นับวันกระแสการวิ่ง มาราธอน ยิ่งได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพร่างกายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การวิ่งระยะทางไกลไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ นอกจากจะต้องเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว การก้าวข้ามจากการวิ่งออกกำลังกายระยะทางสั้นๆ ไม่กี่กิโลเมตรเป็นประจำ สู่การวิ่งมาราธอนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และเทคนิคการวิ่งระยะสั้นอาจช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เมื่อต้องวิ่งในเส้นทางระยะไกลมากขึ้น เราจำเป็นต้องอาศัยเทคนิคการวิ่งมาราธอนโดยเฉพาะมาช่วยให้นักวิ่งรักษาขุมพลังไปจนถึงเส้นชัย
สัปดาห์นี้ FAVFORWARD เราขอหยิบยกเทคนิคดีดีจาก ดาลลิส ซัน หัวหน้าวิศวกรฝ่ายระบบเครื่องยนต์ ที่เคยผ่านการวิ่งมาราธอนมาแล้วถึง 6 ครั้ง มาแบ่งปันให้นักวิ่งและคนรักสุขภาพที่สนใจการวิ่งมาราธอนได้รู้กัน
1. Learning before start
การเตรียมตัวไม่ดี ทำให้เราไม่เหลือพลังงานเพียงพอที่จะวิ่งต่อไปให้ถึงเส้นชัย
ก่อนการวิ่งทุกครั้ง เราควรมีแผนที่ เพื่อศึกษาเส้นทางการวิ่งให้ดี เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น เจอเนินเขาในเส้นทางครึ่งหลัง ทำให้เราตกใจและหมดแรงเสียก่อน นักวิ่งควรศึกษาข้อมูล หรือ สอบถามจากผู้ที่เคยลงวิ่งมาก่อน เพราะทุกข้อมูลนั้นสามารถช่วยให้คุณวางแผนล่วงหน้าได้
2. Slow but sure
การออกตัวที่มั่นคงและนุ่มนวลจะช่วยให้คุณสามารถเก็บพลังงานได้นานขึ้น
ที่จุดปล่อยตัว นักวิ่งมาราธอนมักต้องการที่จะพุ่งตัวออกไปให้เร็วที่สุด แต่ด้วยความคึกคักของแฟนๆ บวกกับความตื่นเต้นก่อนการแข่งขัน จะทำให้ให้ฮอร์โมนอะดรินาลีนพุ่งพล่านเป็นอย่างมาก และหากเริ่มออกตัววิ่งอย่างรวดเร็ว เราจะสูญเสียน้ำตาลไกลโคเจนที่จำเป็นต้องใช้ในการวิ่งก่อนช่วงเข้าถึงเส้นชัย ไม่ต่างอะไรไปจากรถที่ติดรอสัญญาณไฟจราจร เมื่อรถถูกเร่งออกตัวเร็ว มันจะเผาผลาญพลังงานมากกว่าการค่อยๆ เพิ่มความเร็ว
สำหรับเทคนิคในการเตรียมพร้อมที่จุดออกตัวนี้ ดาลลิส แนะนำให้ลองหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อช่วยให้คุณลดความตื่นเต้นและเริ่มการออกตัวได้อย่างนุ่มนวล
3. Unlock a heavy
ไม่จำเป็นต้องแบกรับน้ำหนักเกินความจำเป็น
ลงทุนกับรองเท้าวิ่งที่มีขนาดเบาและมีคุณภาพ และปลดสัมภาระที่เกินความจำเป็น เช่น โทรศัพท์ เครื่องเล่น MP3 หูฟัง ฟิตเนสแทรคเกอร์ ขนมขบเคี้ยว และเสื้อกันลม ฝากไว้ที่จุดสตาร์ทซะเถอะ ด้วยน้ำหนักสัมภาระที่น้อยลง จะช่วยให้เราสามารถกักตุนกำลังและวิ่งเข้าสู่เส้นชัยได้อย่างทรงพลัง
4. Speed control
บอกตัวเองไว้เสมอว่า ความเร็วคงที่และนุ่มนวลจะทำให้คุณก้าวเข้าสู่เส้นชัยได้อย่างงดงาม
ในช่วงแรกเราอาจจะรู้สึกว่าสามารถวิ่งได้สบายๆ และอยากจะเพิ่มความเร็วขึ้นอีก แต่อย่าเลย เพราะการเพิ่มความเร็วในการวิ่งมากขึ้น แม้เพียงเล็กน้อย ก็ทำให้เราสูญเสียพลังงานไปได้มาก ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการวิ่งเข้าสู่เส้นชัย และหากใครต้องการฝึกควบคุมจังหวะการวิ่ง ลองลงสนามกับนักวิ่งที่มีความสามารถใกล้เคียงกันในวันแข่งขันจริง วิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถควบคุมและรักษาฝีก้าวการวิ่งที่มั่นคงได้
5. Aerodynamic on the run
แกว่งแขนไปมาขณะวิ่ง จะทำให้สูญเสียพลังงานเป็นอย่างมากและเป็นการเพิ่มแรงต้านลมโดยไม่จำเป็น
ดาลลิสได้บอกไว้ว่า ตำแหน่งมือที่ถูกต้องในขณะวิ่งคือ มือควรอยู่ใกล้ตัวมากที่สุด ในตอนแรกเราอาจไม่ชิน แต่เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่ ทุกคนจะรู้สึกถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
6. Keep the power until you see the finish line
การเร่งความเร็วในช่วงไม่กี่ร้อยเมตรก่อนถึงเส้นชัย ก็เพื่อสร้างสถิติที่ดีที่สุดให้กับตัวเองด้วย
หากเราวิ่งในความเร็วและฝีก้าวที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ย่อมมีขุมพลังเหลือเพียงพอที่จะวิ่งเข้าสู่เส้นชัย ในระหว่างการวิ่งมาราธอน ดาลลิส ยังแนะนำให้เก็บแรงฮึดทั้งหมด เพื่อส่งกำลังให้เต็มพิกัดในกิโลเมตรสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย
อ่านครบทั้ง 6 ข้อแล้ว ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ เราเชื่อว่า ทุกคนจะมีความพร้อมมากพอเพื่อลงแข่งขันในวันจริง และยิ่งทุกคนได้ฝึกวิ่งและลงสนามจริงบ่อยๆ ก็จะยิ่งช่วยให้รู้จักกับการจัดการกับพลังงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
Story : The Fool
Photo : pixabay, ford