“ความหรูหรา” เคยถูกนิยามไว้ให้เป็นสัญลักษณ์ของ “คุณภาพชั้นดี” นั่นคือสิ่งสะท้อน แบรนด์เนม ชั้นนำ ที่มักเลือกเฟ้นวัสดุมีระดับ รวมถึงผลิตจากช่างฝีมือที่มีความชำนาญเป็นพิเศษทำให้ราคาสินค้ากลายเป็นสิ่งของที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่หลังจากนั้น 15 ปีทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
คนที่เคยคลั่งใคล้แฟชั่นแบรนด์เนมหลายคนในอดีตสามารถจ่ายเงินราคาสูงเพื่อแลกกับความหรูหราและมีคุณภาพของตัวสินค้าได้มากกว่าในอดีต แต่ปัจจุบันเราไม่อาจซื้อของแบรนด์เนมโดยวัดจากคุณภาพกันอีกต่อไป แต่คือกระแสความนิยมของคนส่วนใหญ่ที่ตีค่าให้ผู้ซื้อดูมีราคา
ถ้าจะพูดถึงสิ่งที่สะท้อนความเป็น “แบรนด์” ในอดีต มันคือความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ และแสดงรสนิยมของผู้ใช้ รวมถึงจัดระดับทางสังคม นับตั้งแต่ การเห็นป้ายการันตีชื่อแบรนด์ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นจะมีคุณภาพและใช้วัสดุอย่างดีเยี่ยม อาทิ การที่ซื้อวอลโว่แล้วทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย การสวม Rolex แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนเป็นนักบัลเล่ต์ หรือเมื่อคุณเลือกแจ็คเก็ตหนังของ Saint Laurent ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
มาในยุคหลังๆ บางแบรนด์ที่เคยใช้ความไว้วางใจในชื่อเสียงซื้อใจคน แต่กลับลดคุณภาพการผลิตลงเพื่อให้ได้ผลกำไรมากขึ้น และราคาก็สูงไปตามยุคสมัย 20 ท็อปแบรนด์ดังในตอนนี้ ถือส่วนแบ่งครองตลาดแฟชั่นกว่า 97% เสมือนกำตลาดเอาไว้ในมือเพื่อให้เดินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงกลยุทธ์ในการทำแคมเปญสู่ตลาดผู้บริโภค การเปิดรันเวย์ทุกๆ ซีซั่น หรือใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการผลักดันสินค้า ซึ่งเข้าถึงกลุ่มคนซื้อได้ง่ายและมีอิทธิพลมากกว่าเดิม จนลืมใส่ใจเรื่องคุณภาพในการผลิตไปถนัดตา
นอกจากนี้กระแสของไฮ สตรีทก็เริ่มมีอิทธิพลในปัจจุบันซึ่ง “มันขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำการตลาด” Chris Morency บรรณาธิการระดับสูงของ Hypebeast กล่าว ยกตัวอย่างเสื้อยืดของ Supreme มีเพียงแค่โลโก้สีแดงสกรีนลายบนเสื้อยืดสีขาวแต่ราคากลับสูงมาก ผนวกกับใช้กลยุทธ์การผลิตจำนวนน้อย ทำให้เกิดความต้องการมากจึงทำให้ผู้บริโภคเกิดความแย่งชิง เพื่อจะได้เป็นคนจำนวนน้อยที่ได้ของสุดคูล จึงอาจกล่าวได้ว่า คำจำกัดความของแบรนด์เนมในปัจจุบัน ไม่อาจประเมินกันที่คุณภาพสินค้าได้อีกต่อไป แต่ก็สามารถขายความเป็นแบรนด์ได้ รวมไปถึงเสื้อยืดสกรีนลาย DHL ของ Vetement ที่ยังคงถูกตามหามากที่สุดในขณะนี้
แม้หลายคนจะมองว่าคุณภาพของแบรนด์เนมลดลงและถูกแทรกแซงด้วยการทำตลาดที่เก่งกาจ แต่ก็ยังมีหลายแบรนด์ที่ยังคงคุณภาพและวิธีการผลิตอันประณีตเสมอไว้ อย่างการสร้างสรรค์งานของ Yohji Yamamoto หรือ Jun Takahashi ที่สามารถผสมผสานความหรูหราไปสู่ความเป็นสตรีทได้ แม้จะเป็นเสื้อยืดสกรีนลายแต่คุณภาพดีเยี่ยม
สุดท้ายผู้บริโภคต้องคิดเสมอว่าการใช้เงินจำนวนมากใน 1 ครั้งจะได้ผลลัพธ์อะไรตอบแทน ซึ่งเทรนด์แฟชั่นนั้นมีการหมุนเปลี่ยนไปตลอดเวลา ทำไมเราต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อใส่ได้แค่ไม่กี่ครั้งแล้วกลายเป็นตกยุคเพียงแค่ผ่านไปสองซีซั่น ลองมองไปที่คุณภาพและการเก็บรักษา เสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุชั้นดี จะคงทนและเก็บรักษาได้นานกว่า หากใช้วิธีที่ถูกต้อง ถ้าคุณรักดีไซน์และต้องการความคุ้มค่า ก็อย่าลังเลที่จะโยนเงินสักก้อนเพื่อซื้อมาเก็บไว้ แต่ถ้าต้องการกระเป๋าสักใบเพื่อใช้งานและมีความสววยงามในระดับที่รับได้ ก็ไม่จำเป็นอะไรที่คุณจะต้องใช้แบรนด์เนมราคาแพง เพราะคุณก็ยังหาคุณภาพดีและราคาย่อมเยาว์จากแบรนด์อื่นๆ ได้เช่นกัน