ระยะเวลาการออกอากาศ : 2548
เป็นรายการเรียลลิตี้จากประเทศเนเธอร์แลนด์ที่มีกระแสตอบรับอันร้อนแรงไปทั่วทั้งโลก สำหรับ Big Brother ที่ในประเทศไทยก็เคยซื้อลิขสิทธิ์มาออกอากาศอยู่ 2 ซีซั่นโดยบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด ซึ่งซีซั่นแรกก็ได้รับการตอบรับอย่างดีด้วยความที่มีเนื้อหาแปลกใหม่ในยุคนั้นบวกกับการออกอากาศแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง
รูปแบบของรายการเป็นเรียลลิตี้เกมโชว์ที่มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 12 คนคละเพศและอายุและอาชีพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันภายในบ้านบิ๊กบราเทอร์ที่ปราศจากการรับรู้ข่าวสารจากโลกภายนอก ไม่ให้ดูโทรทัศน์ คุยโทรศัพท์ เล่นอินเตอร์เน็ตหรืออ่านหนังสือพิมพ์เป็นระยะเวลาเกือบสามเดือน โดยแต่ละสัปดาห์จะมีภารกิจต่างๆมอบหมายให้ทำ และให้สมาชิกภายในบ้านเสนอชื่อผู้ที่ควรออกจากบ้านไปมากที่สุดในแต่ละสัปดาห์มา 2 ชื่อแล้วตัดสินด้วยการโหวตจากผู้ชมทางบ้านอีกทีนึง
…..
9.The Bachelor Thailand
ระยะเวลาการออกอากาศ : 2559 – ปัจจุบัน
อีกหนึ่งรายการที่เพิ่งจบไปหมาดๆท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์สำหรับ The Bachelor Thailand ศึกรักสละโสด ทางช่อง ONE HD ที่เป็นการซื้อลิขสิทธิ์รายการ The Bachelor (Bachelor…Battle of Love) จากต่างประเทศมา โดยเนื้อหาของรายการจะเป็นการหาคู่เดทให้กับฝ่ายชายที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมทุกอย่าง ซึ่งในเวอร์ชั่นประเทศไทยนั้นได้ ปั้น ชิตณรงค์ วิเศษสมภาคย์ ทายาทแห่งสหพีร์ เอ็นจิเนียริ่ง บริษัทรับเหมาติดตั้งระบบแอร์คอนดิชั่นตามอาคารหรือห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มาเป็น The Bachelor คนแรกของประเทศไทย
เนื้อหาของรายการนั้นจะให้ The Bachelor ไปทำกิจกรรมต่างๆกับสาวสวย 22 คน 22 บุคลิกทั้งในบ้านและนอกสถานที่ ถ้าหาก The Bachelor อยากสานสัมพันธ์กับใครก็จะต้องมอบดอกกุหลาบแก่สาวคนนั้นเพื่อให้เธออยู่ต่อในสัปดาห์ถัดไป โดยผู้ชนะจากรายการจะได้ไปเดทกับ The Bachelor ในทริปสุดหรู ณ ต่างประเทศ และอาจจะได้สานสัมพันธ์กันต่อในโลกแห่งความจริง
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก : th.wikipedia.org
เรื่องโดย : Nomad609
ภาพประกอบ : YouTube