Bridgestone คิดค้นล้อจักรยาน“Air Free” ไม่ต้องสูบลมอีกต่อไป
WHAT: ล้อยางจักรยานนวัตกรรมล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ Air Free จาก Bridgestone จะปั่นกี่ทีก็ไม่มีทางรั่วหรือยางซึม เพราะผลิตจากเทอร์โมพลาสติกเรซิ่น ช่วยรับน้ำหนักของผู้ขี่แทนการสูบลม
ปัญหาเรื่องยางรั่ว ยางแบน หรือล้อยางโดนตะปูตำ มักจะเกิดขึ้นกับนักปั่นบ่อยๆ จนทำให้เราต้องพกที่สูบลมหรือแม้แต่อะไหล่ยางในสำหรับเปลี่ยนฉุกเฉินด้วยซ้ำ แต่ต่อไปนี้คุณจะไม่ต้องกังวลกับระดับลมยางหรือต้องเปลี่ยนอะไหล่ยางกะทันหันใดๆ อีกต่อไป เมื่อบริษัท Bridgestone บริษัทผลิตยางรถยนต์ชั้นนำจากญี่ปุ่นได้คิดค้นนวัตกรรมยางใหม่แบบไม่ต้องสูมลมภายใต้คอนเซ็ปต์ “Air Free” ช่วยลดปัญหายางรั่วและการพองตัวของยางจากสภาวะอากาศไม่สมดุล
ส่วนล้อด้านนอกยังใช้วัสดุแผ่นยางในการผลิตเช่นเดิม แต่เพิ่มซี่ที่ทำจากเทอร์โมพลาสติกเรซิ่นเสริมเข้าไป สำหรับช่วยรับน้ำหนักของผู้ขี่แทนการสูบลม นอกจากนั้นยังช่วยลดปริมาณยางที่นำมาใช้ผลิตล้อหนึ่งล้อได้อีก แถมยังไม่ต้องมาคอยบำรุงรักษา หมั่นเช็คลมยาง และคาดว่าในอนาคตจะใช้วัสดุรีไซเคิลทั้งหมดในการผลิต
ข้อดีของการใช้เทอร์โมพลาสติกเรซิน
เป็นเรซินสังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นเมื่อโดนความร้อนและแข็งตัวเมื่อโดนความเย็นเพื่อระบายความร้อน ทำให้สามารถนำมาแปรรูปเป็นรูปทรงที่หลากหลายรูปแบบ Bridgestone ได้เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ในการออกแบบล้อยางสำหรับจักรยานรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนี้ว่า น่าจะจำหน่ายได้จริงในปี 2019 เพื่อให้ทันใช้ในการแข่งขันโอลิมปิกที่โตเกียวในปี 2020 ผู้ผลิตยางชาวญี่ปุ่นยังมีเป้าหมายที่จะนำแนวคิดเรื่องยาง ‘air-free’ นี้ไปปรับใช้กับเทคโนโลยีเพื่อใช้กับยางชนิดอื่น ๆ ต่อไป
จริงๆ แล้วย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 Bridgestone เคยนำเสนอแนวคิดเรื่องล้อยางไร้การเติมลมมาก่อนแล้ว โดยมุ่งพัฒนาเพื่อใช้กับรถยนต์ ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องผู้ขับขี่จากการต้องเสี่ยงอุบัติเหตุในการเปลี่ยนล้อยางแอบข้างทางแต่ยางชนิดนี้ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 บนท้องถนนได้อีกด้วย มาถึงปี 2017 บริษัทได้ปรับเทคโนโลยีของพวกเขาให้เหมาะสำหรับนักปั่นมากขึ้น โดยลดความซับซ้อนของโครงสร้างยางรูปแบบคลาสสิก และลดแรงต้านทานที่เกิดจากการเสียดสีขณะล้อหมุนไปอย่างต่อเนื่อง และหัวใจสำคัญของการคิดค้นนี้ จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพที่จะช่วยลดการใช้พลังงานที่สูญเสียไปไม่ว่าจะเกิดจากก๊าซหรือกำลังคน
ตอนนี้ทางบริษัท Bridgestone ก็ได้ทำการจดสิทธิบัตรล้อนวัตกรรมใหม่นี้ไว้แล้ว เราคงต้องอดใจอีกนิดเพื่อรอชมความเจ๋งในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในการแข่งกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวปี 2020 และเวลาที่จะประกาศวางขายอย่างเป็นทางการเท่านั้น