ไม่ว่าจะเป็น ‘Nok Foofriday’ หรือ ‘คนหัวฟู’ล้วนแต่เป็นนามแฝงของพี่นก – นพวรรณ ลี้เจริญพงศ์ ช่างภาพ บล็อกเกอร์ แบ็คแพ็คเกอร์ และขณะนี้ยังเป็นไบเกอร์สาว ผู้ตะลุยข้ามผ่านเส้นทางสุดหินที่มีวิวข้างทางเป็นสวรรค์ที่สวยที่สุดในโลกอย่าง “เทือกเขาหิมาลัย”
ผลงานที่ทำให้เราติดอกติดใจคงไม่พ้นเรื่องเล่า “ขับมอไซค์ ลุยเทือกเขาหิมาลัย ที่อินเดีย Himalayan Odyssey 2016″ ซึ่งพี่นกได้บอกเล่าเอาไว้บนเว็บไซต์พันทิปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะความสนุกและความอัศจรรย์เมื่อรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงไทยคนเดียวในทริปนี้ที่ได้ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านเทือกเขาหิมาลัยที่ได้ชื่อว่าเส้นทางสุดหินที่เต็มไปด้วยวิวสวยงาม ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะชวนพี่นกมาพูดคุยในวันนี้
• ทำไมตอนนั้นถึงตัดสินใจสมัครไปทริป Himalayan Odyssey 2016?
“มันก็เป็นความฝัน พอเราได้ขับมอเตอร์ไซค์แรกๆ เราก็เที่ยวไทย สักพักเราก็เกิดความฝันไปไกลกว่านั้น เราเห็นเพื่อนขับเที่ยวรอบหิมาลัย รอบเอเวอร์เรส เราก็อยากไปบ้าง แต่ว่าทริปแบบนี้ต้องใช้เงินเยอะมาก แล้วพอดีมีโอกาสจากเรยัล แอนด์ฟิลล์รับสมัครพวกคนทำงานสื่อ ซึ่งตัวเราเองก็ทำงานสื่ออยู่แล้ว เราก็สมัครไปในนามของบล็อกเกอร์และช่างภาพ เรามองว่าเป็นโอกาสที่จะได้ไป เมื่อความฝันกับโอกาสมาพร้อมกันพอดี ก็เลยตัดสินใจสมัครทันที ความกลัวตอนนั้นไม่กลัวอะไรเลย ขอให้ได้ไปก่อน”
• พอได้ลองขับบนเส้นทางหิมาลัย รู้สึกอย่างไร?
“ตอนก่อนไปอินเดีย เราไม่รู้ว่าถนนมันจะเป็นแบบนั้น ซึ่งพอไปถึงก็เป็นการเปิดซิงเลย มันเป็นถนนที่ต้องขับแนวแบบ Endure เลย เราก็ไม่เคยขับแบบนี้มาก่อน เพราะปกติจะเที่ยวไทย จะเลือกแต่ทางเรียบ ถนนเรียบลาดยางสวยๆ แต่พอไปอินเดีย โห!! ลูกรัง น้ำตก ทราย มันเป็นทุกอย่างที่เราไม่อยากเจอ แต่ก็ได้เจอหมด”
• ระหว่างทางพี่นกเจอเหตุการณ์เสี่ยงตายบ้างไหม?
“เสี่ยงตายเยอะมาก ที่แบบช็อกตัวเองคือขับรถสวนกับรถบัส แล้วทางแคบๆ ซึ่งรถบัสกำลังโค้งมาชนเรา เราก็หลบแล้วจนรถเรากำลังจะล้ม ส่วนรถบัสมันก็เฉียดหัวเข่าเราไปเลย คือถนนเขาเป็นถนนรอบเขา ถนนจึงแคบมากแบบสวนไม่ได้เลย เราก็ต้องคอยหลบ หลบจนรถล้มก็มี
แต่ที่น่ากลัวก็คือเราจะตกเขา ตอนนั้นเรากำลังจะขึ้นเขาอยู่ มันเป็นความผิดพลาดของเราเองด้วย ช่วงที่เกิดเป็นช่วงที่ยังไม่ชินกับรถ เราเลยเข้าเกียร์ผิดแล้วแรงมันไม่ส่ง ซึ่งกำลังไต่เขาอยู่ แล้วรถล้มไปทางซ้าย คลัชหัก เราก็กระโดดออกจากรถไปทางซ้าย ซึ่งทางซ้ายเป็นหน้าผาพอดี เราทำอะไรไม่ถูก แต่เพื่อนที่อินเดียรีบวิ่งมาดึงตัวเรา กลัวเราจะถอยหลังตกเขา”
• ในทริปนี้ประทับใจอะไรมากที่สุด?
“ชอบวิว คือตอนที่สมัครแล้วเขาบอกว่าจะขับรอบหิมาลัย เรารีบเสริชรูปใน google map เลย เส้นนี้มันจะผ่านอะไรบ้าง เราก็ตื่นตาตื่นใจมาก โห!! โครตสวรรคเลย มันจะเป็นภูเขาน้ำแข็งเป็นเทือกเขาเลยอะ แล้วท้องฟ้าเขาจะใสปิ้ง ใสแบบหน้าหนาวเมืองไทย มันสวยมาก ซึ่งเมื่อเราได้ไปเห็นจริงๆ เราประทับใจเรื่องวิวมาก โดยเฉพาะวิวที่ Tso Kar ที่ต้องไปกางเต้นท์นอน สรุปคือเราประทับเรื่องวิวมาก ด้วยความที่เป็นช่างภาพด้วย เรื่องภาพสวยต้องมาก่อน”
• ทำไมพี่นกถึงได้หลงใหลการขับมอเตอร์ไซค์มากขนาดนี้?
“เราหลงใหลช่วงเวลาที่เราเอาตัวไปอยู่กับธรรมชาติ ในช่วงระหว่างที่เราอยู่บนรถ เราได้เห็นวิวข้างหน้า แล้วก็ลมเย็น เป็นลมหนาวมันผ่านตัวเราไป มันพาให้เราเข้าไปอยู่กับธรรมชาติได้เต็มที่ ไม่ได้หลงใหลในเรื่องความสวยงามของรถ ไม่ได้หลงใหลในความเร็ว หลงใหลที่มอเตอร์ไซค์ทำให้ตัวเราเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ แล้วมันได้ความรู้สึกอิสระ”
• แล้วความฝันสูงสุดในฐานะไบเกอร์ของพี่นกคืออะไร?
“เดินทางรอบโลก อยากจะขับข้ามทวีปจากไทยไปถึงยุโรป อเมริกาอะไรก็ได้ เป็นความฝันสูงสุดเลย ซึ่งก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่ บางคนก็ทำสำเร็จ บางคนก็ไม่สำเร็จ แต่สำหรับคนไทยจะมีอุปสรรคเยอะหน่อยและคนไทยที่เดินทางรอบโลกยังมีน้อย ส่วนใหญ่ที่เรารู้จักก็มี แต่พวกนั้นเขาจะมีทัวร์พาไปและเขามีพื้นฐานตัวเขาดีอยู่แล้ว
แต่สำหรับเรามันค่อนข้างยาก เพราะเราต้องทำงานด้วย ทักษะขับรถต้องเก่งกว่านี้ ทักษะภาษาอีก เพราะภาษาอังกฤษอย่างเดียวคงไม่พอ หรือถ้ามีเงินอย่างเดียวก็ทำไม่ได้ ต้องฝึกทักษะซ่อมรถอีก แต่การเดินทางรอบโลกก็เป็นความฝันสูงสุดนะ แต่ถ้ารองลงมาก็เที่ยวรอบเมืองไทยทุกจังหวัด ไปถ่ายรูปที่สวยที่สุดของจังหวัดนั้น แล้วมารีวิวให้คนมาเที่ยวเมืองไทยเยอะๆ ชวนฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทย”
• บาลานซ์เรื่องงานกับการขับมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวอย่างไร?
“วางแผนก่อน คือเราต้องกำหนดเลย ทำงานเสร็จ เดตไลน์งานตัวเองเลยว่าต้องส่งภายในสองอาทิตย์ หนึ่งเดือน ห้ามเกินจากนี้ ก็จัดสรรเวลา มันเป็นเรื่องวินัยตัวเอง เพราะงั้นตั้งแต่ที่ซื้อมอเตอร์ไซค์มา มันก็เปลี่ยนนิสัย เราเป็นคนมีวินัยมากขึ้น แล้วก็เป็นคนทำอะไรวางแผนมากขึ้น คือเมื่อก่อนเราก็เหลวไหลไง แต่พอมีมอเตอร์ไซค์ปุ๊บ มันเป็นงานอดิเรกที่เราชอบ เราก็จะแบบว่าฉันจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ไปทำสิ่งที่ชอบ ก็เลยจะเคลียร์ตัวเอง งานเสร็จปุ๊บก็เดินทางทันที ของเราจะเป็นแบบงานเส็จ วันรุ่งขึ้นเดินทางทันที”
• มีคำแนะนำสำหรับไบเกอร์สาวๆ ที่อยากขับรถออกไปท่องโลกไหม?
“สำหรับผู้หญิงที่อยากจะขับมอเตอร์ไซค์ ชอบเดินทางคนเดียว ถ้ามีพื้นฐานมอเตอร์ไซค์อยู่แล้วนะ พยายามแต่งตัวให้ดูเหมือนผู้ชายมากที่สุด อย่าให้ใครรู้ว่าเราเป็นผู้หญิงที่ขับมอเตอร์ไซค์คนเดียว ตรงนี้สำคัญมาก ยิ่งเราชอบเดินทางคนเดียวเราก็เสี่ยงอยู่แล้ว ยิ่งรู้ว่าเราเป็นผู้หญิงก็จะยิ่งอันตราย ดังนั้นก็ต้องทำให้ดูเป็นผู้ชาย อย่างเสื้อการ์ดเราจะเลือกทรงผู้ชายสีเข้มๆ กางเกงรัดรูปไม่ใส่ แต่เป็นกางเกงทหาร กางเกงยีนต์ แต่ไม่ว่าจะเดินทางแบบไหน เทคนิคนี้มันช่วยได้หมด ทั้งแบ็คแพ็ค หรือจะขับมอเตอร์ไซค์”