ใช้ 4G ยังไม่ทันเร็ว อนาคต “5G” มารอแล้ว
WHAT: 5G หนึ่งในเจนเนอเรชั่นความเร็วระบบเครือข่ายไร้สายของการส่งต่อข้อมูลแบบใหม่จริงๆ หรือเป็นเพียงวิธีทำการตลาดของค่ายมือถือเท่านั้น มาทำความรู้จักกันสักหน่อย
แม้จะมีข่าวออกมาหลายปีว่าอีกไม่นานเราจะมีระบบ 5G ใช้ ด้วยความเร็วมากขึ้นแบบติดสปีดในการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายแห่งอนาคต แต่ล่าสุดมีข่าวรั่วออกมาว่าในงาน Mobile World Congress 2017 นอกจากจะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ยังมีการเผยถึงระบบความสามารถที่จะมารองรับ 5G ในอนาคต
แล้วอะไรคือ 5G? เป็นหนึ่งในความเร็วของการส่งต่อข้อมูลแบบใหม่จริงๆ หรือเป็นเพียงวิธีทำการตลาดของค่ายมือถือเท่านั้น มาทำความรู้จักกันหน่อย
5G คืออะไร ?
ถ้าจะให้พูดเข้าใจง่ายๆ 5G หมายถึงเจนเนอเรชั่นที่ 5 ของระบบเครือข่ายไร้สายที่ใช้ในการเชื่อมต่อข้อมูลระบบเซลูลาร์ ตัว G ที่เราเห็นในคำว่า 3G, 4G และ 5G ย่อมาจาก Generation ที่แปลว่ารุ่น ดังนั้น 5G จึงแปลว่า รุ่นที่ห้าของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สาย
ย้อนรำลึกกันสักนิดระบบ 1 G ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกประมาณปี 1982 ซึ่งยังคงมาในรูปแบบของอนาล็อกเต็มตัว ก่อนที่จะกระโดดข้ามเข้าสู่ระบบดิจิตอลแบบ 2G ราวๆ ปี 1991 มาพร้อมรูปแบบการทำงานของ GPRS และ เทคโนโลยี EDGE หลังจากนั้นอีก 10 ปี ระบบ 3G ก็ถือกำเนิดขึ้นแต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการ รองรับความเร็วของผู้ใช้งานได้มากที่สุด แต่มันก็ดีกว่าระบบแบบเก่าๆ และตอนนั้น Wifi ก็เข้ามาช่วยสนับสนุนการใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้บริโภคใช้งาน จนกระทั่งล่าสุดระบบ 4 G ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศ ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะได้ยินข่าวของ 5G มาสักพักใหญ่ แต่ก็คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ที่ระบบใหม่จะถูกนำมาใช้ แต่น่าจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างในปี 2018 และจะกำหนดมาตรฐานของ 5G ในปี 2019 โดย สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศสาขาสหรัฐอเมริกา โดยค่ามาตรฐานนี้จะเป็นตัวกำหนดว่าเทคโนโลยีใดจะถูกเรียกว่า 5G บ้าง
เมื่อไร 5G จะมา ?
อย่างดีที่สุดเราจะได้เห็น 5G ในระบบเชิงพานิชย์ช่วงต้นยุค 2020s ถ้าจะให้คาดคะเนจากที่ผ่านมา เราเริ่มใช้ระบบ 1G – 4G ประมาณทุกๆ 10 ปี ฉะนั้นในปี 2021 ระบบเครือข่ายไร้สายรูปแบบ 5G น่าจะมาแน่ๆ ซึ่งวางแผนที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ 5G ถูกนำมาใช้ให้บริการแก่ประชาชนโดยเร็วที่สุดแต่จะมีการทดลองใช้ 5G ในโอลิมปิกฤดูหนาวที่ประเทศเกาหลีใต้ในปี 2018 และอาจจะมีการเริ่มใช้งานจริงในปี 2020 แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนจะผลิตเพื่อออกมารองรับระบบ 5G ในเร็วๆ นี้เพราะ ในงาน MWC เราก็ไม่คาดหวังว่าจะมีค่ายโทรศัพท์ค่ายไหนชูจุดเด่นในเรื่องการรองรับระบบ 5G ในความสามารถสมาร์ทโฟนของตัวเอง
แล้ว 5G แตกต่างจาก 4G อย่างไร?
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามที่เราได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการทำงานของ 5G จากที่ไหน นั้นอาจเป็นเพียงการคาดคะเนสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าความเร็วหรือการรองรับของ 5G จะเท่ากับที่คาดการณ์ไว้จริงๆ รึเปล่า? เราอาจจะได้เห็น 5G ที่มีความเร็วมากกว่า 4G ถึง 30 เท่า ซึ่งเร็วมากพอที่จะดูวิดีโอ 8K ออนไลน์แบบ 3 มิติ หรือดาวน์โหลดภาพยนตร์ 3 มิติ ได้ในภาย 6 วินาที (ในขณะที่ 4G ใช้เวลา 6 นาที) น่าเสียดายที่ในความเป็นจริงความเร็วจะน้อยกว่านั้นมาก
Nokia หนึ่งในผู้พัฒนา 5G รายใหญ่ เชื่อว่าเทคโนโลยี 5G จะมีความเร็วประมาณ 100 เมกาบิตส์ต่อวินาที เมื่อเครือข่ายทั้งหมดเปิดใช้งานพร้อมกัน ซึ่งมากกว่าความเร็วสูงสุดของ 4G อยู่ 4 เท่า
5G ทำงานอย่างไร?
บริษัทที่กำลังทดลอง 5G ส่วนมากจะลองใช้สัญญาณคลื่นความถื่ที่สูงถึง 73,000 MHz ในขณะที่โทรศัพท์มือถือทั่วไปรับได้แค่ 700-3,500 MHz ข้อดีของคลื่นความถี่ที่สูงขนาดนั้นคือส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น แต่ข้อเสียคือสัญญาณคลื่นสั้นกว่า และทะลุผ่านกำแพงได้ยากกว่า นั่นหมายความว่าจะต้องมีการต่อเสาอากาศเพิ่มเติมบนหลังคาตึกและบ้านทุกหลัง หรือแม้กระทั่งในห้องทุกห้องในบ้าน ก็ดูจะเป็นการยุ่งยากหากท้ายที่สุดไม่มีการพัมนาให้ง่ายสำหรับผู้บริโภค
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม 5G อาจจะเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของ 4G แทนที่เราจะใช้งานมันแทน 4G ได้ แต่อีกไม่นานก็คงจะพัฒนาให้ใช้งานได้จริง