จากความกล้าที่จะลอง สู่จุดเริ่มต้นเล็กๆ และกลายเป็นสิ่งที่รักของชายคนหนึ่งที่ไม่หยุดที่จะเปิดใจเรียนรู้ในสิ่งที่ชอบ ใครจะคาดคิดว่าวินมอเตอร์ไซค์ที่คอยรับส่งผู้โดยสารจะซ่อนอีกหนึ่งตัวตนเอาไว้ ตัวตนที่จะทำให้คุณรู้ว่าชายคนนี้ไม่ธรรมดา
‘บาริสต้าผู้สวมเสื้อวิน’ คือฉายาที่เราตั้งให้คุณบอย – สุรศักดิ์ คณาจันทร์ วินมอเตอร์ไซค์ผู้หลงใหลในศาสตร์ของกาแฟ โดยมี คุณเน่ – เทจิต สินธวิชัย เจ้าของร้าน Nip Cafe และควบตำแหน่งแชมป์ Thailand AeroPress 2017 เปรียบเสมือนเพื่อนและผู้ให้คำแนะนำ จากคนที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกาแฟ มาวันนี้เขาพร้อมที่จะก้าวสู่เวทีแชมป์
“สำหรับคนทั่วไป กาแฟก็คือกาแฟ แต่สำหรับพี่บอย กาแฟมันไม่ใช่แค่กาแฟแล้ว …เขาเข้าใจในแบบว่า Specialty เข้าใจ ไม่ใช่แค่กาแฟคือกาแฟ แต่สามารถระบุได้ว่า กาแฟแต่ละอันมันเป็นยังไง เริ่มมีมุมมองลึกกว่าเดิม มันลึกกว่าการสั่งกาแฟที่มีแค่ลาเต้ อเมริกาโน เพราะว่ามันเป็น filter coffee ด้วย” คำบอกเล่าจากคุณเน่ เมื่อเราถามถึงความเข้าใจและความหลงใหลของคุณบอยที่มีต่อกาแฟ
“ก่อนหน้านั้น ผมซื้ออุปกรณ์มาทำเอง ที่เป็นตัว Aero Press นี่แหละครับ แต่รสชาติมันไม่อร่อย แล้วทีนี่ เขาเป็นแชมป์ปี 2017 แชมป์ Aero Press ก็เห็นในเพจ พอดีผมก็มาทานข้าวแถวนี้ ตรงนี้มีร้านกาแฟนี่ ก็เลยชวนแฟนแวะเข้ามา ชิมดูมาดื่ม ก็เลยถามว่าอยากรู้วิธี เขาชงยังไง คือพูดคุยกับคุณเน่เขา” จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คุณบอย จากวินมอเตอร์ไซค์ที่ไม่เข้าใจในศาสตร์ของกาแฟ เริ่มเข้าใจจนกลายเป็นบาริสต้าฝีมือดี
หากย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณบอยชื่นชอบในเสน่ห์ของกาแฟที่ไม่ใช่แค่รสชาติ คุณบอยเล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นมาจากสิ่งเล็กๆ ที่ได้สัมผัสรสชาติที่มีเอกลักษณ์จากการแนะนำของเพื่อน จนเกิดเป็นความติดใจจนถึงขั้นหาซื้ออุปกรณ์ไปชงเองที่บ้าน แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง กาแฟที่ได้กลับไม่ได้รสชาติดีอย่างที่เพื่อนชงให้ดื่ม
จนกระทั่งมาพบกับคุณเน่ในร้าน Nip Cafe ซึ่งคุณบอยจำได้ว่าเขาคือ แชมป์ Thailand AeroPress 2017 เขาก็ไม่รอช้าที่จะแวะไปดื่ม จากการพูดคุยที่ถูกคอ จนกระทั่งกล้าที่จะไลน์ไปถามเรื่องการชงกาแฟแบบ AeroPress ท้ายที่สุดคุณเน่จึงชวนกึ่งบังคับให้คุณบอยเข้าร่วมเวิร์คช็อปการชงกาแฟที่คุณเน่เปิด จากวันนั้นจนถึงตอนนี้ คุณบอยก็สามารถชงกาแฟได้อร่อยและกลายเป็นที่ยอมรับในสังคมคอกาแฟ
“ผมว่ามันเริ่มจากดื่มธรรมดา แล้วพอดีเขาไปเจอมาว่า มันดี แล้วก็ด้วยอะไรทั้งหลายแหล่ เขาไม่รอแล้ว เดี๋ยวเขามาชงเองก็ได้ แล้วก็ไปหากาแฟที่ดีกว่า ไม่ได้แพงกว่าเยอะ เมื่อเทียบกับเวลาไปร้านชง ที่จริงมันก็มีเรื่องของการใช้เงินด้วย แต่เขาคิดว่าอุปกรณ์ ที่เขาจะเสียต่อแก้วเนี่ย ไปลงซื้ออุปกรณ์ดีกว่า” บอกเล่าจากคุณเน่ ถึงสาเหตุที่คุณบอยเลือกซื้ออุปกรณ์แบบครบครันมาชงกาแฟ แทนที่จะเดินไปซื้อตามร้านคาเฟ่
คุณบอย: ตอนแรกก็มองดูว่า คนอื่นเขาทำง่ายๆ เราก็อยากทำดูบ้างครับ แต่พอทำจริงๆ ก็ยากอยู่เหมือนกัน แต่ว่าเราชอบมันแล้ว เราก็ต้องทำมันให้ได้ ต้องมีรายละเอียด มีการใส่ใจ คือผมชอบเลย เพราะว่าไปเห็นร้านอื่นแล้วแบบบาริสต้ามันเท่
คุณเน่: คือความชอบของพี่บอย เวลาเรามาอยู่ด้วยกัน บางทีไม่ได้ทำอะไร ดื่มกาแฟอย่างเดียว ดื่มกาแฟ เอากาแฟมาทำนู้นทำนี่ มาดื่มกัน ตอนนี้กลายเป็นว่าพี่บอยชอบกาแฟมากๆ แล้ว
คุณเน่: ผมตกใจมาก ผมก็พิมพ์ไปบอกแฟนผม ทุกคนบอกให้ถ่ายรูปไว้ๆ คือมันเหนือความคาดหมาย ผมคิดว่าทุกคนก็เหนือความคาดหมาย บางคนที่ไม่เคยเห็นแกอย่างนี้ ก็ตกใจว่าเป็นวิน
อีกอย่างที่ผมพยายามให้เขาทำคือ สมมติว่าเขาเข้ามาหาผมพอดี แล้วมีลูกค้ามาดื่ม ผมเสิร์ฟไปแล้วแก้วหนึ่ง ผมจะให้เขาชงให้ดื่มด้วย ผมอยากให้เขารู้ว่า เฮ้ย! คนๆ นี้เขาเป็นวินมอเตอร์ไซค์นะ แต่ในส่วนที่เขาเข้ามาอยู่ที่ร้านผม ที่ผมให้เขาชงเนี่ย คุณมองให้เขาเป็นคนชงกาแฟได้เลย เพราะว่าผมไม่อยากให้มองแค่ว่า เขาเป็นวินมอเตอร์ไซค์ แล้วชงให้คุณ มันแค่แปลก แต่โอเค หน้าที่หลักของเขาคือวินมอเตอร์ไซค์ แต่พอเขามาอยู่หน้าบาร์กาแฟ เขาคือคนชงกาแฟ ผมบอกทุกคนว่า ลองชิมกาแฟเขา โดยที่ไม่มีอะไรคิดว่าเขาเป็นวิน
คุณเน่: ผมให้พี่บอยชงให้ลูกค้าดื่มเยอะครับ โอเคนะ ผมก็มี standard ของผม คือเขามาเวิร์คช็อปได้สักพักหนึ่งแล้ว หลังจากที่เขาเข้ามาหาผมสัปดาห์ละ 3-4 ตลอด มีเมล็ดอะไร ก็เอาให้ชงตลอด จนผมมั่นใจประมาณนึงว่า พี่เขาจะชงให้ลูกค้าดื่มได้แล้ว แล้วลูกค้าจะรู้สึกดี ว่าเขาชงกาแฟอร่อย
ผมเป็นคนซีเรียสนิดนึง ผมไม่อยากเสิร์ฟกาแฟ แค่ว่าเป็นกาแฟ แต่ผมจะเสิร์ฟกาแฟที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น แล้วเราทำได้ดีที่สุด สิ่งพวกนี้ผมบอกเขาว่า ผมมองแบบไหน ซึ่งมันไปในทิศทางเดียวกัน เขาเข้าใจและเขาจะซีเรียสมากประมาณนึงเลยในการที่จะชง เขาไม่ได้ตื่นเต้นนะ แต่เขาจะกลัวว่า เขาจะชงไม่อร่อย เขาจะมีคำถามตลอดว่า เขาชงแบบนี้ เขาเสิร์ฟลูกค้าได้ไหม เขาถามผมตลอด น่าจะเป็นเพราะว่าเขาเห็นว่า ผมเสิร์ฟอะไรให้คนอื่น ทำอะไรให้เขา แล้วผมพยายามบอกว่า ทำแบบนี้เพราะอะไร แล้วเขาเข้าใจ มันเป็นรายละเอียดที่ลึกซึ้งแล้ว มันมากกว่านั้นแล้ว
คุณบอย: ตื่นเต้นมากเลยครับ รู้สึกว่าชงให้คนอื่นชิม ผมตื่นเต้นมาก
คุณเน่: คือตอนนั้นเขาตกใจมาก แล้วผมมาคุยกับเขาตอนหลังว่า การที่ผมบอกให้พี่ชง คือผมมั่นใจ ตอนนี้ในกรอบคือ มันอยู่ในร้านผม ผมบอกเขาว่าเขาถือเป็นคนของร้านผม มีอะไรผมเป็นคนรับผิดชอบ ให้เขาชงตามที่คิดว่าดีได้เลย
คุณบอย: เพราะว่าเมล็ดกาแฟมันแพงเนอะ แต่ละแก้วต้องแบบตั้งใจชงให้ออกมาดีที่สุด ก็เลยตื่นเต้น กดดันด้วย แล้วมาเจอร้านที่เขาเสิร์ฟกาแฟแบบตั้งใจชงให้ลูกค้าดื่ม เขาเข้ามาดื่มกาแฟ แล้วผมเป็นใคร มาชงให้คนอื่นชิมอะไรอย่างนี้ กดดันครับ
คุณบอย: ทุกวันนี้ก็ยังตื่นเต้นอยู่ครับ เวลาชงให้ลูกค้าชิมก็ยังตื่นเต้นอยู่เหมือนครั้งแรก
คุณเน่ แต่บางทีนะ ลูกค้าเขามาถามหาพี่วิน พี่วินมอเตอร์ไซค์ไม่มาหรอ บางคนรู้จักร้านผม เพราะเขานี่แหละ บางคนถึงขนาดพูดว่า ภาพจำร้านผม nip cafe คือเป็นเขาที่ยืนชงกาแฟ ไม่ใช่ผมนะ บางทีมันเป็นแบบนั้น ก็มาเล่าให้เขาฟัง เขาก็ตื่นเต้นเข้าไปอีก บางทีถึงขนาดว่าโทรไปบอกเขาว่า พี่มานี่หน่อย มีคนถามหา อยากให้พี่ชงกาแฟให้เขาชิม เป็นแบบนี้เลยนะ
คือพอร้านแบบนี้ ที่ผมพยายามทำให้ร้าน fraindly ลูกค้าแต่ละคนก็จะสนิทกัน ผมว่าลูกค้ารู้สึกดีด้วยทุกคน แล้วทุกคนจะเคารพ ไม่ใช่ว่าเขาแค่เขาเป็นวินมอเตอร์ไซค์ แต่ลูกค้า รวมทั้งเราเคารพที่เขาเป็นคนชงกาแฟ
คุณเน่: ตอนนี้สำหรับผม พี่บอยเลยมาตรฐานที่ผมตั้งไว้แล้ว สามารถเสิร์ฟกาแฟด้วยตัวเองได้แล้วครับ แต่สิ่งที่เขายังทำไม่ได้ตอนนี้และผมพยายามให้เขาทำ คือเขาต้องคุยกับลูกค้า พอเป็นกาแฟแบบ filter coffee เราอยากให้เขาคุยกับลูกค้า เราอยากให้เขารู้ว่าทำแบบนี้เพราะอะไร แต่เขาก็พยายามนะ ไม่ใช่เขาไม่พยายาม แต่เขาอาจจะยังพูดไม่เก่งมาก แต่ถ้าสมติว่าลูกค้าที่สนิทกัน โอ้ยสบาย เขาคุยได้ ซึ่งมันก็เป็นการท้าทายใหม่ๆ
ที่สำคัญปีนี้เดี๋ยวจะมีการแข่ง Aero Press ผมคิดว่าเขาจะลงในนาม Nip Café ด้วย คือ Aero Press มันเป็นรายการที่ไม่ต้องพรีเซนต์ เราก็เลยคิดว่าจะให้เขาแข่ง ตรงนี้จะเป็นอีกข้อหนึ่งที่พิสูจน์ว่า เขาจะทำได้ไหม ก็ทางพวกผมจะสนับสนุน ตอนนี้เขาก็ต้องเตรียมตัวแล้วว่าเขาลงแข่ง เราตั้งใจมาประมาณหนึ่งแล้ว เราไม่อยากให้เขาแค่ลงแข่ง เพื่อเป็นผู้ร่วมแข่งขันเฉยๆ แต่ผมบอกเขาว่า เขาต้องทำให้ดีที่สุดในการแข่ง ดีที่สุดของผมคือ คุณตั้งใจซ้อม คุณซ้อมหน่อย คุณรู้ว่าคุณทำอย่างนี้เต็มที่แล้ว แค่นั้นพอ ไม่ต้องเข้ารอบ ไม่ต้องอะไร แค่นั้นพอ
ผมคิดว่ายังไงมันก็ยังอยู่ในพื้นฐานความชอบของเขาว่า เขาชงเพราะเขาชอบ มันดีนิดนึง เพราะว่าเขาไม่ได้ชงเพราะเป็นหน้าที่ พวกผม เราไม่ได้คิดว่าเรามาเป็นคนชง แล้วเป็นหน้าที่ เป้าหมายของเราคือ ชงกาแฟแล้วก็คุยกับลูกค้า ไม่ใช่หน้าที่ว่าเป็นบาริสต้า
หน้าที่ของเขา คือเป็นวินมอเตอร์ไซต์ นี่คืออาชีพหลัก แต่การที่มาชงอย่างนี้ มันอาจพูดเท่ๆ ว่าเป็น Passion ก็ได้นะ แต่ผมพยายามให้เขารู้สึกว่าอยากชง แต่ถ้าไม่อยากชงก็ไม่ต้องชง ถ้าเขาอยากชง มาชงกัน และสิ่งที่ผมชวนเขา ผมไม่ได้บังคับเขาเลย เขาสนุก คือเหมือนกับเขาชนะตัวเองว่าเขาชงอร่อยขึ้น บางทีผมก็คิดว่าเขาน่าจะมีจุดที่เขาภูมิใจในตัวเองว่าที่ตอนนี้เขาชงอร่อย บางทีเขาภูมิใจนะ แก้วนี้ที่เขาชงลูกค้าอร่อย เขาดีใจนะ ซึ่งผมก็มีความสุข มันทำให้เห็นว่าเขาไม่ได้แค่ชงเสิร์ฟเฉยๆ
“ผมอยากให้เงินที่คนจ่ายมา ไม่ได้แค่เหมือนมาดูโชว์ที่วินมอเตอร์ไซค์มาชงกาแฟ แต่อันนี้คือราคาแก้ว คือราคาความสามารถของเขา คือความตั้งใจของเขา มันมากกว่านั้นแล้ว ผมคิดว่าเขาทำได้ บางคนบอกว่าเขาชงอร่อยกว่าผมอีก”
คุณเน่: ไม่มีนะ เพราะว่าทุกครั้งที่เขาจะชงให้ลูกค้า เขาอยู่กับผม ผมเป็นคน Control ว่าอยากให้มันเป็นในทิศทางไหน คือมันต้องมีการแนะนำ แต่ไม่มีใครไม่อยากกินกาแฟที่พี่เขาชง มีแต่คนบอกว่า เอาสิ! ลูกค้าบางคนเรียกร้องให้พี่บอยชง มากกว่าผมชงอีก ผมว่ามันเป็นสิ่งพิเศษเลยนะ ของพื้นฐานทางสังคม ไม่ว่าอะไรก็ตาม เพราะว่าจากวินมิเตอร์ไซต์ มาชงกาแฟแบบนี้ด้วย
โอเค ผมคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะมีคนคิดแบบนั้น แต่กลับกันเลย มันกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับทุกคน เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับทุกคน ซึ่งเขาก็ดีใจที่ทุกคนเป็นแบบนั้น เขาบอกทุกคนด้วยซ้ำว่าเขาเป็นวินมอเตอร์ไซค์ และทุกครั้งที่เขาอยู่ในร้าน เขาใส่เสื้อวินตลอด กลายเป็นคาแรคเตอร์เลยนะ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันดี มันน่าสนใจ มันไม่จำเป็นว่าเป็นอาชีพนี้แล้วจะชอบอย่างอื่นไม่ได้ ผมว่านี่น่าจะมีอีกหลายคนที่อยากทำแบบนี้ แต่ไม่กล้าทำ แต่เขาจะเป็นคนที่ทำเลย เขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรเยอะ แต่สิ่งที่เขาได้คือ เขาได้สกิลเพิ่ม แล้วเขามีความสุข
คือพวกวงกาแฟ เขาจะรู้จักพี่บอยเยอะ แต่คนทั่วไปเขาอาจจะยังไม่รู้จักพี่บอย จริงๆ มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมากเลยว่ามีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นด้วย คือปกติเราคิดว่าวินมอเตอร์ไซค์หาเช้ากินค่ำ ภาพเราจะเป็นแบบนั้น มันจะมีคำถามว่าจะมีคนยี้ไหมว่า เป็นวินมอเตอร์ไซค์ คือเข้าใจว่าโครงสร้างสังคมมันมีความเหลื่อมล้ำเยอะ แต่พอมาเป็นแบบนี้ คนกลับให้เกียรติ์เขาเยอะมาก ซึ่งดีนะ ถ้าเกิดอะไรแบบนี้ในองค์รวม มันเป็นอะไรที่ดีมากเลย
คุณบอย: ผมกลัวว่าถ้าถอดเสื้อวินแล้ว เดี๋ยวคนจำไม่ได้ (หัวเราะ) แต่เวลาผมไปเข้าร้านกาแฟที่อื่น ก็ยังมีคนมองอยู่ว่า ผมขับวินอย่างนี้ เข้ามาทำอะไรที่ร้านกาแฟ มีคนถามว่ามารับกาแฟหรือคะ Grab Bike หรือเปล่า
คุณเน่: คือพี่บอยเป็นคนภูมิใจในการที่เขาเป็นวินมอเตอร์ไซค์ มันเป็นสิ่งที่ดีมากอย่างหนึ่ง ถ้าสังเกตวินมอเตอร์ไซค์คนอื่น นี่เขาไมได้แต่งตัวมาเพื่อถ่ายวันนี้นะ ทุกวันเขาจะแต่งตัวมาแบบนี้ คือวินมอเตอร์ไซค์คนอื่นยังไงไม่รู้ แต่ผมมองว่าพี่บอยเป็นวินมอเตอร์ไซค์ที่ทำตามกฎระเบียบถูกต้องมากแล้ว ป้ายตรง มีชื่อชัดเจน ทะเบียนรถสีเหลือง คือเขาเคารพในตัวเอง และเขาเคารพในคนอื่น แต่บางทีเราจะติดไม่เคารพคนอื่น มันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ แต่สิ่งที่น่าชื่นชม คือเขาภูมิใจในการที่เขาเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่แบบว่าขาเป็นแค่วินมอเตอร์ไซค์ แต่มันมีบางทีที่เขาน้อยใจ แต่ในที่ที่เขาอยู่กับพวกเรา เขาไม่ใช่แค่วินมอเตอร์ไซค์
เพราะสุดท้ายแล้วเรายังติดกับภาพบางอย่างอยู่ว่า วินมอเตอร์ไซค์ก็คือวินมอเตอร์ไซค์ วินมอเตอร์ไซค์ตกเย็นเดี๋ยวคุณก็ต้องไปกินเหล้ากัน แต่สำหรับเขา เขาไปออกกำลังกาย เขากินกาแฟ
“… ไม่ใช่ว่าเขาแค่เขาเป็นวินมอเตอร์ไซค์ แต่ลูกค้า รวมทั้งเราเคารพที่เขาเป็นคนชงกาแฟ”
คุณบอย: ขนาดนั้นเลยหรอ (หัวเราะ) ให้ผมชงให้เลยหรอ
คุณเน่: เขาตื้นเต้น ผมยินดีที่คนจะมาบอกแบบนั้น ก็ไปเล่าให้คนอื่นฟัง ทุกคนก็บอกผมว่า อีกหน่อยผมไม่ต้องอยู่แล้ว พี่บอยอยู่จัดการได้เลย ซึ่งอีกหน่อยอาจจะเป็นแบบนั้นได้นะ ไม่ใช่แค่ว่า เขาชงกาแฟเป็นเฉยๆ เขาเป็นคนที่ชงกาแฟอร่อยด้วย ผมวางไว้แบบนั้น
ผมอยากให้เงินที่คนจ่ายมา ไม่ได้แค่เหมือนมาดูโชว์ที่วินมอเตอร์ไซค์มาชงกาแฟ แต่อันนี้คือราคาแก้ว คือราคาความสามารถของเขา คือความตั้งใจของเขา มันมากกว่านั้นแล้ว ผมคิดว่าเขาทำได้ บางคนบอกว่าเขาชงอร่อยกว่าผมอีก
“ผมว่ามันก็แปลกมากที่อยู่ๆ เขาจะมีคอลแลปกับอะไรแบบนี้ เป็นคนละไลฟ์สไตล์ เพราะว่าด้วยอัตลักษณ์ของวินมอเตอร์ไซค์ เราก็จะคิดว่าเขาคงต้องไปทำโน้นทำนี่ แต่อีกอย่างคือ เขามาใช้ชีวิตแบบนี้ เขามาดื่มกาแฟแบบนี้ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า มันมีอย่างนี้จริงๆ หรอ
ผมพยายามบอกเขาว่า มันน่าจะน้อยมากในประเทศที่วินมอเตอร์ไซค์มาดื่มอะไรอย่างนี้ วินที่เป็นแบบวินจริงๆ นะ ไม่ใช่แบบทำงานอื่น แล้วมาขี่วินเฉยๆ อยู่ๆ จะมาดื่มกาแฟอะไรแบบนี้ ผมก็บอกเขาว่า เขาอาจจะเป็นคนเดียวก็ได้บ้างที่มีอะไรแบบนี้”
สำหรับผู้อ่านที่อยากไปสัมผัสความอร่อยของกาแฟที่คุณบอย เป็นผู้ชง สามารถแวะไปลิ้มลองได้ที่ Nip Cafe ซึ่งตอนนี้มีสาขาใหม่ที่คลองเตย
Story: Taliw
Photo: Wara Suttiwan