ต้องยอมรับกันว่าในสังคมไทยทุกวันนี้ ทุกคนต่างตกอยู่ในสภาวะเห็นดีเห็นงามกับค่านิยมทางวัตถุ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากใครหลายคนจะมีบัตรเครดิตหลายใบเพื่อการใช้จ่าย และจริงอยู่ว่าการมีบัตรเครดิตจะช่วยให้การเงินของเราคล่องตัว แต่หากคุณใช้บัตรเครดิตไม่ถูกต้องก็จะทำให้คุณเป็นหนี้ก้อนโตโดยไม่รู้ตัวได้เช่นกัน
วันนี้เราจึงมี Money Tips ทั้งการใช้บัตรเครดิตอย่างถูกต้อง วิธีการชำระหนี้ก้อนโต และสูตรคำนวณหนี้เกินตัวมาฝากกัน!
Tips : 4 เคล็ดลับใช้บัตรเครดิตอย่างถูกต้อง
01. ลดบัตร ลดหนี้ พกบัตรเครดิตเพียง 1-2 ใบเท่านั้น เพราะยิ่งคุณมีบัตรเครดิตหลายใบก็ยิ่งใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้นการพกบัตรเครดิตเพียง 1-2 ใบในกระเป๋าสตางค์จะช่วยลดอัตราการใช้จ่ายได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว อีกทางหนึ่งหากคุณไม่มีความจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตหมุนเวียนเงินในการทำธุรกิจแล้ว ก็ไม่ควรทำบัตรหลายใบ ให้เลือกทำเพียง 1-2 ใบก็พอ
02. หยุดรูดเมื่อรู้ว่าจ่ายคืนเต็มจำนวนไม่ได้ หากคุณรูดบัตรเครดิตใช้จ่ายไปแล้ว และคิดว่าไม่สามารถชำระเงินคืนในจำนวนเต็มไม่ได้ ก็ไม่ควรรูดอีก
03. ใช้เท่าไร จ่ายคืนเท่านั้น คุณใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเท่าไร เดือนถัดไปก็ต้องชำระคืนเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่มีหนี้บัตรเครดิตหลงเหลืออยู่ในแต่ละงวด และเป็นการประหยัดเงินเพราะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยอีกด้วย
04. รักษาเครดิตให้ดีด้วยการจ่ายตรงเวลา พยายามจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้ตรงเวลา เพื่อรักษาเครดิตที่ดี นอกจากนี้จะทำให้เรามีวินัยในการชำระเงินอีกด้วย นั่นคือหากคุณกำหนดวันเวลาในการชำระเงินบัตรเครดิตอย่างแน่นอนเอาไว้เลย จะช่วยให้คุณมีวินัยและเพิ่มความมั่นใจว่าคุณไม่มีหนี้ค้าง รวมทั้งคุณก็จะมีเงินจ่ายหนี้บัตรเครดิตในงวดนั้นๆ อย่างแน่นอน
Tips : 3 วิธีการชำระหนี้ก้อนโต
01. จ่ายทีละรายการ หากคุณมีหนี้หลายก้อนหลายใบ ให้เลือกชำระหนี้ทีละรายการ ไม่แนะนำให้กระจายเงินจ่าย
02. ดอกสูงจ่ายก่อน ให้เลือกชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงก่อน เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกเบี้ยนั่นเอง
03. เหลือน้อยจ่ายก่อน หากว่ารายการชำระหนี้ของคุณมีอัตราดอกเบี้ยเท่ากันหรือไม่ต่างกันมาก ให้เลือกชำระหนี้รายการที่เหลือน้อยที่สุดก่อน
แถมท้ายกันด้วยสูตรคำนวณหนี้เกินตัว เพื่อให้คุณประเมินและระวังการใช้จ่ายกันมากขึ้น ด้วยสูตร “เงินผ่อนหนี้/รายได้” นั่นคือให้คุณเอาหนี้ที่ต้องผ่อนชำระทั้งหมดในแต่ละเดือนมารวมกัน แล้วหารด้วยรายได้หรือเงินเดือน หากผลลัพธ์ที่ได้เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าคุณกำลังอยู่ในสภาวะเงินตึงมือแบบสุดๆ เพราะอัตราส่วนหนี้ต่อเงินรายได้ไม่ควรเกิน 30 เปอร์เซ็นต์นั่นเอง