Huawei Mate 9 อีกก้าวที่ทรงพลังของแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากจีน
เรียกได้ว่ามาถูกทางและกำลังเป็นกระแสอยู่ไม่ใช่น้อยกับการใส่เลนส์กล้องคู่ที่รับรองมาตรฐานโดย Leica บริษัทผู้ผลิตเลนส์ระดับโลกจากประเทศเยอรมนี ลงไปในสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง Huawei P9 และ Huawei P9 Plus ส่งผลให้ชื่อชั้นของ Huawei (หัวเหว่ย) ทะยานขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของบริษัทสมาร์ทโฟนที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในปี 2015 รองจาก Samsung และ Apple เลยทีเดียว
และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทางหัวเหว่ยก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ส่งท้ายปีอย่าง Huawei Mate 9 ที่คราวนี้จัดเต็มทั้งด้านสเป็คเครื่องและดีไซน์ นับเป็นการวางกลยุทธ์ปิดท้ายปีได้อย่างสมบูรณ์แบบของค่ายยักษ์ใหญ่จากจีนเสียจริงๆ วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า 9 สิ่งที่ทรงพลังของ Huawei Mate 9 นั้นมีอะไรบ้างไปชมกันเลยครับ
1.กล้องคู่ Leica อันโด่งดัง
เรียกได้ว่าเป็นจุดที่พลิกชะตาแบรนด์ให้โดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งได้เป็นอย่างดี สำหรับการร่วมมือกันระหว่างหัวเหว่ยและ Leica บริษัทผู้ผลิตเลนส์ระดับโลกจากประเทศเยอรมนี มาคราวนี้จะพลาดได้อย่างไร ใน Huawei Mate 9 นั้นอัพเกรดจากรุ่น P9 ที่ใช้กล้องคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มาเป็น 20 และ 12 ล้านพิกเซลพร้อม OIS กันสั่นใน Mate 9 แทน เรียกได้ว่าคมชัดและถ่ายภาพแบบเบลอหลังได้ดีกว่าเดิมแบบสุดๆ
2.หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.9 นิ้ว
หน้าจอขนาดใหญ่อาจไม่ใช่จุดขายของสมาร์ทโฟนในสมัยนี้อีกต่อไปในเมื่อใครๆก็ทำได้ แต่การมีหน้าจอ Full HD 5.9 นิ้ว ภายใต้ขนาดของตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่จนเกินไปนั้น รับรองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้สมาร์ทโฟนตัวนี้น่าสนใจไม่ใช่น้อย (ขนาดไล่เลี่ยกับ iPhone 7 Plus ที่มีหน้าจอ 5.5 นิ้ว)
และด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ การใช้งานในบางครั้งอาจเผลอไปโดนปุ่มอื่นๆโดยไม่ได้ตั้งใจ ทางหัวเหว่ยเองก็ได้ใส่ฟีเจอร์ป้องกันการสัมผัสหน้าจอโดยไม่ตั้งใจมาให้ด้วยถึง 65 รูปแบบ รับรองว่าจะไม่มีการปุ่มลั่นกันอย่างแน่นอน
3.พัฒนาชิปใหม่แรงกว่าเดิมอย่าง Kirin 960 และแก้จุดด้อยด้าน GPU
เป็นธรรมเนียมที่พอติดลมบนแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆก็จะนิยมพัฒนาชิปเพื่อใช้กับสมาร์ทโฟนของตัวเอง ไม่เว้นแม้กระทั่งหัวเหว่ย ที่ได้เปิดตัวชิปใหม่ Kirin 960 ซึ่งเป็นชิปตัวแรกของโลกที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบ ARM Cortex A73 รวมไปถึงการใช้ชิปกราฟฟิค Mali-G71 แบบ Octa-core ในการประมวลผลภาพกราฟฟิคที่ทางหัวเหว่ยเองรับรองว่าชิปตัวนี้จะให้คุณภาพดีเยี่ยมกว่ารุ่นเดิมแน่นอน
โดยชิป Kirin 960 ของหัวเหว่ยนั้นได้คะแนนจากเว็บทดสอบ Geekbench ไปถึง 6390 คะแนน ถือได้ว่ากินขาด Snapdragon 821, Exynos 8890 ของซัมซุง และ Kirin 950 ตัวเดิมเลยทีเดียว
4.แบตเตอรี่สุดอึด ใช้ได้นานถึง 2 วัน
จะดีแค่ไหนถ้าสมาร์ทโฟนตัวเก่งสามารถอยู่ได้นานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ หัวเหว่ยเองก็คำนึงถึงจุดนี้ เนื่องจากขนาดของหน้าจอที่ใหญ่ ตัวแรมที่ใช้การประมวลผลขั้นสูง แบตเตอรี่น้อยไปย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน จึงจัดมาให้ที่ 4000 mAh ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าอยู่ได้นานถึง 2 วัน (ขึ้นอยู่กับปัจจัยการใช้งาน) และยังไม่ลืมที่จะใส่ระบบชาร์ตเร็ว (Huawei SuperCharge) ที่รองรับกระแสไฟได้สูงสุดถึง 3.5-5V / 5A มาให้อีกด้วย
5.หน้าตาสะอาดสะอ้านด้วย EMUI 5.0 UI ครอบทับ Android 7.0
Mate 9 นั้นจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดอย่าง Android 7.0 Nougat ที่ถูกครอบทับโดย EMUI 5.0 UI รับรองได้ว่าสะอาดตา ไม่รกเหมือน UI ของเจ้าอื่นอย่างแน่นอน
6.EMUI 5.0 with Machine Learning ระบบเรียนรู้ผู้ใช้
คนที่ใช้ Android ส่วนใหญ่คงมักจะเคยประสบกับปัญหาเมื่อใช้ไปนานๆแล้วตัวเครื่องอืดกว่าเดิมใช่ไหมครับ ทางหัวเหว่ยจึงได้ใส่ฟีเจอร์ Machine Learning ซึ่งเป็นระบบเรียนรู้ผู้ใช้มาให้เพื่อตัวเครื่องจะได้จัดสรรทรัพยากรของตัวเครื่องได้ตรงกับความต้องการในการใช้งานของเรานั่นเอง (เช่น การจดจำค่าว่าใช้แอปไหนบ่อยๆ เป็นต้น)
7.ถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K
ในที่สุดเรือธงของหัวเหว่ยก็สามารถถ่ายวิดีโอความคมชัดระดับ 4K ได้เสียที และยิ่งผสานเข้ากับความสามารถของกล้องคู่ที่มีระบบ Leica Dual Camera Hybrid Zoom ด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งทำให้วิดีโอที่ได้เนียนตาและคมชัดสุดๆ
8.มีสีให้เลือกกันแบบจุใจถึง 6 สี
ปกติสมาร์ทโฟนเรือธงจะมีเพียงแค่ไม่กี่สีให้เลือกใช่ไหมครับแต่ หัวเหว่ยนั้นจัดมาให้ถึง 6 สี อย่าง Space Gray, Moonlight Silver, Mocha Brown, Champagne Gold, Ceramic White และ Graphite Black เรียกได้ว่าเต็มอิ่มสุดๆ
9.รุ่นพิเศษ Mate 9 Porsche Design
ร่วมมือกับ Leica ไม่พอ หัวเหว่ยยังร่วมมือกับ Porsche แบรนด์รถสปอร์ตสุดหรู ที่ใส่ความเป็น Porsche ลงไปใน Mate 9 รุ่นพิเศษรุ่นนี้ โดย Mate 9 Porsche Design จะแตกต่างจาก Mate 9 ธรรมดาตรงที่มีเพียงแค่สีดำ Graphite Black เพียงสีเดียว อีกทั้งยังลดขนาดหน้าจอลงเหลือ 5.5 นิ้วแต่เพิ่มความละเอียดเป็น 2K แทน ส่วนกระจกหน้าจอนั้นจะใช้แบบมีขอบโค้งทั้งสองข้าง มีการอัพเกรดแรมและรอมเพิ่มเป็น 6 GB และ 256 GB รวมไปถึงย้ายปุ่มแสกนลายนิ้วมือจากบริเวณด้านหลังมาอยู่ด้านหน้าแทนอีกด้วย
จัดเต็มกันขนาดนี้ค่ายฝั่งผลไม้และกิมจิต้องมีสะเทือนบ้างไม่มากก็น้อยแน่นอนครับ
เรื่องโดย : Nomad609
ภาพประกอบ : Huawei Mobile