เปิดไฟส่อง 10 ไฮไลท์ยนตกรรมน่าโดนในงาน Motor Expo 2016
รถดี พริตตี้สวย กลับมาอีกครั้งส่งท้ายปีกับงานที่รวมสุดยอดขุมพลังแห่งท้องถนน รถยนต์ จักรยานยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งภายในงาน Motor Expo 2016 มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 33 เมื่อรถ…คน และโลก เชื่อมกันเป็นหนึ่งเดียว ด้วยการเปิดตัวที่แสนเรียบง่าย เพื่อความเหมาะสมสถานการณ์ปัจจุบัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ เชื่อมโลก เชื่อมคน ยานยนต์อัจฉริยะ “Connect the World…Connect People: Smart Vehicles”
ที่แปลกตาครั้งนี้นอกจากการเปิดตัว 3 คอนเซ็ปต์คาร์ตัวใหม่ และรถยนต์ไฮไลท์ของงาน เมื่อซูมดูเหล่าพริตตี้ประจำแต่ละบูธ กลับเห็นภาพความพร้อมเพียงในการแต่งตัวเรียบร้อยสวยสง่า ไม่เปิดโชว์หวิวเหมือนก่อนๆ อีกแล้วเพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ก่อนจะไปชมรถสวยๆ ตอบโจทย์ความต้องการ วันนี้ favforward นำไฮไลท์ 10 รุ่นมาฝากกันครับ
1. PORSCHE 718 Cayman
ขอเปิดตัวแรงด้วยสปอร์ตคูเป้สีสดสะดุดตา พละกำลังเปี่ยมสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ นอนใหม่ พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ส่งผลถึงการบังคับควบคุมและตอบสนองอันเยี่ยมยอดไร้ที่ติ ทั้งในรุ่นคูเป้ (Coupe) และ โร้ดสเตอร์ (roadster) ให้พละกำลังในรุ่นปกติที่ 300 แรงม้า (221 กิโลวัตต์) จากความจุเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร สำหรับรุ่น S ให้พละกำลังที่สูงถึง 350 แรงม้า (257 กิโลวัตต์) ด้วยความจุเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร สูงกว่ารุ่นเดิมถึง 25 แรงม้า (18 กิโลวัตต์) ประหยัดยิ่งขึ้นด้วยอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน NEDC ที่ 12.3 -17.5 กิโลเมตร/ลิตร (8.1 – 5.7 ลิตร/100 กิโลเมตร) เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรใหม่ ให้แรงบิดมหาศาล เป็นเครื่องการันตีถึงการตอบสนองการขับขี่ที่เร้าใจของ 718 เคย์แมน (Cayman) ในทุกรอบการทำงาน จากแรงบิดสูงสุดกว่า 380 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 90 นิวตันเมตร) ที่รอบการทำงาน 1,950 ถึง 4,500 รอบต่อนาที ในส่วนของเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ในรุ่น 718 เคย์แมน เอส (Cayman S) ได้รับการติดตั้งระบบอัดอากาศเทอร์โบแปรผัน (VTG) นวัตกรรมเทคโนโลยีแบบเดียวกับสุดยอดยนตกรรมสปอร์ต ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ (Turbo)
2. BMW M4 GTS Coupe
รถในฝันของชายหนุ่มหลายๆ คนทั้งความคมเข้มดุดันและสมรรถนะที่แรงเกินตัว BMW M4 GTS Coupe ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 30 ปีของ M3 เพียง 700 คันทั่วโลกและประเทศไทยนำเข้าเพียงแค่ 2 คัน เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี BMW M Twinpower Turbo แบบ Water Injection กำลังสูงสุด 500 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 61.2 กก.-ม. พุ่งทะยานความเร็วจาก 0 ถึง 100กม./ชม.ในเวลาเพียง 3.8 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดที่ 305 กม./ชม.
3. Mercedes-Benz C250 Coupe
พี่ใหญ่มาดสปอร์ท ท้ายลาดเท เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 211 แรงม้าที่ 5,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 35.7 กก.-ม. ที่ 1,200-4,000 รตน. เกียร์อัตโนมัติขับมันถึง 7 จังหวะ อัตราเร่ง 0 ถึง 100กม./ชม.ในเวลาเพียง 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
4. MINI John Cooper works
มินิ จอห์น คูเพอร์ เวิร์ค รถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตของ MINI รุ่นใหม่ล่าสุด การจับแมตช์คู่สีใหม่ที่ดูสะดุดตาที่ยังสร้างคาแรกเตอร์ขี้เล่นไว้เช่นเคย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทวินเพาเวอร์เทอโบ 231 แรงม้า ที่ทรงพลังที่สุดของมินิ เท่าที่เคยมีมา สามารถเร่งความเร่งจาก 0 ถึง 100กม./ชม.ในเวลาเพียง 6.1 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดที่ 246 กม./ชม. โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 16.1 กม./ลิตร ซึ่งงานนี้จอห์น คูเพอร์ เวิร์คไม่ได้มาคันเดียวยังพาเพื่อนแมนๆ อีกหนึ่งความน่าหลงใหลมาเปิดตัวพร้อมกันได้แก่
มินิคลับแมนรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนเกียร์อัตโนมัติมากถึง 8 จังหวะกันเลยละครับ
5. HYUNDAI ENDURO
“ฮุนได เอ็นดูโร” เป็นรถต้นแบบที่ได้รับการกล่าวถึงในความเป็นรถต้นแบบสไตล์ครอสโอเวอร์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว “ฮุนได เอ็นดูโร” เผยโฉมครั้งแรกในปี 2558 ชื่อ “เอ็นดูโร” (Enduro) มาจากคำว่า “Endurance” ซึ่งสื่อถึงความแข็งแรง ทนทาน และความเพียบพร้อมไปด้วยความทันสมัยในแบบที่จินตนาการได้ การออกแบบถูกผสมผสานระหว่างรูปทรงของรถเอสยูวี และรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการแข่งขันแรลลี่ ออกมาในรูปแบบที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตส์ผู้ใช้ชีวิตในเมือง และต้องการหลีกหนีความจำเจที่เผชิญอยู่ในทุกๆวัน มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร แบบฉีดเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ คลัทช์คู่ 7 จังหวะ ส่วนกระจกมองข้าง ถูกแทนที่ด้วยกล้อง ที่แสดงภาพในมุมที่กว้างกว่ากระจกมองข้างทั่วไป โดยภาพจะถูกแสดงขึ้นที่ด้านบนของแผงหน้าปัดด้านหน้า ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเช็คระยะห่างและสภาวะโดยรอบของตัวรถได้อย่างรวดเร็ว
นอกเหนือจากรถยนต์ต้นแบบและรถยนต์อเนกประสงค์ใหม่ ภายในงานยังมีรถยนต์ โฉมใหม่ปี 2016 อย่าง “ฮุนได เอช-วัน” และ “ฮุนได แกรนด์ สตาร์เร็กซ์” รวมไปถึงรถสปอร์ตซีดาน “ฮุนได เอลันตรา” มาพร้อมข้อเสนอพิเศษและเชิญทดลองขับรถยนต์ฮุนไดได้ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33
6. Suzuki ERTIGA GX และ Suzuki CELERIO Limited
หลังจากประสบความสำเร็จในการทำอีโคคาร์ Suzuki รุกหน้าต่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ ส่ง 2 สิงห์จิ๋วแต่แจ๋ว Suzuki ERTIGA GX และ Suzuki CELERIO Limited โดย Suzuki ERTIGA GX เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 3 แถว 7 ที่นั่ง การออกแบบภายนอกและภายใน ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม ที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยอย่างครบครัน ทั้ง ระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า กุญแจนิรภัย Immobilizer โครงสร้างตัวถัง TECT ออกแบบจากเหล็กกล้าน้ำหนักเบาแข็งแกร่งทนทาน ระบบเบรก ABS และ EBD อีกทั้งสัญญานเตือนขณะถอยหลัง เพื่อให้ลูกค้ำได้เลือกสรรเข้ากับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ในราคาเพียง 695,000 บาท โดยสีขาวเพิ่ม 5,000 บาท
สำหรับ Suzuki CELERIO Limited เป็นคอมแพ็คคาร์รุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับสีสัน ดีไซน์ทูโทนแนวสปอร์ตรอบคัน ไปได้ทุกที่ด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะเกินตัว โดยมีให้เลือก 2 รุ่น คือ Suzuki CELERIO GA Limited ในราคาเดิม 366,000 บาท และ Suzuki CELERIO GL Limited ในราคา 446,000 บาท
7. MAZDA CX-5 CROSSOVER SUV
เป็นกระแสฮิตตั้งแต่ต้นปี เพราะ Mazda ถือเป็นแบรนด์แรกๆ ที่รุกตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์ MAZDA CX-5 CROSSOVER SUV เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ดีเซลเทอร์โบ คอมมอนเรล ไดเร็คท์อินเจคชั่นขนาด 2.2 ลิตร 175 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะพร้อมแมนนวลโหมด แรงและประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.5 กม./ลิตร และเครื่องงยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ไดเร็คท์อินเจคชั่นขนาด 2.0 ลิตร 165 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้ถึง 14.5 กม./ลิตร
มาสด้าได้นำเอารถยนต์รุ่นใหม่มาให้ลูกค้าได้สัมผัสเทคโนโลยีแห่งอนาคตในรถมาสด้า สายพันธุ์สปอร์ตเจนเนอเรชั่นที่ 6 มากันครบทุกรุ่น ตั้งแต่รถสปอร์ตเปิดประทุน MX-5 รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ CX-3 และ CX-5 รถยนต์นั่ง Mazda3 และ Mazda2 ที่หลอมรวมด้วยองค์ประกอบที่ดีที่สุดของยานยนต์ในปัจจุบัน โดดเด่นสง่างามด้วยปรัชญาการออกแบบ โคโดะ ดีไซน์, ตอบสนองขั้นเทพทั้งความแรง และประหยัดน้ำมันด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ระบบความปลอดภัยระดับโลกกับเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE และการเชื่อมต่อสื่อสารด้วย MZD CONNECT เติมเต็มตลาดปิกอัพด้วยสปอร์ตปิกอัพสายพันธุ์แกร่ง บีที-50 ตอบโจทย์ลูกค้าครบทุกความต้องการใช้งาน
8. TOYOTA Yaris TRD Sportivo Limited Edition
ขยี้ตาแทบไม่ทัน เพราะสีสันนั้นแสบจี๊ดเกินห้ามใจ โตโยต้าเพิ่มสีใหม่เอาใจนักซิ่งที่ชอบความมีเอกลักษณ์กับการเปิดตัวสีพิเศษในงานนี้ โดยนำรุ่นยอดนิยมอย่าง ยาริส ในรุ่นพิเศษ ทีอาร์ดี สปอร์ติโว กับสีสันใหม่สุดแสบสะท้านทรวง ด้วยราคาในแพ็คเกจเดิมคือ 6.49 แสนบาท นอกจากสีสันตัวถังที่ดูสะดุดตา ยังมาพร้อมชุดแต่ง TRD Sportivo รอบคัน ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบทูโทน ขนาด 15 นิ้ว ภายในมีการตกแต่งใหม่เพิ่มเติม ให้คล้องกับสีรถยนต์ด้วย สีดำสลับเหลือง ซึ่งเป็นคู่สีที่ตัดและลงตัวกัน เบาะนั่งดีไซน์ใหม่สีดำเดินด้ายเหลือง พร้อมสลัก TRD Sportivo บริเวณที่พิง หรือถ้าใครชอบดีไซน์ใหม่แต่ยังลังเลกับสีที่จัดจ้านเกินไป ยาริส สปอร์ติโวยังมีสีขาว Super White, สีส้ม Orange Metallic ให้เลือกเพิ่มเติม
9. MG3
นับว่าทำตลาดได้ดีตั้งแต่เริ่มเปิดตัว ทั้งราคา การดีไซน์ สมรรถนะในการขับที่เรียกได้ว่าสมศักดิ์ศรีดีพอๆ กัน ดูรวมๆ แล้วเหมาะสมกับใครที่ต้องการรถราคาสบายกระเป๋า MG3 โฉมใหม่ที่เปิดตัวในงานมาพร้อมกับสปอยเลอร์หลัง สเกิร์ทข้างสีทูโทนและล้อแม็กซ์ดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว ในรุ่น V เพิ่มสีทูโทนใหม่สีเหลืองหลังคาขาว ในรุ่น X และ D อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยครบครัน เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้าที่ 6,000 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะแบบเซเลเมทริค
10. NISSAN NAVARA ENGUARD CONCEPT
นิสสัน นาวารา เอนการ์ด คอนเซพท์ (Nissan Navara EnGuard Concept)” รถต้นแบบที่เพิ่งเปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท ประเทศเยอรมนี ในฐานะ รถกู้ภัยที่มีประสิทธิภาพและสมรรถนะสูง สามารถบุกตะลุยเข้าได้ในทุกพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจ อย่างมากในงาน นิสสัน นาวารา เอนการ์ด คอนเซพท์ (Nissan Navara EnGuard Concept) ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับพื้นที่อันตรายและสถานการณ์ต่างๆ โดยดัดแปลงจาก นิสสัน นาวารา รุ่นดับเบิลแคบ 4 ประตู ได้รับการติดตั้งชุดแบตเตอรี่กำลังสูงแบบพกพา เอกสิทธิ์ทางเทคโนโลยีจากรถยนต์ไฟฟ้าของ นิสสัน แบบเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100 % อย่าง ลีฟ (Leaf) และ อี-เอนวี 200 (e-NV200) โดยแบตเตอรี่แต่ละโมดูล จะประกอบด้วยช่องสำหรับเสียบชาร์จไฟฟ้าเข้าและช่องจ่ายไฟออกที่สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายและการใช้งาน ซึ่งในสถานการณ์ฉุกเฉินสามารถเป็นแหล่งพลังงานให้เครื่องมือชนิดต่างๆ เช่น เครื่องตัดถ่าง เครื่องยกของหนัก นอกจากนี้ ช่องเสียบชาร์จไฟยังถูกติดตั้งไว้ด้านข้างกระบะเพื่อง่ายต่อการใช้งานอีกด้วย ขณะที่บริเวณส่วนท้ายกระบะ มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับจัดเก็บอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นต่างๆ อาทิเช่น ดโรน พร้อมจอแสดงผล HD แบบ pop-up ที่ซ่อนอยู่ด้านข้างกระบะท้าย วิทยุสื่อสาร เชือก และขวาน ไปจนถึง ถังออกซิเจน อุปกรณ์กู้ชีพ เสื้อชูชีพ ทุ่นพยุงลอยน้ำ เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ นิสสัน ในการพัฒนาให้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ให้สามารถใช้งานได้จริง และเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในสังคม หรือที่เรียกว่า Intelligent Integration อันเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญยิ่ง ของการพัฒนา นวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะของ นิสสัน (Nissan Intelligent Mobility) นอกจากนี้ยังนำรถยนต์ยอดนิยมมาจำหน่าย ทั้งหมด 9 รุ่น โดยทุกรุ่นเน้นความโดดเด่นที่ความล้ำสมัย ตอบทุกโจทย์การใช้ชีวิต โดยหลายรุ่นที่นำมาจัดแสดงในงาน มีการเติมความสดใหม่และเพิ่มความเร้าใจ ซึ่งสำหรับลูกค้าอีโคคาร์ ซีดาน ในงานนี้ เชื่อว่าจะถูกใจ กับ นิสสัน อัลเมรา สปอร์เทค ใหม่ ที่นอกจากจะมีการเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งใหม่ 2 รายการ ได้แก่ชุดคิ้วบันไดสเตนเลสส์ (Kicking plate) และปลอกปลายท่ออลูมิเนียม (Exhaust Pipe)
ปิดท้ายด้วยความน่ารักสดใสสีสันใหม่ค่าย Nissan จาก Juke และ March ที่เพิ่มสีสันให้สะดุดตาโดนใจ เจาะกลุ่มวัยเริ่มเข้าทำงานมากขึ้น
แล้วมาพบกันในงาน Motor Expo 2016 “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33” ชมรถยนต์ในงานกว่า 37 แบรนด์ จาก 9 ประเทศ, รถจักรยานยนต์ 21 แบรนด์ จาก 8 ประเทศ, รถแนวคิด 3 คัน, เปิดตัวรถใหม่กว่า 10 รุ่น และมีโปรโมชันพิเศษมากมาย
สามารถซื้อบัตรเข้าชมงานราคา 100 บาท เพื่อร่วมทำกุศลกับทางผู้จัดงาน 12.00 – 22.00 น. วันที่ 2 – 12 ธันวาคม 2559 วันสำหรับบุคคลทั่วไป วันธรรมดา 12.00 – 22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ 11.00 – 22.00 น.
Story: porko
Photo: Yui Benjasiri