ถ้ารู้สึก ปากแห้ง ตึงๆ ในช่วงนี้อยู่ล่ะก็ อย่าปล่อยให้ริมฝีปากแห้งแตกเป็นขุยนะครับ นอกจากจะดูเหมือนคนเป็นป่วยแล้ว ในกรณีที่เป็นมากๆ อาจถึงขั้นปากแตกเลือดออกซิบๆ ยิ่งไม่น่ามองเข้าไปใหญ่ วันนี้ FAVFORWARD มี 4 สิ่งที่ควรทำ และ 4 สิ่งไม่ควรทำ เมื่อต้องเจอกับอาการ ปากแห้ง ตึง หรือแตกเป็นขุยมาบอก ตามอ่านกันได้เลยครับ
ถ้าเกิดอาการปากแห้ง ควรจะ…
การรักษาความชุ่มชื่นให้ร่างกายในช่วงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าร่างกายขาดความชุ่มชื่น ก็จะส่งผลถึงผิวบริเวณริมฝีปากด้วย!
น้ำตาลเป็นสารดูดความชื้นชนิดหนึ่ง ฉะนั้นถ้าคุณนำมาผสมกับน้ำผึ้งแล้วนำมาขัดริมฝีปาก โดยใช้แปรงสีฟันนุ่มๆ สะอาดๆ ถูวนไปมาเบาๆ ขุยแห้งๆ บนริมฝีปากก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย อีกทั้งช่วยทำให้ริมฝีปากดูเนียนเรียบ และต่อต้านการอักเสบได้ด้วย
การทาลิปบาล์มในตอนกลางคืนนั้น คุณควรเลือกสูตรที่มอบความชุ่มชื่นให้กับริมฝีปากได้แบบเข้มข้น ซึ่งมักจะต้องมีส่วนผสมของ เชีย บัทเทอร์ หรือน้ำมันที่ได้จากธรรมชาติ อย่าง โคโคนัทออยล์ หรือ ซัน ฟลาวเวอร์ออยล์ เป็นต้น
– บีส์แว๊กซ์ โดยเฉพาะ ขี้ผึ้งแท้ 100% ปราศจากสารเคมีใดๆ จะดีที่สุด
– ส่วนผสมจากธรรมชาติ อาทิ โคโคนัทออยล์, ซันฟลาวเวอร์ออยล์ ฯลฯ
ถ้าเกิดอาการปากแห้งแตก ก็ไม่ควร…
ถึงแม้น้ำลายจะทำให้ริมฝีปากรู้สึกชุ่มชื่นขึ้นได้ทันที แต่พอน้ำลายแห้งเมื่อไหร่ ปากก็ยิ่งมีอาการแห้งและแตกระแหงมากกว่าเดิม เนื่องจากในน้ำลายมีสารบางอย่างที่ช่วยย่อยอาหาร จึงทำให้ริมฝีปากเกิดอาการระคายเคืองได้
เนื่องจากการทำแบบนั้นนอกจากจะทำให้เกิดแผลที่มีเลือดไหลซิบๆ แล้ว ยังเปิดทางให้เชื้อโรคต่างๆเข้าไปทำให้เกิดอาการอักเสบหรือติดเชื้อได้ ฉะนั้นควรขัดด้วยน้ำตาล ตามที่บอกไปแล้วจะดีกว่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนไหนกำลังปากแห้งแตกเป็นแผล ยิ่งควรหลีกเลี่ยงเลยครับ เพราะผลิตภัณฑ์ที่ใช้มานานเกินไปหรือหมดอายุไปแล้ว เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย อาจก่อให้เกิดอาการอักเสบหรือติดเชื้อได้
– พาราเบน
– ปิโตรเลียมเจลลี่
– น้ำหอม
– สีสังเคราะห์
– สารเคมีต่างๆ
– แอลกอฮอล์
– กรดฟีนอล หรือกรดซาลิไซลิค
ซึ่งบางคนอาจไวต่อสารเคมีเหล่านี้ ก็อาจะเกิดอาการระคายเคืองได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ดูได้จากรายละเอียดที่อยู่ในฉลากของลิปบาล์มนั้น ถ้ามีส่วนผสมเหล่านี้ก็ควรหลีกเลี่ยงดีกว่าครับ
Photo : pinterest