หมัดต่อหมัด รองเท้า Adidas Yeezy – NMD R1 มีดียังไง…ทำไมใครก็อยากได้

เคาน์ดาวน์วินาทีต่อวินาที นับตั้งแต่ รองเท้า Adidas ปล่อย Running shoes ออกมา 2 รุ่นที่เรียกได้ว่าเป็นกระแสชั่วข้ามคืน กับดราม่าการต่อคิวซื้อจนเกิดเหตุจลาจล ทำให้ราคาตอนนี้พุ่งทะลุหลายหลักหมื่น ส่วนหนึ่งเพราะดาราเซเลบฮอลลีวู้ดใส่ หรือราคาที่ให้พ่อค้าแม่ค้ามาปล่อยได้สูงเกินเท่าตัว เพราะเหตุผลอะไรเราไปดูความเจ๋งของราชา Running Shoes 2 คู่นี้กัน

Adidas NMD Runner R1

ว่ากันด้วยรูปทรงที่แรกเห็นก็ตกหลุมรัก กับโมเดลใหม่ล่าสุดจาก Adidas “NMD Runner R1” หลังจากเปิดตัวรุ่นแรกไปเมื่อปลายปี ปีนี้ตอกย้ำความฮิตกลับมาในเฉดสีใหม่ ที่ผสมผสานดีไซน์สุดล้ำจากการนำนวัตกรรมสุดไฮเทคอย่าง Primeknit มาถักทอ ให้คุณสมบัติเบาสบาย ยืดหยุ่นต่อการสวมใส่ โดยไหมสีดำเทาที่ถูกนำมาใช้นั้น ได้ถูกจับมาประสานกันอย่างกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวจนทำให้รองเท้าดูสะดุดตาและมีมิติมากขึ้น

 

เจาะลึกส่วนแรก สงสัยรึไม่ว่าเขามี EVA Plugs โฟมสี่เหลี่ยมแปะอยู่ด้านข้าง 3 จุด ไว้ทำไม ไม่ใช่มีไว้โก้ๆ แต่เพื่อเพิ่มความทนทาน ให้กับตัวพื้นรองเท้าชั้นนอกสุดที่เน้นการรองรับแรงกระแทกและมีดอกยางยึดเกาะพื้น ด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อ ‘Boost’

ส่วนที่สองของ Upper เป็นแบบผ้าถัก Primeknit มีความกระชับและยืดหยุ่น อีกทั้งระบายอากาศดี แบบไม่ต้องใส่ถุงเท่าเพิ่มสำหรับคนที่รักการวิ่งกับการขจัดปัญหาเรื่องเหงื่อ

ทั้งนี้ NMD R1 ได้รวบรวมผลงานชิ้นเอกของ Adidas ซึ่งผสมผสานสไตล์ของรองเท้าวิ่งในอดีตกับเทคโนโลยี และดีไซน์ของสนีคเกอร์ยุคใหม่ โดยหยิบเอารองเท้าวิ่งสุดคลาสสิก ทั้ง 3 รุ่น มาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในแง่มุมต่างๆ คือ

Adidas Micro Pacer ดึงเอาคาแรคเตอร์ของการเคลื่อนที่ หรือออกตัวได้แบบพุ่งทะยาน

Adidas Rising Star ตอบโจทย์เรื่องการรองรับแรงกระแทกและการทรงตัว

Adidas Boston Super น้ำหนักเบา บาง พื้นล่างยึดเกาะอย่างดี

ข้อสุดท้าย ความนิยมในตัวเซเลบริตี้และซุปเปอร์สตาร์ ที่ตั้งแต่เปิดตัวก็มีใส่ให้เห็นมากมาย จนเกิดกระแส และทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้หลายคนคลั่งไคล้ในตัว NMD R1 คงจะเป็นเพราะดีไซน์สวย ทรงเสน่ห์ ตอบโจทย์การใช้งาน รวมถึงผสมผสานจุดเด่นของรองเท้าวิ่งในอดีตไว้ในคู่เดียว และการออกมาในรูปแบบลิมิเต็ด จำนวนจำกัดที่คาดว่าจะส่งผลกำไรให้พ่อค้า-แม่ค้าสามารถส่งต่อจากราคาเปิดตัว 6,990 บาท พุ่งทยานสู่หลักหมื่น

Adidas Yeezy Boost 350

เพิ่งจบกระแสไปไม่นาน แต่ Yeezy ก็ยังคงอยู่ในตลาดความต้องการของเหล่าสนีกเกอร์ทั้งหลายอยู่ และราคาก็ยังคงแรง เรียกว่าบางที่เหยียบหลายหมื่น ทั้งที่จริง ๆ Adidas ก็ Sold out ไปหมดแล้วแต่ก็ยังมีบางคนเก็บไว้เก็งกำไร รอจัดชุดใหญ่ในตลาด ถ้าจะพูดถึง Yeezy น่าจะเป็นรุ่นพี่ของ Adidas ที่ระเบิดทั้งดีไซน์และเทคโนโลยีการผลิต แม้จะดึงหลักการของรุ่นเก๋าๆ มาใช้แต่เมื่อ Kanye West มาร่วมกับ Adidas ยิ่งเป็นการการันตีความนิยมของ Running Shoes คู่นี้ได้อย่างดี

จุดแรกของ Yeezy ตัว Upper ใช้วัสดุถักทอสไตล์ Adidas ด้วยเทคโนโลยี Primeknit เช่นเดียวกับ NMD มีความยืดหยุ่น โอบกระชับเท้าและรองรับรูปแบบการเดินและวิ่งที่แตกต่างของแต่ละบุคคล ทั้งตัวรองเท้าจะมีรอยเย็บต่อตะเข็บอยู่แค่จุดเดียว พื้นรองเท้าเป็นพื้นยางและมีน้ำหนักเบา

ส่วนตัวชิ้นโฟมที่เป็น Boost technology หรือจุดขายที่ Kanye West พยายามบอกว่าสิ่งที่ทำให้ Yeezy Boost มีความแตกต่างและสบายกว่ารองเท้ารุ่นอื่นๆ ที่อยู่ใต้พื้นรองเท้า ให้ความรู้สึกนิ่ม เด้งและเคลื่อนไหวได้สะดวก แม้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 8,490 บาท แต่ตอนนี้กลับพุ่งทยานไปแตะ 30,000 แล้วเช่นกัน

Yeezy ในรุ่นของ 350 จะมีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Turtle Dove,Pirate Black,Moonrock และ Oxford Tan

Turtle DovePirate Black MoonrockOxford Tan

โดยรวมแล้วทั้ง NMD และ Yeezy ตอบโจทย์ได้ตรงใจทั้งคนที่รักการออกกำลังและเหล่าสาวกสนีกเกอร์ได้อย่างดี เพราะดีไซน์ที่ปรับใช้ได้ทั้งสองฟังก์ชั่น น้ำหนักเบา ดีต่อเท้าและที่สำคัญเมื่อใส่ไปสักพัก รองเท้าก็จะเริ่มเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย จนคุณลืมไปเลยว่าสวมรองเท้าอยู่ แต่อย่างไรก็ดี ควรรักชอบอย่างพอดี และมีสติ ไม่เช่นนั้นคุณอาจเสียใจภายหลังด้วยอารมณ์การตัดสินใจชั่ววูบนะจ๊ะ

 

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.