เปิดเมนูดริ้งค์ฉบับ Japan เหล้าญี่ปุ่นยอดฮิตที่เราต้องยกซดจนหมดแก้ว

เปิดเมนูดริ้งค์ฉบับ Japan
เหล้าญี่ปุ่นยอดฮิตที่เราต้องยกซดจนหมดแก้ว

ทำความรู้จัก 4 เหล้าญี่ปุ่น ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ดริ้งค์ของคนญี่ปุ่นแท้ๆ นอกเหนือจากเบียร์ โดยเฉพาะเมื่อเมนูที่เราแนะนำเป็นเครื่องดื่มที่คนญี่ปุ่นดื่มเป็นประจำ และยังได้แทรกซึมไปสู่วัฒนกธรรมการดื่มของคนไทย

ไม่ใช่แค่ประเทศในโซนยุโรปที่มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ฝั่งเอเชียอย่าง ‘ญี่ปุ่น’ ก็โด่งดังในด้านวัฒนธรรมการดื่มจนทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สัญชาติญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักและโด่งดังเช่นกัน วันนี้เราเลยมีเหล้าญี่ปุ่น ซึ่งเป็น 4 เมนูดริ้งค์ต้นตำรับฉบับ Japan Style ที่คนญี่ปุ่นนิยมดื่มเป็นกิจวัตรมาแนะนำ

01. Highball

เครื่องดื่มสายหมักคล้ายสาเก (Sake) โดยเสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง เป็นเมนูดริ้งค์คู่กายของชายหนุ่มญี่ปุ่นที่มักสั่งมาดื่มในร้านอาหารหรือบาร์ สำหรับเมนู Highball เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูตรผสมที่นำเสนอรสชาติที่ลงตัวของวิสกี้สกอตสไตล์ญี่ปุ่นผสมกับโซดา ความร้อนแรงของวิสกี้สกอตสไตล์ญี่ปุ่นทำให้เครื่องดื่มแก้วนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Highball คือทุกครั้งที่ยกดื่มจะมาพร้อมความรู้สึก Refresh ร่างกายให้ซาบซ่าอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเพิ่มเลมอนเป็นรสแฝง ก็ยิ่งเติมรสาติให้อร่อย ถูกปาก และชวนสดชื่นขึ้น แต่ถ้าจะผสมเครื่องดื่มแก้วนี้ให้สุดจริงๆ ก็ต้องผสม Suntory Highball ซึ่งเป็น Art of Japan Whisky ลงไป

02. Sake

‘สาเก’ เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ดริ้งค์ในสายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ แต่ก็มีหลายคนสับสนว่า ‘สาเก คล้ายกับเครื่องดื่ม SHOCHU เครื่องดื่มอีกหนึ่งชนิดของญี่ปุ่นไหม แล้วจะคล้ายกับ Soju ของเกาหลีไหม’ ซึ่งเราขอตอบเลยว่า

SAKE “นิฮนชู” (Nihonshu) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากญี่ปุ่น เกิดจากหมักข้าวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตเหมือนกับเบียร์และไวน์นั่นเอง จึงเป็นที่มาที่หลายคนเรียกสาเกว่า ไวน์ข้าว โดยจะมีแอลกอฮอล์ประมาณ 10-20%

แต่ในทางกลับกันหากเป็น Shochu ของญี่ปุ่นและ Soju ของเกาหลี จะใช้วิธีการกลั่นและการผลิตแบบเดียวกัยวิสกี้ วอดก้า และบรั่นดี ทำให้ Shochu มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าวอดก้าญี่ปุ่น โดยจะแตกต่างจาก Soju ของเกาหลีตรงที่ปริมาณแอลกอฮอล์ โดย Shochu จะมีแอลกอฮอล์ 25% และมีการคัดเกรดจากจำนวนการกลั่น กลั่นหลายครั้งเหมาะกับการทำค็อกเทล แต่หากกลั่นครั้งเดียวจะให้รสชาติเข้มข้น ซึ่งจัดว่าเป็น Shochu ระดับพรีเมี่ยม ส่วน Soju ของnight lifeเกาหลีจะมีแอลกอฮอล์ 20% และมีรสชาติหวานกว่า เพราะมีการเติมน้ำตาลระหว่างการผลิตด้วย

03. Chuhai

เครื่องดื่มในหมวด Shochu โดยมีส่วนผสมหลักเป็นโชจู (Shochu) กับ ไฮ (Hai) ของไฮบอล เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพียง 3-9% จึงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน โดยเฉพาะรสชาติหอมหวานของผลไม้ โดยที่รสชาติที่ได้รับความนิยมคือ รสบ๊วย, ลิ้นจี่, เมล่อน, คาพลิส (Calpis), ส้มยูซุ และกลิ่นซากุระ ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นรสชาติของผลไม้ตามฤดูกาล

04. Umechu

‘เหล้าบ๊วย’ เป็นอีกเมนูยอดฮิตในสาย Shochu โดยเครื่องดื่มเมนูนี้จะใช้ Shochu ดองกับน้ำตาลกรวดและผลไม้ อย่างพลัมญี่ปุ่นหรือบ๊วยเป็นหลัก ทำให้มีรสชาติหวานและหอมของผลไม้ หลายคนเวลาดื่มมักนำมาผสมด้วยน้ำ โซดา หรือน้ำอุ่นก็ให้รสชาติอร่อยไปอีกแบบ เป็นเครื่องดื่มสายเบาๆ เอาไว้จิบกันสนุกสนาน ที่สำคัญยังเป็นเครื่องดื่มที่มีทุกร้านอาหารและบาร์

นอกจากบ๊วยแล้ว เครื่องดื่มประเภทนี้ยังใช้ผลไม้อื่นๆ ในการดอง อาทิ พีช เมลอน ลิ้นจี่ ซากุระ ลูกแพร สับปะรด และผลไม้ตามฤดูอื่นๆ แต่จะให้เด็ดก็คงเป็นบ๊วย ซึ่งก็สมกับที่มาของชื่อ Umechu คือ Ume (บ๊วย) + CHU (Shochu)

ใครเริ่มเปรี้ยวปากและอยากสัมผัสลิ้มรสชาติของเมนูดริ้งค์แบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ เหล่านี้ เราขอแนะนำให้แวะไป SPACE Q ร้านเปิดใหม่ในซอยทองหล่อ 11 กับการเสิร์ฟความครบรสทั้งกิน ดื่มและบรรยากาศสังสรรค์ ที่สำคัญมีเมนูดริ๊งค์แบบญี่ปุ่นมีให้เลือกสั่ง เลือกลองได้ แบบหนำใจเลยทีเดียว


พาไปเยือน Lebua No.3 ค็อกเทลบาร์ที่สูงที่สุดในโลก จาก Lebua Hotels & Resorts

Craft Beer 101 คัมภีร์คราฟต์เบียร์ฉบับมือใหม่หัดดื่ม

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.