5 แบรนด์ Made in U.S.A คุ้มค่าแก่การควักเงินซื้อ

“Made in U.S.A” ชื่อนี้การันตีคุณภาพ ความเจ๋งและมีประวัติอันยาวนานผ่านงานฝีมือการผลิตของช่างมืออาชีพ ทำให้สินค้าหลายชนิดกลายเป็นของหายาก บางรุ่นก็เลิกผลิตไปแล้ว บางรุ่นผลิตออกมาจำนวนจำกัด แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันก็คือ แม้สินค้าจะเป็นแบรนด์เดียวกัน แต่คุณภาพที่ผ่านงานจาก U.S.A นั้นน่าซื้อ น่าเก็บสะสมกว่าแน่นอน และนี้คือ 5 แบรนด์ที่ถือว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนซื้อ

New Balance

แบรนด์ New Balance เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1906 โดย William J. Riley เป็นผู้ก่อตั้ง จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์รองเท้าที่มีความโค้งมน และรับได้ทุกสภาพแวดล้อม ทำให้ผลิตภัณฑ์แรกของเขามีลักษณะโค้งที่มีความยืดหยุ่นสูง ได้รับการออกแบบจากการสร้างจุด 3 จุดซึ่งจะทำให้มีความสมดุลและความสะดวกสบายในรองเท้าด้วย เป็นที่มาที่ Riley ตั้งชื่อว่ารองเท้า New Balance ไม่น่าเชื่อว่าแรงบันดาลใจนั้นมาจากการสังเกตลักษณะทรงเท้าของไก่ เขาอธิบายให้กับลูกค้าได้รู้ถึงความสมดุลที่เขาคิดค้นได้ ในปี 1934 เขาได้ร่วมเป็นหุ้นส่วนกับ Hall และขายธุรกิจนี้ให้ลูกสาวและสามีของเธอ  ไม่นาน New Balance ก็กลายเป็นรองเท้าที่ฮิตกันในหมู่ มหาวิทยาลัย MIT Tufts และมหาวิทยาลัยอื่น ๆ หลังจากนั้น New Balance ก็ถูกพัฒนาและขยายเครือข่ายการผลิตไปทั่วโลก จนกลายเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมสูงตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบันเลยทีเดียว

สำหรับในประเทศไทย รองเท้า ยี่ห้อ New Balance ได้เข้ามาครองใจชาวไทยเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เรียกได้ว่าเกือบจะทุกกลุ่มอายุทุกเพศทุกวัยไม่ว่าจะเด็กเล็กเด็กโตวัยรุ่นผู้ใหญ่หรือแม้แต่ผู้สูงอายุก็เห็นสวมใส่กันอย่างแพร่หลายโดยเริ่มฮิตมาจากเหล่าบรรดา celeb ดารานักแสดงได้สวมใส่ หรือแม้แต่ Steve Job ที่ใส่มันขึ้นเปิดตัว iPhone จนกลายเป็นภาพแห่งความทรงจำ

นอกจากนั้นสิ่งสำคัญที่ทำให้ รองเท้า New Balance เป็นที่นิยมมากและผู้คนอยากมีไว้ในครอบครองนั้นก็คือสินค้ามีความหลากหลายรูปลักษณ์สวยงาม สีสันทันสมัย คุณภาพดีสวมใส่เบาสบายเท้าและมีความคล่องตัวสูงเนื่องจากรูปทรงที่กระชับสัดส่วนและมีการระบายอากาศที่ดีทำไห้ไม่มีกลิ่นเก็บรักษาได้ง่าย แมตช์เข้าได้กับเสื้อผ้าทุกชุด และตอนนี้ก็ยังมีบางรุ่นที่ผลิตที่ USA

Levi’s

Levi’s 501 น่าจะเป็นรุ่นยอดฮิตที่ใครๆ ก็ตามหาอยู่และเป็นรุ่นที่ถูกผลิตออกมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน Levi’s แบรนด์ที่มีตำนานยีนส์มายาวนาน ถือกำเนิดขึ้นจาก นายลีวาย สเตราส์ (Levi Strauss) ชาวเยอรมัน เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมอยู่ในยุคตื่นทอง เมื่อปี ค.ศ.1850 ซึ่งทุกคนต่างมุ่งหน้าไปขุดทองที่เหมืองในเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา สเตราส์เดินทางไปที่นั่นเช่นกัน แต่เขาไปเพื่อขายของ ซึ่งของที่นำไปขายได้ขายหมดระหว่างทาง เหลือเพียงผ้าเต็นท์เท่านั้น เมื่อไปถึงเหมือง ชาวเหมืองคนหนึ่งบอกให้เขาหากางเกงที่ทนทานมาขายบ้าง เพราะกางเกงคนขุดเหมืองขาดง่าย คำพูดนี้จุดประกายความคิดให้สเตราส์ทันที เขาจึงนำเอาผ้าเต็นท์มาให้ช่างตัดเป็นเสื้อและกางเกง แล้วนำออกขาย ปรากฏว่าขายดีอย่างนึกไม่ถึงจนผ้าเต็นท์หมดในไม่ช้า สเตราส์จึงสั่งผ้าใบเรือมาตัดเสื้อผ้า ในขณะที่ผ้าเต็นท์ขาดตลาด เขาสั่งผ้าหนาอีกหลายชนิดมาจากนิวยอร์ก และนำมาย้อมเป็นสีน้ำเงินคราม อันเป็นสัญลักษณ์ของเสื้อผ้ากรรมกร

เชื่อหรือไม่ว่า ลีไว สเตราส์ ไม่เคยใส่กางเกงยีนส์เลยในชีวิตของเขา ในปี ค.ศ. 1873 เป็นปีแรกที่กางเกงLevi’s ถูกผลิตขึ้น มันเป็นกางเกงสำหรับคนใช้แรงงาน ไม่ใช่กางเกงสำหรับนักธุรกิจ แต่สเตราส์ก็ยืนยันว่า กางเกงที่เขาผลิตขึ้นนั้นเป็นกางเกงที่มีคุณภาพเยี่ยม ถึงแม้ว่าจะเป็นกางเกงสำหรับใช้ทำงานแบกหามก็ตาม  สเตราส์ ค่อยๆพัฒนาเนื้อผ้า เปลี่ยนสีจากสีน้ำตาลแบบผ้าใบมาเป็นสีน้ำเงินเข้ม โลโก้ของกางเกงยีนส์ลีไวส์ ที่เป็นรูปม้า 2 ตัว เริ่มใช้ใน ค.ศ. 1886 แถบสีแดงที่ติดอยู่กับกระเป๋าด้านหลังเริ่มมีขึ้นใน ค.ศ. 1936 เพื่อให้สังเกตได้แต่ไกลว่ากางยีนส์ตัวนี้เป็นของลีไวส์ ทั้งหมดถูกจดทะเบียนให้เป็น trademarks ของ Levi’s และยังคงใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน

Billykirk

เราอาจจะไม่คุ้นหูเท่าไรกับแบรนด์ Billykirk ที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1999 โดยสองพี่น้อง Chris and Kirk Bray ในลอสแองเจลลิส Billykirk คือบริษัทผลิตกระเป๋าทำจากผ้าแคนวาสและหนัง เครื่องหนังชิ้นเล็กๆ รวมถึงกระเป๋าล้วนทำจากช่างฝืมือที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ ขึ้นงานด้วยความประณีตละเอียดอ่อน น่าแปลกที่ว่าส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตมักจะสร้างสรรค์กระเป๋าแต่ละรุ่นออกมาตามเทรนด์ แต่ Billykirk กลับเน้นพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงความคงทนของกระเป๋า คุ้มค่ากับการลงทุนให้สามารถใช้ได้นานหลายปี

Red Wing

เชื่อว่าหนุ่มๆ หลายคนน่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้รองเท้าหนังแบรนด์ Red Wing คุณภาพ สีหนัง และความเท่ที่ยอมแลกแม้จะราคาเหยียบหลักหมื่นก็ตาม ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่ทำจากอเมริกาแน่นอนว่าคุณจะได้หนังชั้นเยี่ยม

Red Wing Shoes เริ่มในปี 1905 ตั้งชื่อตามบ้านเกิด Red Wing, มินิโซตา ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งชาร์ลส์เบคค์ เบคค์ อยากจะให้คนงานในอุตสาหกรรมการทำเหมืองแร่ การเกษตรและและอาชีพตัดไม้ ได้ใช้รองเท้าที่ทนทาน แข็งแรง แต่สวมใส่แล้วรู้สึกสะดวกสบายตลอดการทำงานทั้งวัน บางทีอาจต้องยืนทั้งคืนเลยทีเดียว คนเหล่านั้นต่างเริ่มถามหารองเท้า คุณภาพสูง ที่เหมาะสำหรับอาชีพของตน ทำให้ Red Wing ในแต่ละรุ่นถูกผลิตออกมาเพื่อจุดประสงค์ในการใช้งานแตกต่างกัน

รองเท้าบู้ท (1905) รองเท้าบู้ทสำหรับสวมทำงานรุ่นแรก ทำจากหนังรุ่นพิเศษในปีแรกของ Red Wing ใช้ตัวยึดแบบหัวเข็มขัดกับเชือกผูกรองเท้าเพื่อให้สวมใส่กระชับเท้า

Red Wing 877 และ Red Wing 875 ถูกสร้างขึ้นสำหรับนักล่าสัตว์  มีความแข็งแรงทนทานมาก หัวแบบ MOC TOE กันน้ำมากขึ้น แลใช้หนังเพื่อให้ทนต่อสิ่งสกปรกมากขึ้น พื้น เครปสีขาว กันโคลนติดได้มาก

Red Wing 9111 และ Red Wing 877 Red Wing 875 Iron Rangerเป็นรองเท้ารุ่นหนึ่งที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในบรรดาหลากหลายรุ่นของ Red Wing ซึ่งได้รับการออกแบบครั้งแรกมาสำหรับเกษตรกรและนักคนล่าสัตว์

รุ่น 9111 เปิดตัวในปี 1919 เป็นหนึ่งในรองเท้ารุ่นแรกๆที่ผลิตออกมาสำหรับเกษตรกร  จุดเด่น คือการออกแบบที่เรียบง่าย  ธรรมดาๆ ด้านในบุกันความหนาวเย็น  พื้นออกแบบมาเพื่อลดปริมาณของโคลนที่จะติดกับรองเท้า ถือว่าเป็นรองเท้าแห่งยุค 1950 เลยทีเดียว

Red Wing 8111 ได้รับแรงบันดาลใจจากรองเท้าที่ทำในปี ค.ศ. 1920 สำหรับคนงานเหมืองแร่เหล็กและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางและ รวดเร็ว ทำจากหนังแท้สองชั้น หัวเหล็ก

เหตุผลที่ทำให้ทุกวันนี้ Red Wing ยังได้รับความนิยมสูงคือ วัสดุที่ใช้ในการทำรองเท้าของพวกเขานั้นมีคุณภาพ ไม่เป็นสองรองใคร แต่ราคาถูกกว่า Red Wing ไม่คาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ พวกเขายังคงมองไปข้างหน้า และผลิตรองเท้าบูท รุ่นใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ

Thom Browne

ชื่อแบรนด์คุณภาพที่มีชื่อเดียวกับผู้ก่อตั้ง หนึ่งในแบรนด์คุณภาพอันดับต้นๆ ของอเมริกา ทุกคนต่างรู้จักชื่อของ Thom Browne ด้วยความสามารถพิเศษในการมองเห็นเฉดสีเทาได้ละเอียดอ่อนกว่าบุคคลปกติอย่างน้อยสองเท่า เป็นผู้ที่ปฏิวัติการใส่สูทด้วย “อัศจรรย์สูททีเทา” และบุกเบิกการตัดเย็บเสื้อผ้าสุภาพบุรุษด้วยสัดส่วน “Shrunken” แบบที่เรียกได้ว่าหดมากกว่าความจำเป็นสำหรับเทสของใครหลายๆคน แต่ในความแปลกของเสื้อผ้าและโชว์หลุดโลกต่างๆของเขา ดีไซน์เนอร์เจ้าของยูนิฟอร์มสูทขาสั้นสีเทาคือหนึ่งในผู้ที่อุทิศให้กับเรื่องวัสดุและผ้ามากที่สุดคนหนึ่งในอเมริกา ซึ่งเราในฐานะผู้บริโภคเองก็ยอมที่จะควักเงินจ่ายให้กับสิ่งเหล่านี้ซึ่งถูกซ้ำด้วยริบบิ้นแถบสีแดงขาวน้ำเงินอันคุ้นตา ที่เป็นส่วนให้ราคาสูงลิบ นอกจากเสื้อผ้าและเครื่องประดับ Thom Browne ก็ยังมีที่โกนหนวดด้ามทองไว้สำหรับจำหน่ายหนุ่มๆ ด้วย

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.