ลบนิสัยการกินให้ ‘อ้วน’ แล้วมาสร้างนิสัยการกินให้ ‘ผอม’ กัน!

ตัวเลขบนเครื่องชั่งที่เพิ่มขึ้นทุกเดือนนั้น ย่อมมีสาเหตุจากการกินแบบไม่ยั้งคิดของเรา ซึ่งหลายคนมองว่ากินมากก็อ้วนมาก กินน้อยจึงจะผอม ซึ่งใครที่กำลังคิดแบบนี้ เราขอบอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิดอย่างร้ายแรง! เพราะน้ำหนักบนเครื่องชั่งนั้นไม่ได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณอาหาร แต่เกิดจาก “นิสัยการกิน” ของเราต่างหาก… แล้วจะกินอย่างไรไม่ให้อ้วน? วันนี้เราจึงขอมาสะกิดคุณว่านิสัยแบบไหนที่ทำให้คุณอ้วนง่าย และควรสร้างนิสัยแบบไหนจึงจะทำให้มีหุ่นผอมเพรียวมานำเสนอกัน!

3 นิสัยการกินควรเลี่ยง เพราะจะทำให้ ‘อ้วน’

01. อดเอาไว้กินทีเดียว : การปล่อยให้ตัวเองหิวเพื่อที่รอกินทีเดียว จะทำให้เรามีนิสัยมองหาอาหารพลังงานสูงและคาร์โบไฮเดรตสูงโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกว่าต้องหาอาหารมาชดเชยมื้อที่หายไป ทำให้กินเยอะเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ หากว่าเรายังไม่เลิกนิสัยนี้จะทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพอ้วนง่าย เพราะแม้เราจะกินนิดเดียว แต่ร่างกายจะนำไปเก็บสะสมไว้เป็นไขมัน ไม่ได้นำมาเผาผลาญเป็นพลังงานทันที

02. กินจนกว่าจะอิ่มหรือกินจนเกลี้ยง : ความอิ่มเป็นสัญญาณว่าร่างกายต้องการอาหารที่เพียงพอแล้ว หากเรามัวเสียดายและฝืนกินอาหารให้หมด จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานเกินความจำเป็น ซึ่งพลังงานเหล่านี้ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันแทน แต่หากจะให้ลดปริมาณอาหารแบบทันทีทันใด ใครหลายคนคงทำได้ยาก แนะนำให้คุณลองค่อยๆ เคี้ยวอาหารนานๆ ดู โดยเคี้ยวคำละ 30 ครั้งแล้วค่อยกลืน เพราะการเคี้ยวอาหารนานๆ จะช่วยกระตุ้นการส่งสัญญาณอิ่มไปยังสมอง เพื่อป้องกันการกินเยอะได้

03. กินตามคนอื่น : แน่นอนว่าเมื่อเราออกไปกินอาหารข้างนอกกับเพื่อนฝูงทีไร มักจะควบคุมชนิดอาหารไม่ได้และยังกินเยอะกว่าเดิมอีกด้วย โดยเฉพาะเมื่อเราเห็นคนอื่นกินก็กินด้วย นิสัยนี้จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของความอ้วน เพราะการกินตามคนอื่นจะทำให้เราไม่รู้ว่าควรกินแค่ไหน หรือควรอิ่มได้หรือยังจึงทำให้อ้วนง่าย

TIP : ถ้าอยากผอม อาหารเหล่านี้ควรเลี่ยง! ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, แฮม – ไส้กรอก หรือผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป, ขนมขบเคี้ยว และน้ำอัดลม เพราะอาหารเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการน้อย อีกทั้งยังมีโซเดียมและน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นของร่างกายด้วย


6 นิสัยการกินควรสร้าง เพราะจะทำให้ ‘ผอม’

01. กินผลไม้ตอนเช้าหรือหลังออกกำลังกาย : อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าผลไม้อุดมด้วยวิตามิน เส้นใยอาหาร และแร่ธาตุ แล้วยังมีแคลอรีต่ำและช่วยให้อิ่มท้อง ดังนั้นใครที่กำลังลดน้ำหนัก ผลไม้จึงเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ด้วยผลไม้มีความหวานมากจึงควรกินตอนเช้า นอกจากนี้ร่างกายของเรามีอัตราการเผาผลาญอาหารสูงในช่วงเช้า อาหารจึงไม่ค่อยสะสมเป็นไขมันในร่างกายนั่นเอง

ส่วนการกินผลไม้หลังจากออกกำลังกายนั้นก็ดีเช่นกัน เพราะในขณะออกกำลังกาย แหล่งพลังงานอย่างคาร์โบไฮเดรตอาจไม่เพียงพอ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหายไปจนร่างกายอยู่ในภาวะอ้วนง่าย จึงควรกินคาร์โบไฮเดรตก่อนออกกำลังกาย 1-2 ชั่วโมง และหลังออกกำลังกายควรกินอาหารรสหวานที่ดูดซึมเร็วอย่างผลไม้เช่นกัน

02. กินข้าวและขนมปังในตอนเช้าหรือกลางวัน : หากคุณชอบกินข้าวหรือขนมปังแนะนำให้กินตอนเช้าหรือมื้อกลางวัน เพราะระบบเผาผลาญอาหารทำงานได้ดีในช่วงเช้า เพราะหากกินตอนเย็นจะถูกนำไปสะสมเป็นไขมันได้ง่าย แต่หากคุณมีโปรแกรมบริหารกล้ามเนื้อในตอนเย็น ก็ควรกินคาร์โบไฮเดรตเพื่อป้องกันการสลายของโปรตีนในกล้ามเนื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงเช่นกัน

03. กินผักให้มาก : การกินผักให้มากจะช่วยให้ลำไส้สะอาดเหมือนได้รับการดีท็อกซ์ และหากกินเนื้ออกไก่คู่กับผักสลัดอย่างกะหล่ำปลี พริกหวาน และมะเขือเทศก็จะเป็นมื้ออาหารที่ดีต่อร่างกาอย่างยิ่ง แต่ไม่ควรราดน้ำสลัด หรือหากต้องการราดน้ำสลัดจริงๆ แนะนำให้เลือกน้ำสลัดใส เช่น น้ำสลัดงาใสแบบญี่ปุ่น หรือน้ำสลัดบัลซามิก

04. กินเนื้อสัตว์แบบเอาส่วนไขมันออก : เวลากินเนื้อสัตว์ควรหลีกเลี่ยงส่วนที่มีไขมันสูง เช่น หมูสามชั้น สันคอหมู ฯลฯ และหากในเนื้อสัตว์มีมันติดมาด้วยก็ควรเอาออกก่อน ส่วนเนื้อชาบูหรือเนื้อสเต็กหากกินโดยไม่ราดซอสก็ถือเป็นอาหารลดน้ำหนักที่ดีจานหนึ่ง นอกจากนี้การเลือกวิธีปรุงอาหารก็ช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ เพราะจะช่วยลดปริมาณพลังงานในอาหาร เช่น หมูที่มีไขมันเยอะ หากปรุงแบบต้มก็สามารถกินได้อย่างอร่อยโดยได้รับพลังงานที่ไม่สูงเกินไป

05. ลดการกินเค็ม : ใครที่ชอบทานอาหารเค็ม แนะนำให้ลดความเค็มลงอีกนิด เพราะการกินอาหารเค็มจะทำให้เรากระหายน้ำและดื่มน้ำเยอะเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ทำให้มีของเหลวไปคั่งอยู่ในเซลล์ร่างกายจนบวม ส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานแย่ลงและยังขัดขวางการสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย แน่นอนว่าส่งผลต่อรูปร่างของเรา ทำให้น้ำหนักขึ้นและรูปร่างไม่สวย การกินอาหารจืด จะทำให้น้ำส่วนเกินในร่างกายถูกขับออกมาตามปกติ อีกทั้งการกินอาหารที่ไม่ปรุงรสมากยังช่วยให้ความอยากอาหารลดลง จึงกินในริมาณที่น้อยลงอีกด้วย

06. ดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆ : น้ำช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดและระบบเผาผลาญทำงานได้ดี ทั้งยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และน้ำยังเป็นอาหารที่ปราศจากพลังงาน ดังนั้นในแต่ละวันเราควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1.5 ลิตร โดยเฉพาะคนที่ต้องนั่งทำงานเป็นส่วนใหญ่ควรดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อให้เข้าห้องน้ำบ่อยๆ เป็นการกระตุ้นให้ตัวเองเคลื่อนไหวนั่นเอง


 

ข้อมูลจาก : หนังสือ “ยิ่งเดิน ยิ่งผอม ยิ่งสุขภาพดี” โดยคิมซารา จัดพิมพ์โดย Amarin Health

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.