MOVIE SHADES : Operation Mekong ระเบิดภูเขา เผากระท่อม (repeat)

Operation Mekong แอ็คชั่นสะใจ ตอบโจทย์แฟนภาพยนตร์ของ Dante Lam และคอหนังแอ็คชั่นเป็นอย่างดี เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ใส่ฉากการต่อสู้ทุกรูปแบบเอาไว้

หากพูดถึงชื่อ Dante Lam คงไม่มีคอหนังแอ็คชั่นคนไหนไม่รู้จัก เพราะว่าเขาคืออดีตผู้ช่วยของผู้กำกับ John Woo (Hard Target – 1993 , Broken Arrow – 1996 , Face Off – 1997) แล้วเมื่อ John Woo ได้โกอินเตอร์ไปกำกับภาพยนตร์ให้กับฝั่งฮอลลีวูด Dante Lam ก็ได้พัฒนาตัวเองให้กลายมาเป็นผู้กำกับ แล้วกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกคือ Operation Zero (1997) ตามด้วยผลงานอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉลี่ยแล้วปีละ 1 – 2 เรื่อง รวมไปถึงผลงานเด่นๆ อย่าง The Stool Pigeon (2010) และ The Viral Factor (2011) จนทำให้เขากลายมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ action ชั้นแนวหน้าของฮ่องกง

ด้วยสไตล์การกำกับของ Dante Lam ที่มักจะเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ที่มาพร้อมกับฉากแอ็คชั่นที่สุดมัน แต่ไม่ลืมที่จะใส่ตัวตนและปมของตัวละครที่ซับซ้อน ทำให้ภาพยนตร์ของเขาเป็นมากกว่าแค่หนังแอ็คชั่นฮ่องกงทั่วไป แล้วยังทำให้หลายผลงานของเขาได้รับความสำเร็จทั้งด้านรายได้และคำชมมากมาย จนมาถึงผลงานลำดับที่ 23 ของเขา นั่นก็คือ Operation Mekong : เชือด เดือด ระอุ

Operation Mekong หรือ เชือด เดือด ระอุ เป็นฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดของเขาที่ถ่ายทำในประเทศไทย พร้อมกับกวาดรายได้ไปแล้วมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการประชันบทบาทระหว่าง เอ็ดดี้เผิง (Unbeatable) ที่ถือว่าเป็นนักแสดงโปรดของเขาในตอนนี้ คู่กับ จางฮั่นยู (The Great Wall) ปะทะกับเหล่านักแสดงไทย ไม่ว่าจะเป็น วิทยา ปานศรีงาม (Only god forgive , Lupin the 3rd) , แบงค์ ปวริศร์ และ พิง ลำพระเพลิง ที่ถือว่าให้น้ำหนักกับสถานที่ถ่ายทำในประเทศไทย และนักแสดงไทยได้มากพอสมควรเลยทีเดียว

จากพล็อตเรื่องที่เกี่ยวกับปมคดีของสงครามยาเสพติดที่เกิดปัญหาขึ้นในบริเวณ 3 เหลี่ยมทองคำ ที่เป็นเขตแดนร่วมของประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเค้าโครงเรื่องมาจากเรื่องจริง โดยใช้ตัวละครที่ชื่อ หน่อคำ (แบงค์ ปวริศร์) หรือจอมโจรแม่น้ำโขง ที่มีตัวตนจริงๆ และเคยก่อคดีคล้ายกับพล็อตเรื่องในหนัง โดยตัวภาพยนตร์ก็ได้พยายามที่จะถ่ายทำให้ได้ความรู้สึกว่ากำลังอยู่ในสถานที่ในเขตจังหวัดในบริเวณ 3 เหลี่ยมทองคำนั้น ซึ่งถือว่าทำออกมาได้เป็นที่น่าพอใจ ด้วยการถ่ายทำด้วยมุมกล้องที่สวย และถ่ายทอดความวุ่นวายของเมืองไทย (และประเทศแถบนั้น) ออกมาได้ในแบบที่ควรจะเป็น แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วแทบจะถ่ายทำในประเทศไทยเพียงแค่ที่เดียวและใช้นักแสดงและสแตนด์อินไทยแทบทั้งหมดก็ตาม

ฉากแอ็คชั่นที่รุนแรงและสะใจ คงตอบโจทย์ให้กับแฟนๆ ภาพยนตร์ของ Dante Lam และคอหนังแอ็คชั่นเป็นอย่างดี เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ใส่ฉากการต่อสู้ทุกรูปแบบเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้แบบประชิดตัว การจู่โจมแบบ tactical การไล่ยิง และการไล่ล่า ที่มีทั้งบนบก ด้วยรถ ด้วยหมา ด้วยเรือ และด้วยเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเรียกได้ว่าครบจนล้นจริงๆ อีกทั้งยังมีความตั้งใจในเรื่องของภาพ ที่มีการถ่ายทำจากมุมสูง และมุมสวยๆ หลายมุมตามสไตล์หนังฮ่องกง

หากว่าใครเป็นคอหนังแอ็คชั่นอยู่แล้ว และได้ติดตามผลงานของ Dante Lam มาโดยตลอด ก็คงจะชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไม่ยาก แต่ถ้าหากว่าเป็นคนที่ชอบดูหนังแอ็คชั่นที่เน้นเนื้อเรื่องและความสมเหตุสมผล ก็คงจะรู้สึกแปลกๆ ที่กำลังดูฉากแอ็คชั่นต่อเนื่องประมาณ 60,000 ฉาก ที่ถูกยัดลงไปในภาพยนตร์เรื่องนี้ จนทำให้รู้สึกว่า ฉากหลายฉากตัดทิ้งบ้างก็ได้ เพราะว่าอะไรที่มันเยอะเกินไปนั้น มันก็คงจะเกินพอดีจริงๆ

อย่างไรก็ตาม นี่คือผลงานที่สร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับเขา และถือว่าเป็นอีกครั้งที่ภาพยนตร์ฮ่องกงมีความกล้าที่เอาความบ้าระห่ำใส่ลงไปในผลงานภาพยนตร์ด้วยความตั้งใจ ทำให้เราได้ชมแล้วมีโอกาสได้มองย้อนกลับมาที่วงการภาพยนตร์แอ็คชั่นของบ้านเราเอง ที่นอกจากจะมีเพียงแค่ฉากแอ็คชั่นในละครหลังข่าว และหนังแอ็คชั่นต่อยตีที่ออกมานานๆ ทีแล้ว เราก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง เราคงจะสามารถทำภาพยนตร์ด้วยความฝันที่ใหญ่พอ พร้อมกับแรงสนับสนุนทั้งนายทุนและผู้ชมให้ประสบความสำเร็จได้อย่างเขาก็คงดี

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.