จ้องจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันรู้ไหมว่าทำร้ายสุขภาพตาแค่ไหน?

ใครจะรู้ว่าการจ้อง จอคอมพิวเตอร์ ทั้งวันจะมีผลกระทบกับสายตาถึงเพียงนี้ ?

ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตมนุษย์อย่างมากขึ้นจนแทบจะแยกออกจากกันไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุค 4G อย่างปัจจุบันนี้ ทุกคนล้วนเสพติดสื่อโซเชียลและโลกออนไลน์อย่างหนักหน่วง ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน มนุษย์เราใช้สายตาเพื่อจ้องสมาร์ทโฟนหรือเครื่องคอมพิวเตอร์เผลอๆจะมากกว่าสิ่งแวดล้อมรอบกายเสียอีก

และเมื่อเราใช้งานสายตาอย่างหนักหน่วงเช่นนี้ ในแต่ละวันเราอาจเกิดอาการ “ล้า” หรือ “ปวดตา” ซึ่งเป็นสัญญานร้ายที่ส่งผลต่อสุขภาพสายตาเราอย่างคาดไม่ถึง อาทิ ปัญหาสายตาสั้น – สายตายาว ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัญหาปวดหัวเพราะเส้นประสาทในดวงตานั้นเชื่อมต่อกับสมองโดยตรง ยิ่งเราใช้ดวงตามากขึ้นเท่าไหร่ ก็ต้องใช้สมองประมวลผลสิ่งที่เห็นมากขึ้นเป็นเงาตามตัวเท่านั้น ลองหันมาให้ความสำคัญกับการดูแล “สุขภาพของดวงตา” กันสักหน่อยเพื่อให้อยู่กับเราได้อีกนานครับ

จ้อง จอคอมพิวเตอร์ นานเกินไปเสี่ยงภัยโดยไม่รู้ตัว

แพทย์หญิงอุษณีย์ เหรียญประยูร จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสายตา ศูนย์เลเซอร์สายตาจุฬาฯ ฝ่ายจักษุโดยวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อธิบายว่า “ในปัจจุบันมีประชากรที่มีปัญหาจากการใช้สายตาจ้องจอนานเกินไปประมาณ 60 ล้านคนทั่วโลก และพบปัญหานี้ได้ร้อยละ 75 – 90 ของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหมด เนื่องจากปัจจุบันประชาชนนิยมการใช้คอมพิวเตอร์  แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน มากขึ้น ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและความบันเทิง ทำให้จักษุแพทย์ตรวจพบปัญหาสุขภาพสายตาที่เกิดจากการใช้สายตาจ้องจอเป็นเวลานานได้บ่อยขึ้นและพบได้ในผู้ป่วยทุกเพศ ทุกช่วงอายุ”

Computer Vision Syndrome (คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม) คืออะไร ?

คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) หรือ ซีวีเอส (CVS) คือกลุ่มอาการทางตาที่สัมพันธ์กับการใช้คอมพิวเตอร์และการใช้สายตามองจอระยะใกล้เป็นระยะเวลานาน อาการประกอบด้วย ปวดศีรษะ ตาแห้ง เคืองตา เมื่อยล้าตา มองภาพไม่ชัด ตาแดง น้ำตาไหล เห็นภาพซ้อน ความสามารถในการปรับโฟกัสช้าลง และการมองเห็นสีเปลี่ยนไป อาการดังกล่าวมักจะเริ่มเมื่อผู้ป่วยใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลาสองถึงสามชั่วโมง และจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่หยุดหรือพักการใช้สายตา

ควรทำอย่างไร ถ้าไม่อยากเป็น Computer Vision Syndrome ?

เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพสายตาที่เกิดจากการจ้องจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ ควรพักสายตาทุก 20 นาที ด้วยการมองไปที่ไกลจากคอมพิวเตอร์ 20 ฟุต เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที ตั้งจอคอมพิวเตอร์ห่างจากตาอย่างน้อย 20 – 24 นิ้ว ปรับมุมของจอให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 14 – 20 องศา ปรับตำแหน่งของจอเพื่อลดแสงสะท้อน ใช้ผลิตภัณฑ์หรือหน้าจอที่ช่วยลดแสงสะท้อน ปรับความสว่างของจอและห้องให้เหมาะสม กระพริบตาถี่ขึ้น ประมาณ 10-15 ครั้งต่อนาที โดยต้องกระพริบตาให้เปลือกตาปิดสนิท

หรือแม้แต่การเลือกใช้นวัตกรรมของจอมอนิเตอร์โค้ง ก็สามารถช่วยลดอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อตาได้เช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันได้มีผู้ผลิตหลายแบรนด์ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมนี้ออกมา เช่น Samsung Curved Monitor ที่โค้งรับระดับสายตา เพราะมีรัศมีความโค้งถึง 1800R ซึ่งทำให้การหักเหของแสงจากสภาพแวดล้อมรอบๆเข้าสู่สายตาลดลง จึงทำให้ลดอาการจอสะท้อน พร้อมทั้งให้มิติความลึกและตัดแสงรบกวนรอบข้างแก่ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี

ถึงจะหลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่ได้ แต่ก็สามารถดูแลสายตาของเราเองได้ง่ายๆตามเคล็ดลับที่นำมาฝากกันข้างต้น เท่านี้ก็เป็นการช่วยถนอมดวงตาให้อยู่กับเราไปนานๆได้เช่นกันครับ


เรียบเรียงโดย : Nomad609

ภาพประกอบ : Samsung Thailand

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.