มันจะมีสักกี่ครั้งที่คุณอยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเอง ไม่ใช่แค่คำพูดจากคนรอบข้างที่ฉุดรั้งความคิด พลักดันให้คุณหันมาดูแลสุขภาพในวันที่อาจสายเกินไปโดยเฉพาะคนทำงาน แต่เทคโนโลยีก็พาเราให้เข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น กับแรงผลักที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองดูสักครั้ง ไม่ใช่แค่ร่างกายดูดี แต่การนอนหลับ และการใช้ชีวิตต้องดีตามไปด้วย โดยวันนี้เราลองใช้เจ้า Fitbit Versa 2 มาเป็นเพื่อนคู่กาย ดูสิว่าจะเปลี่ยนตัวเองได้จริงรึเปล่า?
ตั้งแต่แกะกล่องมา เราว่าตัวนี้ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด ตั้งแต่โทนสีแบบคลาสสิกที่มีให้เลือก 3 สี ได้แก่สี Black กรอบคาร์บอน สี Petal กรอบอลูมิเนียมสี Copper Rose และสี Stone กรอบสี Mist Grey โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,990 บาท พร้อมหน้าปัดขนาดใหญ่ ตัวเลขรายงานผลชัดเจนแบบไม่ต้องเพ่งจนปวดตา ที่สำคัญยังเป็นจอสี เพิ่มอรรถรสในการใช้มากขึ้น และแน่นอนว่าส่วนหนึ่งของการใช้งานหลักคือ Clock Face หน้าปัดแสดงเวลา Versa 2 ก็จัดมาให้สำหรับคนขี้เบื่อที่สามารถเลือกเปลี่ยนรูปแบบได้มากถึง 100 กว่าแบบผ่านการดาวน์โหลดจากแอปพลิเคชั่น Fitbit ได้ แต่ที่เราชอบที่สุดคือหน้าปัดร่างอวตาร Bitmoji ที่เชื่อมต่อกับตัวคาแรกเตอร์ที่สามารถออกแบบเองได้จาก Snapchat ให้ใกล้เคียงความเป็นคุณมากที่สุด โดยเจ้า Bitmoji จะมีการเปลี่ยนอริยาบถไปตามช่วงเวลา อาทิ ช่วงเช้าต้อนรับการตื่นนอน ตอนเที่ยงพักทานอาหาร และเวลากลางคืน ชวนให้เราเข้านอน
เพื่อช่วยพัฒนาพฤติกรรมการนอนของเรา นอกจาก Fitbit Versa 2 จะมีฟีเจอร์ติดตามการนอนในรุ่นก่อนๆ แล้ว รุ่นนี้เพิ่มฟังค์ชันสุดอินโนเวทีฟที่ออกแบบมาเพื่อติดตามการนอน อาทิ Sleep Score และ Smart Wake เพิ่มเติมด้วยดีไซน์เสริมสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตรพร้อมด้วยไมโครโฟนในตัวเครื่อง
Sleep Score จะให้คะแนนการนอนตาม Goal ที่เราตั้งไว้โดยคิดเป็น % ค่าเฉลี่ย อาทิเช่นคุณเซทไว้ว่าจะนอนให้ได้ 7 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าทำได้น้อยก็ถือว่าต้องปรับปรุง เป็นการช่วยย้ำเตือนว่าที่คุณรู้สึกพักผ่อนไม่เพียงพอมันเกิดจากอะไร ฟีเจอร์ใหม่ของฟิตบิทเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจพฤติกรรมการนอนของตนเอง แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขหรือพัฒนาการนอนให้ดียิ่งขึ้น:
นอกจากนี้ยังสามารถซื้อบริการ Fitbit Premium ซึ่งใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่ฟิตบิทรวบรวมมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี รวมถึงความเชี่ยวชาญทางด้านวิชาการและการแพทย์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้ขยับร่างกายมากขึ้น นอนหลับสนิทขึ้น และมีโภชนาการที่ดีผ่านโปรแกรมที่เป็นส่วนตัวด้วยฟีเจอร์ประเมินข้อมูลเชิงลึกส่วนบุคคล การประเมินด้านการนอนขั้นสูง รายงานด้านสุขภาพ และแนวทางการออกกำลังกายกว่าพันรายการ ทั้งหมดนี้ถูกรวบรวมอยู่ในที่เดียว
มันอาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่สมาร์ทวอทช์จะเชื่อมต่อการฟังเพลงได้ แต่ Versa 2 นั้นมาพร้อมกับแอปพลิชันแห่งเสียงเพลงอย่าง Spotify ที่คุณสามารถใช้งานผ่านตัวเครื่อง พร้อมฟังเพลงและพอร์ดแคสเพื่อสร้างแรงจูงใจได้ตลอดเวลาอย่างไม่มีสะดุด แต่อันนี้ขอวงเล็บไว้นิด (ต้องใช้ Sportify ตัว Premium เท่านั้นถึงจะใช้งานได้นะครับ)
โดย Versa 2 จะยึดจาก GPS Location ณ ปัจจุบันที่เราอยู่และแสดงการคาดคะเนออกมาให้ได้รู้ล่วงหน้า ทำให้เราเตรียมการในการเดินทางหรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตลอดวัน
หลังจากใช้มาได้ 1 อาทิตย์ เราคิดว่า Versa 2 ทำให้เราพักผ่อนได้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เปลี่ยนมาเป็นคนรักการออกกำลังกายบ่อยๆ แต่อย่างน้อยการกระตุ้นให้เดินในแต่ละวันได้จำนวนก้าวตาม Goal ที่ตั้งไว้ ก็ถือว่าเราได้เริ่มขยับร่างกายอยู่บ้าง สุดท้ายการชาร์จไฟของ Versa 2 นั้นง่ายมากเพียงแค่กดคลิปหนีบของตัวชาร์จให้ง้างออกแล้ว วาง Versa 2 ลงไป เท่านี้ก็เริ่มชาร์จได้ในทันทีแบบไม่ต้องถอดสายออกให้ยุ่งยาก
Fitbit Versa 2 วางจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าชั้นนำ อาทิ B2S, Dotlife, Jaymart, King Power, Lazada, Power Buy, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศูนย์การค้าโรบินสัน และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา พร้อมกับการทำงานที่เร็วขึ้น หน้าจอการแสดงสีที่ดีขึ้น แอปพลิเคชันและหน้าปัดนาฬิกากว่า 3,000 รายการ และตัวเลือกสำหรับเปิดหน้าจอในระบบ always-on พร้อม battery life มากกว่า 6 วัน ตอกย้ำถึงการเป็นสมาร์ทวอทช์สุดพรีเมียมเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วโลกที่พร้อมดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร ตลอด 24 ชั่วโมง